การท่องเที่ยวเฉิงตู จัดงานแถลงข่าวส่งเสริมการท่องเที่ยวเชิงวัฒนธรรมเฉิงตู แหล่งท่องเที่ยวที่สำคัญและเป็นเมืองที่มีความสุขสูงสุดหนึ่งของประเทศจีน เพื่อรองรับนักท่องเที่ยวชาวไทย
ทั้งนี้ประเทศไทยและประเทศจีนเป็นแหล่งท่องเที่ยวสำคัญของโลก ด้วยความแตกต่างของการท่องเที่ยวระหว่างภูมิประเทศที่ชัดเจน ทำให้นักท่องเที่ยวของทั้งสองประเทศ มีความสนใจในการเดินทางการท่องเที่ยวระหว่างกัน เมืองเฉิงตู เป็นแหล่งท่องเที่ยวที่สำคัญและเป็นเมืองที่มีความสุขสูงสุดหนึ่งของประเทศจีน ดังนั้น เพื่อการประชาสัมพันธ์ 20 แหล่งท่องเที่ยวของเมืองเฉิงตูเพื่อรองรับนักท่องเที่ยวชาวไทย เราหวังอย่างยิ่งว่าด้วยกิจกรรมนี้สร้างเข้าใจประทับใจเกี่ยวกับสถานที่ท่องเที่ยวและวัฒนธรรมท้องถิ่นที่สำคัญของเฉิงตู ยังช่วยส่งเสริมให้มีการพัฒนาการท่องเที่ยวให้ตอบสนองตามความต้องการของคนไทย กระตุ้นศักยภาพการใช้จ่ายของประชาชนทั้งสองประเทศให้ได้รับประโยชน์สูงสุค ร่วมสร้างความเข้มแข็งในการพัฒนาท่องเที่ยวของทั้งสองประเทศต่อไป
นายรณรงค์ ชีวินสิริอำนวย นายกสมาคมผู้ประกอบการธุรกิจท่องเที่ยวสัมพันธ์ไทย-จีน กล่าวว่า ในงานส่งเสริมการท่องเที่ยวเชิงวัฒนธรรมเฉิงตู ปี2566 ณ ประเทศไทยว่านอกจากมาตรการฟรีวีซ่าจีน อยากให้รัฐบาลไทยประชาสัมพันธ์เรื่องการดูแลความปลอดภัยนักท่องเที่ยวให้เข้มข้นขึ้น เพราะช่วงที่ผ่านมาภาพลักษณ์ของไทยถูกนำเสนอเรื่องทุนจีนสีเทา การจับคนจีนเรียกค่าไถ่ในไทยค่อนข้างมาก สำหรับมาตรการฟรีวีซ่าให้กับจีน มั่นใจว่าจะช่วยกระตุ้นคนจีนมาเที่ยวไทยได้ แม้เศรษฐกิจจีนจะยังชะลอตัวแต่กลุ่มที่มีกำลังซื้อและต้องการมาเที่ยวไทยมีมาก อีกทั้งความสัมพันธ์จีน-ญี่ปุ่น /จีน-เกาหลี ที่ไม่ดีนัก เป็นแรงผลักให้นักท่องเที่ยวจีนหันมาเที่ยวไทยมากขึ้นไปอีก โดยเฉพาะกลุ่มคุณภาพ ใช้จ่ายเฉลี่ย 5-6 หมื่นบาทต่อคนต่อทริป 6 วัน นอกจากนี้อยากให้ภาครัฐสนับสนุนภาคเอกชนให้เพิ่มเที่ยวบินตรงหรือชาเตอร์ไฟลท์กับเมืองรองจีนมากขึ้น ซึ่งจีนเองก็คาดหวังว่าหากมีชาเตอร์ไฟลท์จะทำให้มีคนไทยไปเที่ยวจีนอย่างน้อย 10% ของจำนวนคนจีนที่มาเที่ยวไทย รวมถึงเตรียมความพร้อมเรื่องมัคคุเทศก์ไทยภาษาจีนที่ถูกกฎหมายเพื่อรองรับนักท่องเที่ยวที่เพิ่มขึ้น ซึ่งจะชัดเจนในต้นปีหน้า เพื่อป้องกันปัญหาขาดแคลนมัคคุเทศก์และป้องกันมัคคุเทศก์เถื่อน
ด้านนายโสพนา บุญสวยขวัญ นายกสมาคมรถโดยสารไม่ประจำทาง และรองประธานสภาอุตสาหกรรมท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย กล่าวว่า สำหรับงานส่งเสริมการท่องเที่ยวเชิงวัฒนธรรมเฉิงตู ปี 2566 ณ ประเทศไทย กลับมาจัดเป็นครั้งแรกนับตั้งแต่การแพร่ระบาดของโควิด-19 เพื่อแนะนำ 20 แหล่งท่องเที่ยวในเมืองเฉิงตู และส่งเสริมการท่องเที่ยวระหว่างไทยจีนระหว่างกัน หลังไทยดำเนินนโยบายฟรีวีซ่าจีน มั่นใจว่ามาตรการฟรีวีซ่าจีน จะทำให้ไทยเข้าใกล้เป้าหมายนักท่องเที่ยวต่างชาติมาไทย 30 ล้านคนมากขึ้น แต่รัฐบาลต้องเร่งดูแลด้านซัพพลายควบคู่ เช่น รถให้บริการท่องเที่ยว ที่ตอนนี้ต้องจอดคาอู่อยู่ถึง 40,000 คัน ตั้งแต่ช่วงโควิดแพร่ระบาด แม้จะอยากกลับมาวิ่งรถรับนักท่องเที่ยวก็ไม่สามารถทำได้ เพราะขาดเงินทุนในการซ่อมแซม เฉลี่ย 500,000 บาทต่อคัน เนื่องจากส่วนใหญ่เป็นเอสเอ็มอี จึงอยากขอให้รัฐบาลมีโครงการสนับสนุนเงินทุนดอกเบี้ยต่ำเพื่อช่วยให้ผู้ประกอบการฟื้นตัวได้ ป้องกันปัญหาขาดแคลนรถบริการที่อาจเกิดขึ้นหากนักท่องเที่ยวมามากกว่านี้ และในระยะถัดไปอยากให้รัฐบาลมีโครงการสนับสนุนรถไฟฟ้าให้บริการท่องเที่ยวให้ผู้ประกอบการในราคามิตรภาพ หรือให้สินเชื่อดอกเบี้ยต่ำเพื่อช่วยลดมลภาวะจากการทำธุรกิจภาคท่องเที่ยว
นายไพศาล ซื่อธรนุวงศ์กรรมการสมาคมมัคคุเทศ์อาชีพแห่งประเทศไทย กล่าวว่า ประเทศไทยและประเทศจีนเป็นแหล่งท่องเที่ยวสำคัญของโลก ด้วยความแตกต่างของการท่องเที่ยวระหว่างภูมิประเทศที่ชัดเจน ทำให้นักท่องเที่ยวของทั้งสองประเทศ มีความสนใจในการเดินทางการท่องเที่ยวระหว่างกัน เมืองเฉิงตู เป็นแหล่งท่องเที่ยวที่สำคัญและเป็นเมืองที่มีความสุขสูงสุดหนึ่งของประเทศจีน ดังนั้น เพื่อการประชาสัมพันธ์ 20 แหล่งท่องเที่ยวของเมืองเฉิงตูเพื่อรองรับนักท่องเที่ยวชาวไทย
เราหวังอย่างยิ่งว่าด้วยกิจกรรมนี้สร้างเข้าใจประทับใจเกี่ยวกับสถานที่ท่องเที่ยวและวัฒนธรรมท้องถิ่นที่สำคัญของเฉิงตู ยังช่วยส่งเสริมให้มีการพัฒนาการท่องเที่ยวให้ตอบสนองตามความต้องการของคนไทย กระตุ้นศักยภาพการใช้จ่ายของประชาชนทั้งสองประเทศให้ได้รับประโยชน์สูงสุค ร่วมสร้างความเข้มแข็งในการพัฒนาท่องเที่ยวของทั้งสองประเทศต่อไป
-(016)
โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น
1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์
2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี
3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี