ที่ โรงแรมเซ็นทารา แกรนด์ แอนด์ บางกอก คอนเวนชั่นเซ็นเตอร์ แอท เซ็นทรัลเวิลด์ นายแพทย์ชลน่าน ศรีแก้ว รัฐมนตรีว่าการกระทรวงสาธารณสุข เป็นประธานเปิดการประชุมเพื่อหารือและเสริมสร้างนโยบายมะเร็งในสตรี และโอกาสของการดูแลมะเร็งในสตรี ภายใต้หัวข้อ “Enhancing Women’s Cancer Care : Thailand Women Cancer Policy Forum” โดยมี นายแพทย์โอภาส การย์กวินพงศ์ปลัดกระทรวงสาธารณสุข ผศ.ดร.ทวิดากมลเวชช รองผู้ว่าราชการกรุงเทพมหานครแพทย์หญิงอัมพร เบญจพลพิทักษ์ รักษาราชการแทนอธิบดีกรมการแพทย์นายแพทย์จเด็จ ธรรมธัชอารี เลขาธิการสำนักงานหลักประกันสุขภาพแห่งชาติผู้บริหารกระทรวงสาธารณสุข รศ.นพ.วิชัย เติมรุ่งเรืองเลิศ นายกสมาคมมะเร็งนรีเวชไทย รศ.พญ.เยาวนุชคงด่าน นายกสมาคมโรคเต้านมแห่งประเทศไทย และหน่วยงานภาคีเครือข่ายร่วมงาน
นพ.จเด็จ ธรรมธัชอารี
นายแพทย์ชลน่าน ศรีแก้ว รัฐมนตรีว่าการกระทรวงสาธารณสุข กล่าวว่า โรคมะเร็ง ถือเป็นปัญหาสาธารณสุขที่สำคัญของไทย โดยเฉพาะ
โรคมะเร็งเต้านมและมะเร็งปากมดลูกที่พบมากในผู้หญิงไทย กระทรวงสาธารณสุขจึงกำหนดเรื่อง “มะเร็งครบวงจร” เป็นหนึ่งในนโยบายการดำเนินงานปี 2567 ครอบคลุมทั้งด้านการส่งเสริม การป้องกัน การคัดกรอง การวินิจฉัยและรักษา ตลอดจนการดูแลผู้ป่วยแบบประคับประคอง โดยมี Quick Win ที่จะเร่งรัดดำเนินการให้เห็นผลใน 100 วันแรก คือ การฉีดวัคซีน HPV ให้กับหญิงอายุระหว่าง 11-20 ปี จำนวน 1 ล้านคน ซึ่งจะเริ่มพร้อมกันทั่วประเทศในเดือนพฤศจิกายน 2566 นอกจากนี้ ยังพัฒนาระบบบริการสุขภาพสาขามะเร็ง ให้ครอบคลุมประชาชนในทุกเขตสุขภาพมีการดูแลรักษาส่งต่ออย่างเป็นระบบ และเบิกจ่ายค่ารักษาพยาบาลได้ตามสิทธิ หรือ มะเร็งรักษาได้ทุกที่ (Cancer Anywhere) เพื่อลดอัตราการป่วยและเสียชีวิตจากโรคมะเร็งของประชาชน
ทั้งนี้ เดือนตุลาคมของทุกปีถือเป็นเดือนแห่งการรณรงค์ต้านภัยโรคมะเร็งเต้านม กระทรวงสาธารณสุข จึงได้ร่วมมือกับภาคีเครือข่ายทั้งภาครัฐ เอกชน สมาคม จัดการประชุมครั้งนี้เพื่อเป็นเวทีให้ความรู้เกี่ยวกับการป้องกัน การตรวจคัดกรองโรคมะเร็งเต้านมและโรคมะเร็งปากมดลูก ตลอดจนการสังเกตอาการเบื้องต้นจากแพทย์ โดยมีผู้ทรงคุณวุฒิจากหน่วยงานต่างๆ มาแลกเปลี่ยนความรู้เกี่ยวกับมาตรการและแนวทางใหม่ๆ ที่จะทำให้การป้องกัน ควบคุมโรคมะเร็งในสตรีมีประสิทธิภาพมากขึ้น และมีกิจกรรมที่น่าสนใจ อาทิ การตรวจคัดกรองมะเร็งปากมดลูกสำหรับหญิงอายุ 35 ปีขึ้นไป, การคัดกรองมะเร็งเต้านมด้วยการคลำโดยผู้เชี่ยวชาญ, การตรวจ Mammogramในผู้ที่ได้รับการประเมินว่ามีความเสี่ยงสูงโดยไม่เสียค่าใช้จ่าย นอกจากนี้ ยังมีบูธให้ความรู้เกี่ยวกับโรคมะเร็งเต้านม มะเร็งปากมดลูก เป็นต้นนี้ ซึ่งทั้งหมดนี้จัดขึ้นภายใต้สโลแกน “สวย เริด เชิด สู้มะเร็ง” หรือ “Women Power No Cancer”
รศ.นพ.วิชัย เติมรุ่งเรืองเลิศ
“สธ. พัฒนาระบบบริการสุขภาพสาขามะเร็ง ให้ครอบคลุมประชาชนในทุกเขตสุขภาพ มีการดูแลรักษาและส่งต่ออย่างเป็นระบบ และเบิกจ่ายค่ารักษาพยาบาลได้ตามสิทธิ หรือที่เรียกว่า มะเร็งรักษาได้ทุกที่ Cancer Anywhere เพื่อให้ลดอัตราการเสียชีวิตจากมะเร็งของประชาชน นอกจากนี้ การตรวจคัดกรองมะเร็งด้วยตัวเอง จะเป็นอีกหนึ่งกลไกสำคัญในการช่วยป้องกันโรคมะเร็งในสตรี และเชื่อว่าหากมีการตรวจคัดกรองมากขึ้น ก็จะช่วยให้ลดอัตราการเสียชีวิตจากมะเร็งได้กว่ากึ่งหนึ่ง อีกทั้งการตรวจคัดกรองและพบว่าป่วยมะเร็งในระยะแรกเลย จะยิ่งทำให้เพิ่มโอกาสทางการรักษาให้หายขาดได้ถึง 90% ดังนั้น บุคลากรการแพทย์ รวมถึง สธ. เอง ต้องมาวางแผนร่วมกันเพื่อดูแลมะเร็งครบวงจร และขณะเดียวกัน ก็สร้างการรับรู้ และตระหนักรู้ในภาคสังคมเกี่ยวกับการป้องกันมะเร็งด้วยตัวเองให้มากขึ้น โดยเฉพาะการรณรงค์เพื่อให้เข้าถึงการตรวจคัดกรองทั้งจากโรงพยาบาล หรือตรวจคัดกรองด้วยตัวเองให้มากขึ้นด้วย” รมว.กระทรวงสาธารณสุข กล่าว
นายแพทย์จเด็จ ธรรมธัชอารี เลขาธิการ สปสช. กล่าวว่า สำหรับบริการที่เกี่ยวกับโรคมะเร็งเต้านม ซึ่งเป็นหนึ่งในมะเร็งที่พบมากในผู้หญิง ทาง สปสช. มีสิทธิประโยชน์ที่ครอบคลุมทุกขั้นตอน รวมถึงสามารถเข้ารับบริการได้ทุกที่ (cancer anywhere) แต่แรกสุดยังแนะนำ และอยากจะประชาสัมพันธ์รณรงค์ให้มีการตรวจคัดกรองด้วยการคลำตนเองก่อน อันเป็นวิธีที่ดีที่สุดในทางวิชาการสำหรับคัดกรองเบื้องต้นและเมื่อพบหรือสงสัยว่ามีก้อนเนื้อก็เข้าสู่กระบวนการตรวจเพิ่มเติมสำหรับยืนยันได้ที่สถานพยาบาล ไม่ว่าจะเป็นการใช้แมมโมแกรม หรืออัลตราซาวนด์ ซึ่งเมื่อได้ผลยืนยันแล้วก็รับการรักษาได้เลย โดยตอนนี้มีการทำศูนย์การรักษาที่เป็นผู้เชี่ยวชาญรองรับไว้เรียบร้อยแล้ว อีกทั้งต้องยอมรับว่าปัจจุบัน การรักษามะเร็งในปัจจุบัน เทคโนโลยีด้านการใช้ยามีความก้าวหน้ามาก และค่อนข้างได้ผลดีมากด้วย ฉะนั้นสิ่งที่ สปสช. ยังไม่หยุดก็คือการดูว่ามียาตัวไหนที่ออกมาใหม่และมีประสิทธิภาพในการรักษาดีก็จะเพิ่มเข้าในภายใต้ระบบหลักประกันสุขภาพแห่งชาติ (บัตรทอง) โดยขณะนี้กำลังติดตามอยู่หลายตัว
รศ.พญ.เยาวนุช คงด่าน
ด้าน รศ.นพ.วิชัย เติมรุ่งเรืองเลิศ นายกสมาคมมะเร็งนรีเวชไทย กล่าวว่ามะเร็งเต้านม และมะเร็งปากมดลูก เป็นมะเร็งที่อุบัติขึ้นมากที่สุด และเป็นสาเหตุการเสียชีวิตมากที่สุดเช่นกัน แต่ที่น่าสนใจคือมะเร็งทั้ง 2 ชนิด สามารถป้องกันได้ โดยเฉพาะมะเร็งปากมดลูก ที่ปัจจุบันเรารู้แล้วว่า ไวรัส HPV คือสาเหตุของมะเร็งชนิดนี้ และยังหาทางป้องกันได้ผ่านการตรวจคัดกรอง รวมถึงทำให้สามารถเข้าสู่กระบวนการรักษาได้เร็ว ซึ่งจะมีโอกาสรอดชีวิต แต่เป็นเรื่องน่าเสียดาย ที่ปัจจุบันเราป้องกันมะเร็งปากมดลูกได้แล้ว ทั้งการตรวจโดยแพทย์หรือการตรวจได้ด้วยตัวเอง ซึ่งอุปกรณ์การตรวจก็เป็นที่แพร่หลาย ใช้งานไม่ยาก สะดวกและรวดเร็ว แต่ก็ยังพบว่ามีผู้ป่วยหน้าใหม่จำนวนมาก และยังมีผู้เสียชีวิตสูงเช่นกัน ดังนั้น การลดตัวเลขผู้ป่วยหน้าใหม่ รวมถึงลดตัวเลขผู้เสียชีวิต จะต้องรณรงค์กันอย่างจริงจัง รวมถึงควบคู่ไปกับการสร้างความตระหนักรู้ให้กับผู้หญิงไทยเกี่ยวกับมะเร็งในสตรีให้มากขึ้น
รศ.พญ.เยาวนุช คงด่าน นายกสมาคมโรคเต้านมแห่งประเทศไทย กล่าวว่า ประเทศไทยขับเคลื่อนเรื่องมะเร็งเต้านมมานานแล้ว แต่ที่ผ่านมาอาจมีอุปสรรคปัญหา แต่ปัจจุบันที่รัฐบาลสธ. และ สปสช. ให้ความสำคัญกับการดูแลป้องกันมะเร็งเต้านมอย่างจริงจัง ด้วยการเพิ่มการบริการที่ครอบคลุม และยังมีชุดสิทธิประโยชน์การตรวจคัดกรองมะเร็งเต้านมที่ทำให้กลุ่มเสี่ยงและประชาชนทั่วไปได้ตรวจคัดกรองมากขึ้นซึ่งเป็นจุดเริ่มต้นที่ดีสำหรับประเทศ ที่จะมีโอกาสลดการเสียชีวิตจากมะเร็งเต้านม รวมถึงลดจำนวนผู้ป่วยหน้าใหม่ไปด้วย
นอกจากนี้ การรณรงค์เพื่อลดผู้ป่วยมะเร็งเต้านม ยังเป็นเป้าหมายสำคัญขององค์การอนามัยโลก (WHO)ที่ต้องการให้ประเทศสมาชิกมีมาตรการจัดการกับเรื่องนี้ ซึ่งมองกลับมายังประเทศไทย ด้วยศักยภาพของระบบสุขภาพในประเทศที่ทำได้ดีกว่าอีกหลายแห่ง และได้รับการยอมรับจากนานาชาติ หากจะจัดการปัญหามะเร็งเต้านมบนเป้าหมายลดตัวเลขผู้เสียชีวิต ก็เชื่อว่าสามารถทำได้ แต่ต้องอาศัยความร่วมมือจาก 4 ด้านในสังคมด้วยกัน คือ 1. บุคลากรการแพทย์ด้านมะเร็งที่มีคุณภาพ และเพียงพอ 2. สธ. ทำหน้าที่คอยบริหารจัดการบริการสุขภาพสาขามะเร็ง3. สปสช. ที่คอยผลักดันชุดสิทธิประโยชน์ให้กับผู้ป่วย และ 4. ประชาชน ที่จะได้รับองค์ความรู้ด้านสุขภาพมากขึ้น โดยทั้ง 4 เสาที่เข้มแข็ง หากเดินหน้าบนเป้าหมายเดียวกันอย่างเป็นระบบ นั่นคือการรณรงค์ลดการเสียชีวิต การเกิดมะเร็งเต้านม เชื่อว่าจะช่วยให้การป้องกันผ่านการตรวจคัดกรองมะเร็งเต้านมในประเทศดีขึ้น
โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น
1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์
2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี
3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี