ในวงการวรรณกรรมของไทย การเขียนเรื่องสั้นแนววิทยาศาสตร์นั้นหาได้ยากยิ่ง การมีโครงการประกวดเรื่องสั้นแนววิทยาศาสตร์ขึ้นมา ถือเป็นการช่วยส่งเสริมสนับสนุนให้นักเขียนไทยหันมาสนใจเขียนเรื่องสั้นแนวนี้มากขึ้น โครงการฯดังกล่าวได้จัดประกวดต่อเนื่องเป็นครั้งที่8 ได้รับความสนใจจากนักเขียนเพิ่มขึ้นเรื่อยมา จนในครั้งนี้ ในปี 2566 ถือเป็นปีที่มีผลงานเข้าประกวดมากที่สุด คือมีกว่า 300 ผลงาน
โครงการประกวดเรื่องสั้นแนววิทยาศาสตร์ครั้งที่ 8 ปี 2566 ได้แบ่งการประกวดออกเป็น 2ประเภทการแข่งขัน คือประเภทเรื่องสั้นแนววิทยาศาสตร์ มี 2 รุ่นคือ รุ่นประชาชนทั่วไปและ รุ่นเยาวชน และประเภทที่สอง คือเรื่องสั้นแนววิทยาศาสตร์สำหรับเด็กวัยรุ่นอายุ12-18ปี หนังสือ “รวมเรื่องสั้นฝันชั่วนิรันดร์ของแมวศุภลักษณ์” เป็นการรวมเรื่องสั้นที่ได้รับรางวัลในการประกวดทุกประเภทจำนวน 14รางวัลได้แก่
ประเภทเรื่องสั้นแนววิทยาศาสตร์ รุ่นประชาชนทั่วไป มีผู้ได้รับรางวัล 6 รางวัล ได้แก่ รางวัลชนะเลิศ เรื่องศุภลักษณ์ โดยประเสริฐศักดิ์ ปัดมะริด รองชนะเลิศอันดับ1 เรื่องหนูติดจั่น โดย นวลาภ ธีรธนาธร รองชนะเลิศอันดับ2 เรื่อง IDS:Identity Christopher โดย KP Discontinuity Syndrome รางวัลชมเชย 3 รางวัลคือ เรื่อง ปริศนาชั่วนิรันดร์ โดย กนก ณจันทร์ บทสัมภาษณ์สำหรับเช้าวันจันทร์ โดย อินท์นรี มิ่งขวัญ และ Love Android โดย ธีรินทร ภู่กาญจน์
รุ่นเยาวชนมีผู้ชนะ 3 รางวัล คือ รางวัลชนะเลิศ The Granter สร้างโลกฝันดังใจปรารถนาติ โดย อาภา ขำคม รองชนะเลิศอันดับ1 THAIVILISED 2123 โดย กชกร ศรีสุข รองชนะเลิศอันดับ2 เรื่อง พิพิธภัณฑ์อนันตา โดย พงศภัค พวงจันทร์
ประเภทเรื่องสั้นแนววิทยาศาสตร์ สำหรับเด็กวัยรุ่น อายุ12-18ปี มีรางวัล 5 รางวัล ได้แก่ รางวัลชนะเลิศ เรื่องภาพวาดของไอรา โดย เสาวรส มิตราปิยานุรักษ์ รองชนะเลิศอันดับ1 เรื่อง Empath โดย ปาณปวีร์ รองชนะเลิศอันดับ2 เด็กไม่พิเศษในระบบนิเวศของมนุษย์ไม่ธรรมดา โดย ศิริ มะลิแย้ม รางวัลชมเชย 2 รางวัลคือ กลางทะเลเวิ้งว้างสีน้ำเงินดำ โดย ไพรัตน์ ยิ้มวิลัย และ โรคซึมเศร้าของเหล่าเอไอ โดย วินาที สุวรรณเวโช
เนื้อหาสาระของเรื่องสั้นดังกล่าว จะเป็นเรื่องของการจินตนาการที่เต็มเปี่ยมเช่นนิยายวิทยาศาสตร์ ทั่วไป ส่วนการตีความนั้นนอกจากมีเอไอ หุ่นยนต์ และการเดินทางข้ามเวลาเหมือนเคย ก็มีความแตกต่างออกไปจากเดิมๆที่ผ่านมาพอสมควร มีการมองอนาคตในมุมมองใหม่ มีผลงานหลายเรื่องที่พูดถึงเทคโนโลยีล้ำๆ เช่นการฉายภาพ3มิติขึ้นกลางอากาศหรือฮอโลแกรม มีการนำเมตาเวิร์สมาใช้อย่างจริงจังในเรื่อง มีบรรยากาศแบบดิสโทเปียที่มีทั้งขยะเต็มโลกหรือไม่ก็ควันพิษปกคลุมทั่วโลก มีการจินตนาการถึงโลกอื่นที่ผู้คนมีหน้าตาแตกต่างออกไปและมีการแบ่งแยกชนชั้นเต็มขั้นกว่าที่เคย มีการเหยียดชนชั้นทางสังคมเต็มขั้น แต่อย่างไรก็ตาม ไม่ได้มีแต่ไอเดียล้ำๆแบบนี้เท่านั้น บางเรื่องราวผสมความเชื่อความเป็นไทย ฉากของสังคมไทย หรือแม้กระทั่งมีเรื่องตำนานพื้นบ้านอย่างกระสือเข้ามาในเรื่องสั้นแนววิทยาศาสตร์ได้อย่างน่าทึ่ง
“ฝันชั่วนิรันดร์ของแมวศุภลักษณ์” ถึงแม้จะเป็นเรื่องสั้นแนววิทยาศาสตร์ แต่มีเสน่ห์เฉพาะตัวคือผสมผสานจินตนาการสุดล้ำที่สะท้อนสภาพสังคมไทยในปัจจุบันได้อย่างลงตัว อ่านแล้วสนุกและรู้สึกอินและคุ้นเลยมากกว่าปกติ นอกจากได้รับความรู้ในด้านความก้าวหน้าทางวิทยาศาสตร์ การจินตนาการทางวิทยาศาสตร์ยังสะท้อนให้เห็นความคาดหวังของคนสมัยนี้ที่มีต่อวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยีในบริบทและวิถีชีวิตคนไทยอีกด้วย
การถ่ายถอดและเล่าเรื่องมีศิลปะทางวรรณกรรมอย่างไม่ต้องกล่าวถึงอยู่แล้ว เพราะได้รับการคัดสรรค์จากคณะกรรมการผู้ทรงคุณาวุฒิมาอย่างดีแล้ว อ่านแล้วก็ก็จะประทับใจในความหลากหลายของเนื้อหาและการจินตนาการ รูปแบบการเล่าเรื่อง รู้ถึงการใช้ภาษาในการประพันธ์ที่แตกต่างกันของผู้เขียนแต่ละคน สนุกสนานโลดโผน ตามจินตนาการตามแบบเรื่องสั้นทางวิทยาศาสตร์แบบไทย ๆที่น่าประทับใจ อ่านสนุกได้ทุกเพศทุกวัย หนังสือราคาเล่มละ 295 บาท จัดพิมพ์และจัดจำหน่ายโดยนานมีบุ๊คส์
การนั่งนานมีผลร้ายมากกว่าที่คิด
ไม่ว่าจะนั่งถูกหรือผิดวิธี
“Sitting to Death นั่งนาน = ตายเร็ว” เขียนโดย ผศ.ดร. สันทนี เครือขอน ผู้เขียนเป็นอาจารย์และนักกายภาพบำบัดชั้นนำของไทย ที่มีประสบการณ์ทางด้านดังกล่าวมาหลายสิบปี และมีผลงานเขียน stretching ยืดเหยียด คลายกล้ามเนื้อ เพื่อสุขภาพ กับทาง สนพ.อมรินทร์มาแล้ว "การนั่ง" ดูเหมือนจะเป็นอิริยาบถที่สบาย และไม่น่ามีผลเสียอะไรกับชีวิต แต่แท้ที่จริงแล้วการนั่งนาน ๆ ไม่ว่าจะนั่งผิดวิธี หรือนั่งถูกวิธี ก็สามารถทำร้ายร่างกายถึงขั้นนำไปสู่การเสียชีวิตได้ หนังสือเล่มนี้จะช่วยให้คุณผู้อ่านเข้าใจความซับซ้อนของการนั่ง ผลกระทบที่เกิดต่อสุขภาพหากนั่งนานเกินไปที่เราไม่เคยรู้มาก่อน แนะนำการนั่งด้วยท่าทางที่ถูกต้อง การเลือกเก้าอี้ การจัด Work Station ที่ถูกต้อง รวมทั้งการยืดเหยียด ผ่อนคลายและออกกำลังกายสำหรับผู้ที่ต้องนั่งนาน ๆ เพื่อป้องกันความเจ็บป่วยที่ตามมา ฯลฯ หนังสือเล่มนี้ถือเป็นคู่มือเกี่ยวกับ "การนั่ง" ที่สมบูรณ์ อ่านเข้าใจง่าย มีภาพประกอบชัดเจน ยกกรณีที่เราอาจคิดว่าเป็นเรื่องเล็กน้อย เกิดบ่อย ๆ และส่งผลเสียต่อสุขภาพมาเตือนภัย นำเสนอวิธีแก้ไขภายใต้หลักวิชาการ การนั่งครึ่งวัน เสี่ยงเบาหวานหัวใจ เพิ่ม 1 เท่าตัว อย่าปล่อยให้ความสบายกลายเป็นฆาตกรเงียบ ปรับพฤติกรรมการนั่งตั้งแต่วันนี้ ก่อนที่ทุกอย่างจะสายเกินไป หนังสือราคา 225 บาท
หัดตัดสินใจทิ้งสิ่งของเพียงเล็กน้อย
นำพาสู่การตัดสินใจสำคัญในชีวิต
“ทิ้งมันไป แล้วเริ่มใหม่อีกครั้ง” ผู้เขียน คธาพล รพีฐิติธรรม ปัญหายอดฮิตที่ทำให้การจัดบ้านมักจะล้มเหลวอยู่บ่อยครั้ง คือ การที่เราไม่สามารถทิ้งสิ่งของได้นั้นเอง การตัดสินใจทิ้งสิ่งของ แม้เพียงเป็นเรื่องเล็ก ๆ แต่ส่งผลต่อการดำเนินชีวิตมหาศาล เพราะการทิ้ง ทำให้เรามีระบบความคิดที่เป็นระเบียบ รู้จักลำดับความสำคัญของสิ่งของต่างๆ ทำให้เราตะหนักถึงคุณค่าของสิ่งของและสัจธรรมของชีวิตว่ามีพบก็ต้องมีจาก การทิ้งทำให้เราจะคิดไตร่ตรองอย่างถี่ถ้วนมากขึ้นว่าของสิ่งนั้นเหมาะสมกับเรามากน้อยเพียงใด ฯลฯ การตัดสินใจทิ้งไม่ใช่เรื่องง่าย ต้องอาศัยจิตใจที่แน่วแน่ ต้องมีความกล้า และการโตเป็นผู้ใหญ่ขึ้น การตัดสินใจในชีวิตเรื่องสำคัญๆในชีวิตได้ไม่ผิดพลาด ไม่ว่าจะเลือกเรียนต่อคณะในฝัน การลาออกจากงานที่ไม่ชอบ การปล่อยวางความผิดหวังและล้มเหลว การบอกลารักเก่าและเริ่มต้นรักใหม่ที่ดีขึ้น ฯลฯ สามารถทำได้โดยเริ่มจากการหัดตัดสินใจทิ้งสิ่งของจากสิ่งเพียงเล็กน้อย หนังสือเล่มนี้จะเป็นแนวทางสำหรับฝึกฝนการตัดสินใจทิ้งสิ่งของ จะมาช่วยฝึกให้คนที่ไม่สามารถตัดใจทิ้งอะไรเลยในชีวิตสามารถตัดสินใจด้วยวิธีที่น่าสนใจ และฝึกฝนง่าย หนังสือราคา 295 บาท
เรียนรู้ฟิสิกส์และเทคโนโลยีควอนตัม
ผ่านเรื่องเล่าและตัวอย่างฉบับอ่านง่าย
“ควอนตัม: จากแมวพิศวง...สู่ควอนตัมคอมพิวเตอร์” ผู้เขียน ดร. บัญชา ธนบุญสมบัติ "ควอนตัม" เป็นคำที่คุ้นหูกันมากขึ้น เพราะว่าเป็นเทคโนโลยีที่กำลังมาแรง และจัดเป็นหนึ่งในดีปเทคที่คาดว่าน่าจะส่งผลกระทบต่อเศรษฐกิจและสังคมอย่างมาก อีกส่วนหนึ่งเป็นเพราะคำนี้ถูกนำไปใช้ในบริบทต่าง ๆ (โดยไม่จำกัดว่าต้องเป็นวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี) เช่น ในภาพยนตร์ ในผลิตภัณฑ์และบริการต่าง ๆ เป็นต้น
"ดร. บัญชา ธนบุญสมบัติ" ผู้เขียนเป็นนักวิทยาศาสตร์และนักสื่อสารวิทยาศาสตร์ชั้นแนวหน้าของประเทศ จะมาเล่าการมาถึงของ "เทคโนโลยีควอนตัม" แบบอ่านง่าย ไม่เป็นวิชาการมากเกินไป โดยจัดเรียงความคิดเกี่ยวกับเนื้อหาวิชาการฟิสิกส์ควอนตัมให้เด่นชัดขึ้น เริ่มตั้งแต่ลำดับเหตุการณ์และการก่อเกิดแนวคิดต่าง ๆ ที่ทำให้นักฟิสิกส์พัฒนาทฤษฎีควอนตัมขึ้นมาจนสำเร็จ ตลอดจนการประยุกต์ความรู้ทางควอนตัมจนเกิดเป็นเทคโนโลยี รวมทั้งการประยุกต์ทฤษฎีควอนตัมในบริบทต่าง ๆ อย่างกว้างขวาง และปิดท้ายด้วยความน่าฉงนที่เกิดขึ้นในการตีความกลศาสตร์ควอนตัม หนังสือราคา 379 บาท
ภาคต่อนิยายสุดฮิต"บุพเพสันนิวาส"
สนุกสนาน เหตุการณ์ช่วงเปลี่ยนแผ่นดิน
พรหมลิขิต เป็นภาคต่อของนิยายสุดฮิต "บุพเพสันนิวาส" ปลายปากกาของ "รอมแพง" มาในภาคใหม่ด้วย โดยมีสาวน้อยสู้ชีวิตอย่างพุดตานทะลุมิติมาเพิ่มมาอีกคน พุดตาน เป็นหลานห่างๆ ของสิตางค์ (แม่ของเกศสุรางค์) ในวัย 20 ปีที่มีอาชีพนักจัดสวนได้เจอหีบโบราณและสมุดข่อยจากคนงานที่ขุดได้ ซึ่งเป็นมนต์กฤษณะกาลีที่ถูกฝังเอาไว้ เมื่อเธอแตะมันทำให้ได้ย้อนเวลากลับไปในอดีต ไปยังกรุงเทพทวารวดีศรีอยุธยา รัชสมัยขุนหลวงท้ายสระ และเป็นช่วงการเปลี่ยนแผ่นดิน เธอได้พบกับหมื่นมหาฤทธิ์ ลูก คุณหญิงการะเกด (เกศสุรางค์) กับ ออกญาวิสูตรสาคร พุดตานพยายามเอาตัวรอดใช้ชีวิตในที่ๆไม่คุ้นเคย ด้วยการปลูกผักทำสวน ค้าขายหาเลี้ยงชีพ และในที่สุดก็ได้พบกับเกศสุรางค์ เมื่อเจอหน้ากันต่างฝ่ายต่างรู้สึกคุ้นเคยราวกับเคยอยู่ร่วมกันมา เกศสุรางค์ชวนพุดตานไปบ้าน ทุกคนให้การต้อนรับเธออย่างดี ยกเว้น คุณหญิงจำปา เพราะไม่อยากให้หมื่นมหาฤทธิ์ชอบพอกับพุดตาน แม้ทั้งคู่จะมีท่าทีขิงก็ราข่าก็แรงกันในระยะแรก แต่ความรักก็ก่อตัวขึ้นกลางใจทั้งสองโดยไม่รู้ตัว นิยายเรื่องนี้ผู้เขียนไม่ได้เน้นเล่าประวัติศาสตร์ และไม่มีประวัติศาสตร์เข้มข้นอย่างเรื่องบุพเพสันนิวาส แต่เน้นเล่าในเชิงของการข้ามผ่านยามผลัดเปลี่ยนแผ่นดิน กลวิธีการเขียนก็แตกต่างออกไปพอสมควร ไม่มีความละมุนละไมเท่าบุพเพสันนิวาส จะมีความบ้านๆ กว่ามาก เพราะนางเอกไม่อินกับอะไรเลยนอกจากเรื่องของการกิน หนังสือราคาเล่มละ 300 บาท
โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น
1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์
2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี
3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี