ภาวะสมองพิการ หรือ Cerebral Palsy เกิดจากสมองที่ได้รับบาดเจ็บจากสาเหตุต่างๆ ในช่วงเด็กทารกหรือเด็กเล็ก ส่งผลให้มีพัฒนาการที่ล่าช้าโดยเฉพาะ ด้านกล้ามเนื้อ กระทบต่อการใช้ชีวิตในอนาคต จึงควรรีบพามารักษา ฝึกกระตุ้นพัฒนาการอย่างต่อเนื่อง เพื่อคุณภาพชีวิตที่ดีขึ้นได้
นายแพทย์ศุภชัย เลาหพงศ์สมบูรณ์ กุมารแพทย์เฉพาะทางด้านประสาทวิทยา โรงพยาบาลเวชธานี กล่าวว่า ภาวะสมองพิการ เป็นความผิดปกติของสมองที่เกิดจากสมองได้รับการบาดเจ็บอย่างถาวรในช่วงสมองยังพัฒนาได้ไม่เต็มที่ส่งผลให้เกิดความผิดปกติของการเคลื่อนไหวร่างกาย การขยับแขนขา ลำตัว การทรงตัว ยืน เดิน ผิดปกติหรืออาจเดินไม่ได้ ส่วนใหญ่มักเป็นมาแต่กำเนิด หรือตั้งแต่ช่วงทารก พบได้บ่อยในทารกที่คลอดก่อนกำหนด, น้ำหนักแรกคลอดน้อย, ภาวะขาดออกซิเจนในช่วงคลอด เป็นต้น
อาการของเด็กสมองพิการ จะสังเกตได้จากพัฒนาการที่ล่าช้ากว่าในกลุ่มวัยเดียวกัน เช่น การชันคอ, พลิกตัว, นั่ง, คลาน, เดิน ชอบใช้แขนข้างใดข้างหนึ่งก่อนวัยอันควร เป็นต้น
ส่วนสาเหตุการบาดเจ็บของสมองเกิดได้ตั้งแต่ในระยะก่อนคลอด ระหว่างคลอด และหลังคลอด โดยความเสี่ยงตั้งแต่อยู่ในครรภ์ คือ มีการติดเชื้อของคุณแม่ตั้งครรภ์ เช่น โรคหัดเยอรมัน โรคอีสุกอีใส โรคเริม โรคซิฟิลิส, การขาดออกซิเจนของทารกในครรภ์, รกเกาะต่ำ, อุบัติเหตุที่ทำให้สมองของทารกได้รับการกระทบกระเทือนตั้งแต่อยู่ในครรภ์
ส่วนความเสี่ยงระหว่างคลอด คือคุณแม่มีภาวะคลอดก่อนกำหนด, มีปัญหาคลอดยาก, น้ำหนักแรกคลอดน้อย,มีภาวะเลือดออกในสมองหรือสมองขาดออกซิเจนในช่วงแรกเกิด, รกพันคอ,ติดเชื้อ, มีเลือดออกในสมองขณะคลอด และความเสี่ยงหลังคลอด คือเด็กอาจจะติดเชื้อหลังคลอด หรือ อุบัติเหตุกระทบกระเทือนศีรษะ, เนื้อสมองที่เจริญผิดปกติ,ภาวะตัวเหลือง, โรคทางพันธุกรรม
ภาวะสมองพิการแบ่งตามอาการทางระบบประสาทออกเป็น 4 ประเภท ดังนี้ 1.โรคสมองพิการชนิดเกร็ง (Spastic cerebral palsy) พบได้มากที่สุดของเด็กสมองพิการทั้งหมดจะมีอาการแข็งเกร็งของกล้ามเนื้อโดยเฉพาะแขนหรือขาอาจเกิดขึ้นได้ตลอดทั้งตัว เช่น ลำตัวและแขนขาเกร็งครึ่งซีก ขามีอาการเกร็งมากกว่าแขน ขาและแขนทั้งสองข้างมีอาการเกร็ง 2.โรคสมองพิการชนิดเคลื่อนไหวผิดปกติ (Athetoid cerebral palsy) พบได้ประมาณ 1 ใน 4 ของเด็กสมองพิการ จะมีอาการกล้ามเนื้อหดเกร็ง ผิดรูป หรือบิดเกร็งไป-มา ไม่สามารถควบคุมการเคลื่อนไหวของร่างกายได้ บางรายอาจมีคอเอียง ไหล่บิด มือเกร็ง ร่วมด้วย
3.โรคสมองพิการชนิดเดินเซ ( Ataxic cerebral palsy) พบได้น้อย มีปัญหาในการทรงตัว สมดุลร่างกายและการประสานงานของระบบต่างๆ รวมทั้งอาจมีอาการสั่นร่วมด้วย 4.โรคสมองพิการชนิดผสม (Mixed cerebralpalsy) คือ มีภาวะสมองพิการมากกว่า 1 ชนิดร่วมกัน
สำหรับการรักษาภาวะสมองพิการจะเป็นการรักษาด้วยทีมสหสาขาวิชาชีพ ซึ่งประกอบด้วย กุมารแพทย์สาขาประสาทวิทยา, กุมารแพทย์เฉพาะทางด้านพัฒนาการและพฤติกรรม, กุมารแพทย์โรคระบบทางเดินหายใจ, กุมารแพทย์เฉพาะทางด้านโภชนาการ,กุมารแพทย์โรคระบบทางเดินอาหาร, โสต ศอ นาสิกแพทย์, จักษุแพทย์, ประสาทศัลยแพทย์ ศัลยแพทย์กระดูกและข้อ แพทย์เวชศาสตร์ฟื้นฟู นักกายภาพบำบัดนักกิจกรรมบำบัด โดยจะเน้นการรักษาแบบฟื้นฟู เช่น กิจกรรมบำบัด กายภาพบำบัด รวมไปถึงการรักษาด้วยยา เพื่อลดอาการเกร็ง กระตุ้นพัฒนาการและศักยภาพของเด็กสมองพิการ เพื่อสามารถมีคุณภาพชีวิตที่ดีขึ้น
อย่างไรก็ตาม โรคสมองพิการมีอาการหลายลักษณะ แนะนำให้คุณพ่อ-คุณแม่ที่กำลังมีลูก โดยเฉพาะคุณแม่ที่คลอดลูกก่อนกำหนด หรือ น้ำหนักตัวแรกคลอดน้อย ควรเฝ้าสังเกตอาการอย่างใกล้ชิด หากสงสัยว่ามีความผิดปกติ ควรรีบมาปรึกษาแพทย์โดยเร็ว เพื่อประเมินและรับการรักษาที่เหมาะสม
โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น
1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์
2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี
3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี