เพื่อตอบสนองความต้องการของคุณพ่อคุณแม่ หรือผู้ปกครองที่มีความกังวลใจในเรื่องความสูงของเด็กๆ ที่มีปัญหาการเจริญเติบโตช้า หรือมีความสูงต่ำกว่าเกณฑ์มาตรฐาน “HiCare ศูนย์ความสูง” เปิดสาขาที่ 2 ที่ The 9th Towers Grand Rama 9 บนถนนพระราม 9 บนพื้นที่กว่า 500 ตารางเมตร หลังจากประสบความสำเร็จจากสาขาแรกที่ QissMall กล้วยน้ำไท ภายใต้แนวทางพัฒนาความสูงเฉพาะบุคคลแบบ “มุ่งเป้า” บนหลักการองค์ความรู้ทางการแพทย์ และวิทยาศาสตร์ที่พิสูจน์ได้ พร้อมนำเข้าอุปกรณ์ที่จะช่วยพัฒนาความสูง 3 นวัตกรรมล่าสุดที่ได้รับสิทธิบัตรทางปัญญาและการทดลองทางการแพทย์มาใช้เป็นแห่งแรกและที่เดียวในประเทศไทย
นางเพ็ญศิริ ปันยารชุน ผู้อำนวยการศูนย์ฯ เปิดเผยว่า “HiCare ศูนย์ความสูง” ก่อตั้งขึ้นจากการรวมตัวของทีมผู้เชี่ยวชาญด้านการพัฒนาศักยภาพความสูง ได้แก่ ทีมบุคลากรอาจารย์ทางการแพทย์นักกายภาพบำบัด นักวิทยาศาสตร์การกีฬา ผู้เชี่ยวชาญด้านโภชนาการ นักวิจัย และทีมผู้ชำนาญด้านการปรับบุคลิกภาพ ร่วมกันนำองค์ความรู้ ทั้งภาคทฤษฎี และปฏิบัติ รวมทั้งเครื่องมือทางการแพทย์และกายภาพ มาใช้เพื่อพัฒนาศักยภาพด้านความสูงโดยเฉพาะ ให้กับเด็กที่กังวลเรื่องความสูง หรือเด็กที่มีปัญหาการเจริญเติบโตของร่างกายที่ทำให้สูงช้า หรือสูงไม่ได้มาตรฐานตามวัย ภายใต้ปัจจัยพื้นฐานที่มีผลต่อความสูงในเด็ก ทั้งทางด้านพันธุกรรม โรคประจำตัวโภชนาการ กิจวัตรประจำวัน และการออกกำลังกาย ซึ่งล้วนแล้วแต่มีผลต่อการเจริญเติบโตของเด็ก
“HiCare ศูนย์ความสูง มองเห็นโอกาสในการพัฒนาศักยภาพความสูงในเด็กแต่ละคนในช่วงเวลาทองของความสูง (Growth Period) ด้วยการเสริมสร้างปัจจัยที่มีส่วนช่วยกระตุ้นความสูงในทุกๆ องค์ประกอบ ภายใต้แนวทางพัฒนาบนหลักการและองค์ความรู้ที่พิสูจน์ได้ จึงได้เปิดให้บริการ “HiCare ศูนย์ความสูง”สาขาแรกในปี 2564 ที่ตึก QissMall กล้วยน้ำไท โดยมีเป้าหมายที่จะพัฒนาศักยภาพความสูงให้กับเด็กวัย 6-18 ปี ด้วยโปรแกรมเพิ่มศักยภาพความสูง 3 โปรแกรมหลัก เด็กๆที่เข้าโครงการจะได้รับการดูแลจากผู้เชี่ยวชาญในแต่ละด้านแบบตัวต่อตัว หรือ “One On One Expert Service” ประกอบด้วย หนึ่ง โปรแกรม “Fit to TALL” คือ โปรแกรมการออกกำลังกายควบคู่กับการทำกายภาพบำบัดเพื่อส่งเสริมด้านความสูง ซึ่งถูกออกแบบเฉพาะบุคคล (Personal Precision Training for Height) “มุ่งเป้า” เพื่อความสูง และหาจุด “ที่สุด” ของการหลั่งสาร IGF-1 (โกรทฮอร์โมนช่วยเพิ่มความสูง) โดยการทำงานของทีมงานนักวิทยาศาสตร์การกีฬาที่ผ่านการอบรมการฝึกสอนการออกกำลังกายในเด็ก และผ่านการดูแลนักกีฬาเยาวชนทีมชาติ และนักกายภาพบำบัดชำนาญการ
สอง โปรแกรม “Chill to TALL” คือ โปรแกรมด้านกายภาพและการออกกำลังกาย โดยเน้นการช่วยยืดเหยียดกล้ามเนื้อ และเตรียมความพร้อมของกระดูกเพื่อ “มุ่งเป้า” เพิ่มความสูง
โดยทีมงานนักกายภาพบำบัดชำนาญการและสาม โปรแกรมเช็คโอกาสสูง “10 Checklist” คือ โปรแกรมทดสอบสมรรถภาพทางกาย และสรีรวิทยาจากผู้เชี่ยวชาญ เพื่อตรวจวิเคราะห์โอกาสสูง 10 รายการ พร้อมคำแนะนำแนวทางปฏิบัติในการเพิ่มความสูงง่ายๆ ที่บ้าน”
ทั้งนี้ จากการตอบรับของผู้ปกครอง และเด็กๆ ที่เข้ามาใช้บริการเพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่อง “HiCare ศูนย์ความสูง” จึงได้เปิดสาขาที่ 2 ที่ตึกThe 9th Towers Grand Rama 9 บนถนนพระราม 9 หลังเซ็นทรัล พระราม 9 บนพื้นที่กว่า 500 ตารางเมตร แบ่งออกเป็น 3 โซน ได้แก่ 1.โซนออกกำลังกาย (Fit to TALL Zone) เพื่อส่งเสริมการสร้างกระดูกและกล้ามเนื้อ เป็นการใช้กิจกรรมออกกำลังกาย เพื่อช่วยกระตุ้นการหลั่งของโกรทฮอร์โมน (Growth Hormone) โดยเฉพาะฮอร์โมนตัวสำคัญต่อการออกกำลังกายระหว่างวัน (Insulin like Growth Factor-1: IGF-1) ที่ช่วยเสริมสร้างมวลกระดูก และกล้ามเนื้อให้แข็งแรง ซึ่งมีอุปกรณ์หลากหลายเพื่อการกระตุ้นความสูง ด้วยการกระแทกและยืดเหยียด และฟื้นฟูกล้ามเนื้อ ปรับกระดูกสันหลังให้ยืดตรงและแข็งแรง
2.โซนกายภาพบำบัด เป็นการใช้อุปกรณ์กายภาพบำบัดที่ทันสมัยหลายชนิด ที่มีประสิทธิภาพในการเพิ่มความสูงที่แตกต่างกัน เช่น อุปกรณ์กระตุ้นโกรทเพลท (Growth plate หรือ Epiphyseal plate) ในบริเวณข้อต่อ และกระดูก ที่อยู่บริเวณร่างกายรยางค์ส่วนล่าง (Lower limb) และลำตัว โดยการส่ายไปมาเพื่อกระตุ้นการไหลเวียนของกระแสเลือดและคลายกล้ามเนื้อ ผ่านเครื่องมือแพทย์นำเข้าจากประเทศญี่ปุ่น โดยเฉพาะเครื่องยิงรังสีอินฟาเรด และเครื่องมือด้านกายภาพและอุปกรณ์ช่วยยืดกระดูกสันหลัง และกล้ามเนื้อ โดยนักกายภาพชำนาญการ เป็นตัวเสริมในการยืดกระดูกสันหลังโดยเพิ่มช่องว่างระหว่างหมอนรองกระดูก เพื่อรองรับโกรทฮอร์โมนที่ถูกกระตุ้นในการเข้าไปเกาะโกรธเพลท เพื่อผลิตเนื้อกระดูก รวมทั้งกล้ามเนื้อส่วนหลัง และสะโพก และ 3.บริการให้คำแนะนำในเรื่องสำคัญที่เป็นปัจจัยในการพัฒนาความสูง จากผู้เชี่ยวชาญแขนงต่างๆ ดังนี้ บริการตรวจวิเคราะห์โครงสร้างสรีระทางร่างกายพื้นฐานของเด็กแต่ละคน พร้อมให้คำแนะนำผู้ปกครองในกรณีของเด็กๆ ที่มีปัญหาด้านสรีระ เช่น กระดูกสันหลังคด หลังคุ้ม คอยื่น ไหล่เอียง หรือเท้าแป ซึ่งมีผลสำคัญอย่างมีนัยต่อการเจริญเติบโตของน้องๆ โดยเฉพาะด้านความสูง
“HiCare ศูนย์ความสูง” สาขาที่ 2 นี้มาพร้อม 3 นวัตกรรมใหม่ล่าสุดเพื่อเพิ่มศักยภาพความสูง ที่ “HiCare ศูนย์ความสูง” นำมาใช้แห่งแรกและที่เดียวในเมืองไทย ภายใต้ลิขสิทธิ์ทางปัญญาและการทดลองทางการแพทย์ ได้แก่ 1.เครื่องตรวจองค์ประกอบร่างกาย Body Composition Analysis นวัตกรรมใหม่ล่าสุดที่นำผลการวัดความสูง การตรวจมวลกล้ามเนื้อ ฯลฯ ในเครื่องเดียวกัน มาใช้ในการวิเคราะห์องค์ประกอบของร่างกายเครื่องแรกในประเทศไทย 2.เครื่องตรวจวิเคราะห์ลักษณะเท้า และน้ำหนักแรงกดฝ่าเท้า Podogram Analyzer มาตรฐานการใช้งานเฉพาะในโรงพยาบาลชั้นนำที่ถูกนำมาใช้ในศูนย์ความสูงแห่งแรกในประเทศไทย และ 3.เครื่องออกกำลัง Vertimpact เพียง 15 นาที เทียบเท่ากับการกระโดดเพื่อการกระแทกถึง 600 ครั้ง สิทธิบัตรทางปัญญา และมีผลการทดลอง ทดสอบประสิทธิภาพทางการแพทย์ (Clinical Trial) เครื่องแรกของโลกในประเทศไทย
“เรามั่นใจว่า “HiCare ศูนย์ความสูง” คือ ผู้นำศูนย์พัฒนาศักยภาพความสูง และที่สุดของศูนย์ความสูง ไม่ว่าจะเป็นด้านขนาดใหญ่ที่สุดในประเทศ นวัตกรรม อุปกรณ์ เครื่องมือทางการแพทย์ และด้วยความตั้งมั่นในความเป็นเลิศด้านบริการ เราเข้าใจ และให้ความใส่ใจในบริการให้กับเด็กๆ ทุกคน ในรูปแบบ “One On One Expert Service” เพราะเราเชื่อว่าเด็กแต่ละคนมีความแตกต่าง และมีศักยภาพเฉพาะตนที่สามารถดึงออกมาออกแบบโปรแกรมพัฒนาความสูงที่เหมาะสมกับเด็กแต่ละคน ผ่านการแนะนำจากผู้เชี่ยวชาญผู้ชำนาญการระดับประเทศในศาสตร์ต่างๆ หลายแขนงที่เกี่ยวข้องกับการพัฒนาความสูง เสริมด้วยการสรรหานวัตกรรมที่ทันสมัยมาให้บริการ”นางเพ็ญศิริ ปันยารชุน ผู้อำนวยการศูนย์ฯกล่าวในที่สุด
โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น
1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์
2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี
3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี