ย้อนเวลากลับไปในปี 2558 วิภาวรรณ เหล่าธนาสิน ซึ่งเป็นผู้ก่อตั้งและกรรมการผู้จัดการ เดอะ ทับแขก กระบี่ (The Tubkaak Krabi Boutique Resort) ที่พักระดับลักชูรี่ยอดนิยมของนักเดินทางทางจากทุกมุมโลก มีวิสัยทัศน์เกี่ยวกับธุรกิจโรงแรมในอนาคตว่าจะมีการเปลี่ยนรูปแบบและบริการไปจากเดิม อันเนื่องมาจากวิถีชีวิตของคนรุ่นใหม่ที่มีแนวโน้มให้ความสำคัญกับการดูแลสุขภาพ และตระหนักถึงสภาวะสิ่งแวดล้อม ตลอดถึงความยั่งยืนของโลกมากขึ้นที่สำคัญโรงแรมยังต้องเป็นจุดหมายปลายทางที่เติมเต็มทั้งการพักผ่อน ความสุขและประสบการณ์พิเศษให้กับชีวิต แล้วยังได้ร่วมจับมือดูแลรักษาโลกไปพร้อมกัน
นั่นคือ จุดเริ่มต้นของพิมพ์เขียวแห่งแรงบันดาลใจของ โรงแรมวารานา กระบี่ (Varana Hotel Krabi) ที่ทำการศึกษา วิเคราะห์ วางแผนและออกแบบก่อสร้างบนหลักการแห่งความยั่งยืน (Sustainability) ในมิติต่างๆ ที่มีทั้ง holistic wellness และ sport activities อยู่ร่วมกันแห่งแรกในจังหวัดกระบี่ โดยเปิดประตูต้อนรับนักเดินทางที่ต้องการสัมผัสประสบการณ์การพักผ่อนแบบ “Wellcation” ท่ามกลางวิวอันงดงามของภูเขาและทะเลอันดามัน ไปเมื่อเดือนเมษายน 2566 ที่ผ่านมา
วิภาวรรณ เหล่าธนาสิน
ในฐานะคนทำโรงแรม วิภาวรรณ เหล่าธนาสิน กรรมการผู้จัดการของโรงแรมวารานา และลูกสาว ชลชญา นันทวิสัย หัวหน้าฝ่ายพัฒนาธุรกิจองค์กร ตั้งใจเลือกที่ตั้งของโรงแรมที่จะเติมพลังบวกและสร้างความทรงจำที่ดีให้แก่ผู้มาเยือน จนค้นพบพื้นที่กว่า 20 ไร่ ท่ามกลางอากาศบริสุทธิ์บนเนินเขาเหนืออ่าวทับแขกเป็นจุดที่มองเห็นภูมิทัศน์อันกว้างไกลและหมู่เกาะน้อยใหญ่ของท้องทะเลอันดามัน และความงดงามของเขาหางนาค หนึ่งในสถานที่ท่องเที่ยวยอดนิยมของจังหวัดกระบี่ พื้นที่ได้ถูกจัดวางเป็นกลุ่มอาคารที่พัก 6 หลัง ที่เป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อม มีการจัดการอย่างยั่งยืน ห้องพักสไตล์เรียบหรู มีห้องอาหารมากถึง 5 ห้องอาหารสปอร์ตคอมเพล็กซ์ และสิ่งอำนวยความสะดวกเพื่อการผ่อนคลายอย่างเต็มที่ รวมถึงสระว่ายน้ำขนาดโอลิมปิก สปา และออนเซ็น ท่ามกลางภูมิทัศน์ที่ออกแบบให้กลมกลืนธรรมชาติและที่สำคัญ คือไม่เอาเปรียบธรรมชาติผู้เป็นเจ้าของสถานที่ที่แท้จริง
“หัวใจของ วารานา คือ “The Wellcation Experience”เป็นการใช้ชีวิตในวันหยุดพักผ่อนอย่าง “เต็มที่” คือ กินอิ่ม นอนหลับ เที่ยวสนุกและเป็นประสบการณ์การท่องเที่ยวแบบให้ความสำคัญเรื่องความยั่งยืนของโลกที่เป็นมิตร เห็นคุณค่าในการรักษาทรัพยากรธรรมชาติและการมีส่วนร่วมกับชุมชน ด้วยการมอบประสบการณ์ใหม่ๆ ผ่านกิจกรรมไลฟ์สไตล์ที่สนุกสนาน ชิมอาหารที่อร่อย ห้องพักที่นอนหลับพักผ่อนสบาย การดูแลสุขภาพอย่างยั่งยืนด้วยวิถีธรรมชาติบำบัด รวมถึงการนวดสปา อันเป็นจุดเด่นของวารานา ในการประยุกต์ศาสตร์แพทย์แผนไทยอันเป็นภูมิปัญญาที่บรรพบุรุษของไทยได้สั่งสมสืบทอดมายาวนานผนวกกับภูมิปัญญาตะวันออก รวมถึงกิจกรรมกีฬาทั้งกลางแจ้งและในร่มที่หลายหลาก
ทุกอณูของพื้นที่ได้ถูกออกแบบและนำเสนอภายใต้ DNA ของ วารานา คือโรงแรมแห่งการเรียนรู้ที่ให้ประสบการณ์ที่สนุกสนานและมีคุณค่า รวมถึงเป็นโรงแรมต้นแบบเพื่อความยั่งยืนของโลก ดังเช่นชื่อ“วารานา” ที่มาจากความเคารพต่อธรรมชาติ วานา หมายถึง ป่า, นาวา หมายถึง น้ำ และ นารา หมายถึง มนุษย์ รูปทรงสามเหลี่ยมแห่งความสัมพันธ์ที่อยู่ร่วมกันอย่างสมดุลและมั่นคง” วิภาวรรณ กล่าว
ในมิติการออกแบบตกแต่ง วิภาวรรณ วางแนวความคิดของ วารานา คือ Minimalist Luxury ที่ใส่หัวใจของ Sustainability เน้นความเรียบง่าย แต่ยังคงสวยงามหรูหราและร่วมสมัย ตามแนวคิด Less is more หรือ น้อยนิดมหาศาล ด้วยการลดทอนวัสดุสิ้นเปลือง แต่มากด้วยประโยชน์ใช้สอย มีความปลอดภัยสูง เน้นโทนสีจากธรรมชาติ ซึ่งเป็นกลุ่มสีที่ให้ความรู้สึกเบา สบาย และที่สำคัญคือ การเน้นเรื่องความยั่งยืน (Sustainability)ในทุกรายละเอียดของการตกแต่ง ซึ่งผ่านกระบวนการคิดของทีมงานที่ศึกษาและทำงานด้านนี้โดยเฉพาะ ประกอบไปด้วยกลุ่มสถาปนิก วิศวกร มัณฑนากร และนักวิชาการด้านสิ่งแวดล้อมแขนงต่างๆ
ความตั้งใจเหล่านี้ถูกถ่ายทอดผ่านเรื่องราวสู่งานออกแบบและตกแต่งอาคารที่เป็นมิตรกับสิ่งแวดล้อม อาทิ ระบบปรับอากาศที่มีประสิทธิภาพสูง ประหยัดพลังงานไฟฟ้าได้ถึง 40%เมื่อเทียบกับระบบปรับอากาศทั่วไป ได้มีการนำระบบฮีท เอ็กซ์เชนจ์ (Heat Exchange System) มาใช้เพื่อผลิตน้ำร้อนจากระบบปรับอากาศ อันเป็นผลพลอยได้จากการที่ไม่ต้องระบายความร้อนทิ้งแบบสูญเปล่า รวมถึงการทำธนาคารน้ำแห่งแรก เต็มพื้นโครงการเพื่อเพิ่มระดับน้ำใต้ดิน ลดปริมาณน้ำเสียสู่ชุมชนและเป็นการเพิ่มความชุ่มชื่นให้ผิวดิน ทำให้ต้นไม้และพืชพรรณในบริเวณนั้นเขียวชอุ่มตลอดทั้งปี ได้มีการนำนาโนเทคโนโลยีมาใช้ในกระบวนการผลิตน้ำเพื่อบริโภค เป็นการเพิ่มประสิทธิภาพในการการจัดมลพิษในน้ำและป้องกันมลพิษไปสู่สิ่งแวดล้อม มีการเลือกใช้วัสดุรีไซเคิล เช่นเศษไม้ เศษกระเบื้อง ขวดพลาสติกที่ใช้แล้ว เศษผ้าเหล่านี้ เป็นต้น มาแปรรูปเป็นวัสดุตกแต่งที่สวยงามในแต่ละพื้นที่ใช้สอย
นอกจากห้องพักที่สวยงาม มีความสะดวกสบายแล้วสิ่งอำนวยความสะดวกต่างๆ ยังได้รับการออกแบบอย่างประณีต เลือกใช้วัสดุที่เป็นมิตรกับสิ่งแวดล้อม เช่น พรมปูพื้นในห้องพักผลิตจากขวดน้ำพลาสติกที่ใช้แล้ว เฟอร์นิเจอร์จากไม้เก่า กรอบกระจกเงา ผลิตจากเศษไม้ โคมไฟจากไม้ไผ่ ผ้าบุผนังบางส่วนผลิตจากผ้ากระสอบที่ผ่านการใช้งานมาแล้ว โซฟาที่หุ้มด้วยผ้ารีไซเคิลไม่ฟอกย้อม ผ้าห่มผลิตจากใยไผ่ เป็นต้น
วารานา ยังให้ความสำคัญกับแนวคิด ขยะเหลือศูนย์(Zero waste) ในทุกแง่มุม เช่น การแยกเศษผักที่หั่นทิ้งระหว่างปรุงอาหารหรือเปลือกไข่ที่ตอกแล้วมาใส่เครื่องผลิตปุ๋ยหมักคุณภาพดีเพื่อนำไปใช้ปลูกต้นไม้ในโรงแรม รวมถึงนำเปลือกมะนาวกับเปลือกส้มที่คั้นน้ำออกแล้ว ไปหมักจนได้กรดมะนาว แล้วนำมาใช้ทำน้ำยาอเนกประสงค์ สามารถใช้ทำความสะอาดพื้นและเช็ดกระจกได้ซึ่งเป็นความตั้งใจที่จะหลีกเลี่ยงการใช้สารเคมีให้มากที่สุดเท่าที่ทำได้
“เราจะเป็นโรงแรมต้นแบบแห่งความยั่งยืน นี่คือข้อความแรกๆ ที่ถูกเขียนไว้บนพิมพ์เขียวของ วารานา ไม่เพียงการออกแบบและการเลือกใช้วัสดุรีไซเคิลเท่านั้น เรายังให้ความสำคัญกับเรื่องนี้แบบ 360 องศา โรงแรมวารานา จะต้องนำเสนอเรื่องราวดีๆ ต่อสังคม มีคุณค่าให้ความรู้และมีประโยชน์ที่เป็นรูปธรรม นำไปต่อยอดเพิ่มความยั่งยืนให้กับโลกของเรา” วิภาวรรณ กล่าวในที่สุด
ข้อมูลเพิ่มเติมเกี่ยวกับโรงแรมวารานา คลิกที่ https://varahotel.com สำรองห้องพักได้ที่โทร.02-8216362 หรือ อีเมล rsvn@varanahotel.com
โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น
1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์
2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี
3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี