ศาลาสุทธสิริโสภา จัดการแสดง exclusive “50 Years of Legacy : A preview of 2024 celebration of Nat Yontararak’s 50 years of legacy” โดย ณัฐ ยนตรรักษ์ นักเปียโนมือวางอันดับหนึ่งของประเทศ ศิลปินร่วมสมัย รางวัลศิลปาธร สาขาคีตศิลป์ ประเทศไทย เพื่อฉลองครึ่งศตวรรษกับการสร้างผลงานการประพันธ์เพลงและบรรเลงเปียโนคลาสสิกให้เป็นที่ประจักษ์ในระดับโลกตลอด 50 ปี ในการแสดงครั้งนี้เป็นการนำบทเพลง “บุตรน้อยหลงหาย” ซึ่งเป็นการผสมผสานของศิลปะการแสดงพื้นบ้านลิเกจับคู่กับดนตรีคลาสสิก และเคยจัดแสดงมาแล้วทั่วยุโรปใน 6 ประเทศ 15 เมือง จนได้รับการยกย่องว่าเป็นการแสดงงดงาม ทลายกำแพงทางภาษาผ่านท่วงทำนองของดนตรี ถ่ายทอดวัฒนธรรมของประเทศไทยได้อย่างชัดเจน และยังเป็นการต่อยอด Soft Power ของไทยด้วยการนำเอกลักษณ์เฉพาะตัวของไทยนำเสนอผ่านสื่อการแสดงและเนื้อหาที่คนทั่วโลกสามารถเข้าถึงได้ โดยงานแสดงในครั้งนี้มีผู้ชมเข้าร่วมสัมผัสประสบการณ์ของดนตรีคลาสสิกสุดพิเศษนี้อย่างคับคั่ง
ความพิเศษของบทเพลงลิเกจากเรื่อง “บุตรน้อยหลงหาย” นอกจากจะเป็นการนำเสนอเรื่องราวจากบทเรียนชีวิต เล่าถึงการให้อภัยในครอบครัวที่ได้รับการส่งต่อจากพระคัมภีร์ไบเบิ้ลมากว่า 2,000 ปีทั่วโลก ยังเป็นการประพันธ์ร่วมกันระหว่างอาจารย์ณัฐ และ วูกัช คูเชดโว ที่นำความโดดเด่นของทำนองลิเกที่คนไทยทุกคนคุ้นหู ผสานกับเอกลักษณ์ เฉพาะตัวของตะโพน เครื่องดนตรีกำกับจังหวะของไทยร่วมกับเครื่องเคาะของดนตรีตะวันตกอีกหลากหลายชนิด ที่ดีไซน์ออกมาเพื่อตอกย้ำเสน่ห์ของความเป็นลิเกให้ชัดเจนขึ้น ช่วยสร้างสุนทรีย์ให้กับการแสดงได้สมบูรณ์
ณัฐ ยนตรรักษ์ กล่าวว่า การแสดงในครั้งนี้ผู้ชมจะได้สัมผัสประสบการณ์ของ “ดนตรีเล่าเรื่อง” ที่ถ่ายทอดแก่นสารของเนื้อหาได้อย่างครบถ้วนทุกอรรถรสผ่านการบรรเลงเปียโนของผมและเทคนิคการดีไซน์เสียงด้วยตะโพนและเพอร์คัชชั่นของ วูกัช คูเชดโว โดยผ่านเรื่องราวที่เป็นที่รู้จักและเข้าถึงได้ง่ายสำหรับผู้ชมทั่วโลก และการได้เห็นภาพของศิลปินไทยที่เล่นเครื่องดนตรีของตะวันตกอย่างเปียโน และศิลปินตะวันตกที่เล่นเครื่องดนตรีไทยอย่างตะโพน เป็นภาพที่หาดูได้ยาก และนี่คือการสานสัมพันธ์ทางดนตรีที่เห็นได้ชัดอย่างเป็นรูปธรรม เป็นภาพการแสดงที่มีเนื้อหาลึกซึ้งในทุกมิติที่มากกว่าความบันเทิง
การแสดงเพลงลิเก “บุตรน้อยหลงหาย” ในครั้งนี้ ได้รับกระแสตอบรับเป็นอย่างดี ผ่านผู้เข้าชมที่พร้อมใจกันร่วมชมการแสดงครั้งนี้เต็มทุกที่นั่งของศาลาสุทธสิริโสภา หอแสดงที่ออกแบบโดย ณัฐ ยนตรรักษ์ อีกทั้ง ยังได้รับเกียรติจากบุคคลสำคัญจากหลากหลายวงการ อาทิ รศ.ดร.กฤษติกา คงสมพงษ์ อดีตนายกสมาคมแม่บ้านทหารบก และอาจารย์ประจำสาขาการตลาด สถาบันบัณฑิตบริหารธุรกิจศศินทร์แห่งจุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย, ผศ.ดร.นริศ ชัยสูตร ประธานกรรมการ บริษัท เอพี (ไทยแลนด์) จำกัด (มหาชน),สงกรานต์ อิสสระ ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท ชาญอิสสระ ดีเวล็อปเมนท์ จํากัด (มหาชน), คุณศรีวรา อิสสระ ประธานกรรมการ บริษัท ชาญอิสสระ ดีเวล็อปเมนท์ จํากัด (มหาชน), จิณัดดา ฉันทวานิช บรรณาธิการและผู้ก่อตั้งเว็บไซต์ Fiercebook.com, ครูปาน-สมนึก คลังนอก ศิลปินวาดภาพประกอบชื่อดัง,ตัวแทนจากสถาบันดนตรียามาฮ่า, สถานเอกอัครราชทูตฮังการีประจำประเทศไทย, สถานเอกอัครราชทูตญี่ปุ่นประจำประเทศไทย, สถาบันบางกอกแดนซ์ ฯลฯ
นอกจากการแสดงสุดพิเศษ การจัดงานครั้งนี้ก็เพื่อร่วมฉลองการก้าวเข้าสู่ปีที่ 50 ของอาจารย์ณัฐ ในฐานะศิลปินร่วมสมัยศิลปาธร สาขาคีตศิลป์ ถูกยกย่องให้เป็นนักเปียโนชั้นครูของไทยเพียงหนึ่งเดียวในไทยที่ประพันธ์บทเพลงและบรรเลงเปียโนด้วยตัวเอง ตลอด 50 ปี บนเส้นทางดนตรี ณัฐ ยนตรรักษ์ ได้รับการยกย่องในเรื่องการประพันธ์ดนตรีที่ผสมผสานเอกลักษณ์ความเป็นไทยกับการบรรเลงดนตรีคลาสสิกจนเป็นที่ยอมรับในระดับนานาชาติ อาทิ เพลงไก่แก้ว เป็นการประพันธ์ดนตรีในรูปแบบ variation โดยนำสุนทรียภาพของดนตรีไทยเดิม คงเอกลักษณ์ของทำนองหลัก ผสมผสานกับการเลียนบันไดเสียงแบบดนตรีไทยและเรียบเรียงทำนองให้เป็นดนตรีร่วมสมัยด้วยการบรรเลงเปียโน
นอกจากนี้ ยังมีผลงานการประพันธ์บทเพลงเพื่อแสดงในโอกาสพิเศษต่างๆ อาทิ บทเพลงเปียโนโซนาตาหมายเลข 2 ชื่อ ถวายบังคมนวมินทรราชา (Homage to H.M. King Rama the Ninth), บทเพลง สยามโซนาตา (Siam Sonata) เพื่อเฉลิมพระเกียรติพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว ร.9 เนื่องในโอกาสทรงเจริญพระชนมพรรษาครบ 75 พรรษา, บทเพลง กุหลาบแห่งรัก(Rose of Love) ซึ่งประพันธ์เพื่อถวายสมเด็จพระนางเจ้าฯพระบรมราชินีนาถ ในโอกาสที่ทรงเจริญพระชนมพรรษาครบ 60 พรรษา, บทเพลงเปียโนโซนาตา หมายเลข 1 มีชื่อว่า ถวายชัยคีตมหาราชา (Glory to Our Great Kings)
ตลอดเส้นทางดนตรีกว่าครึ่งศตวรรษ ณัฐ ยนตรรักษ์ ผลงานการประพันธ์เพลงกว่า 100 บทเพลง ไม่เพียงสร้างความสุขให้ผู้คนผ่านเสียงเปียโนผ่านการแสดงรอบโลกมากกว่า 1,000 การแสดง แต่การได้รับเชิญในฐานะตัวแทนประเทศไทยให้ไปทำการแสดงในที่ต่างๆ อาทิ สำนักงานใหญ่ขององค์การสหประชาชาติที่นครนิวยอร์กในโอกาสครบรอบ 50 ปี ครองราชย์ของ ร.9 และ 50 ปี องค์การสหประชาชาติ โดยบทเพลงที่เขานำไปแสดงนั้น ล้วนแล้วแต่เป็นเพลงไทยและเป็นเพลงที่ประพันธ์ขึ้นเอง ไม่เพียงทำให้คนไทยที่ได้ฟังหายคิดถึงบ้านแล้วยังทำให้ชาวต่างชาติที่ได้ฟังเข้าใจวัฒนธรรมไทยได้ลึกซึ่งมากขึ้น บางคนที่ได้ฟังเพลง “สยามโซนาตา” ต่างพูดเป็นเสียงเดียวกันว่าอยากมาเยือนเมืองไทย หรือเมื่อได้ยินเพลง “หาที่สุดมิได้” ก็ทำให้หลายคนถึงกับบอกว่าอยากใช้เวลาช่วงสุดท้ายของชีวิตที่เมืองไทย
หลังสำเร็จการศึกษาจากระดับปริญญาโททางด้านการแสดงเปียโนที่ Reading University ณัฐ ยนตรรักษ์ กลับมาก่อตั้ง ณัฐ สตูดิโอ (Nat Studio) โรงเรียนสอนเปียโนให้กับเยาวชนและผู้สนใจ นับเป็นโรงเรียนสอนเปียโนที่เก่าแก่ที่สุดในกรุงเทพฯ ก่อนจะขยับขยายพื้นที่ สร้างหอแสดงดนตรีหลังใหม่โดยใช้ชื่อว่า “ศาลาสุทธสิริโสภา” ซึ่งเป็นการถวายเกียรติให้พระนามของพระวรวงศ์เธอ พระองค์เจ้าสุทธสิริโสภา พระราชนัดดาในพระบาทสมเด็จพระจุลจอมเกล้าเจ้าอยู่หัว รัชกาลที่ 5 ผู้ทรงอุปถัมภ์อาจารย์ณัฐในชีวิตทุกด้าน ทั้งการศึกษาด้านดนตรี การแต่งงาน และการก่อสร้างโรงเรียน
ลูกจันทน์-พิณนรี ยนตรรักษ์ คูเชดโว ลูกสาวของ ณัฐ ยนตรรักษ์ และผู้อำนวยการศาลาสุทธสิริโสภา กล่าวว่าเราตั้งใจที่จะสร้างสถานที่แห่งนี้ให้เป็นคอมมูนิตี้ทางดนตรีที่แข็งแกร่ง และเปิดกว้างสำหรับทุกคน รวมทั้งเป็นสะพานเชื่อมต่อความเป็นไทยสู่เวทีระดับโลก ผ่านการนำเสนอศิลปินไทยที่สร้างผลงานที่มีเอกลักษณ์ผ่านเพลงไทยร่วมสมัยในหลากหลายรูปแบบ ศาลาสุทธสิริโสภา เป็นหอแสดงขนาดเล็กที่มี ความพร้อมในมาตรฐานทัดเทียมเวทีระดับโลก ด้วยที่มีระบบเสียงธรรมชาติ (acoustics) ที่ดีที่สุด ทำให้นักแสดงสามารถแสดงศักยภาพออกมาได้อย่างเต็มที่โดยไม่ต้องพึ่งเครื่องขยายเสียง จุดประสงค์หลักของสถานที่นี้คือการเฟ้นหานักดนตรีไทยที่มีความสามารถและสนับสนุนพวกเขาให้ได้แสดงศักยภาพสูงสุดบนเวทีของเราแล้วผลักดันให้ได้ไปต่อบนเวทีโลกผ่านเครือข่ายของเราที่สั่งสมมาผ่านคุณพ่อณัฐ ตลอด 50 ปี
อย่างไรก็ตาม การแสดงครั้งนี้ จะต่อยอดไปสู่การจัดแสดง “2024 celebration of Nat Yontararak’s 50 years of legacy” เพื่อเฉลิมฉลองครบรอบผลงานระดับตำนานกว่าครึ่งศตวรรษของนักเปียโนระดับบรมครูของประเทศไทย “ณัฐ ยนตรรักษ์” ซึ่งจะเกิดขึ้นในปี 2567 ตลอดทั้งปี เริ่มเปิดการแสดงแรกในเดือนกุมภาพันธ์ปี 2567 และปิดท้ายซีรี่ส์ฉลองครบรอบ 50 ปี ในเดือนพฤศจิกายน และมีไฮไลท์สำคัญเป็นการแสดงครบรอบ 50 ปี ในวันที่ 6 ตุลาคม 2567 ที่ศาลาสุทธสิริโสภา โดยศิษย์เก่า หลายรุ่นของ อ.ณัฐ ที่จะมาแสดงเพลงที่ “ครู” เป็นผู้ประพันธ์
โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น
1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์
2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี
3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี