พระยาตาก(สิน)นำกำลังหักด่านพม่า
วันที่ ๒๘ ธันวาคม เป็นวันสมเด็จพระเจ้าตากสินมหาราช ทุกปีนอกจากมีการจัดพิธีสักการะพระบรมราชานุสาวรีย์สมเด็จพระเจ้ากรุงธนบุรี หรือสมเด็จพระเจ้าตากสินมหาราช ในสถานที่สำคัญแล้ว ยังเปิดพระราชวังเดิมซึ่งเป็นพระราชวังหลวงของกรุงธนบุรีให้เข้าชม พระราชวังแห่งนี้สถาปนาขึ้นในสมัยอยุธยาตอนปลายโดยสมเด็จพระเจ้าตากสินมหาราช ทรงโปรดเกล้าฯ ให้ใช้เมืองด่านขนอน ที่เก็บภาษีเข้า-ออกทางน้ำ ซึ่งตั้งอยู่ริมฝั่งแม่น้ำเจ้าพระยา บริเวณปากคลองบางกอกใหญ่ ตั้งเป็นเมืองหลวงอันเป็นจุดยุทธศาสตร์สำคัญสุดท้ายหลังจากที่เสียกรุงศรีอยุธยา เมื่อพ.ศ.๒๓๑๐ เนื่องจากกรุงศรีอยุธยานั้นเสียหายไม่สามารถใช้เป็นราชธานีต่อไปได้
กล่าวคือ เมื่อ พระยาตาก (สิน) ได้นำไพร่พลเข้าตีค่ายโพธิ์สามต้นขับไล่ข้าศึกออกจากแผ่นดินแล้ว พระองค์ได้ปราบดาภิเษกเป็นกษัตริย์ครองกรุงธนบุรีแห่งนี้ และได้โปรดเกล้าฯ ให้ปรับภูมิสถานจากเมืองด่านขนอน “ธณบุรีศรีสมุทร” ขึ้นเป็นเมืองหลวงขึ้น โดยมีการฟื้นฟูป้อมคูประตูปราการให้มั่นคง จนสามารถใช้ป้องกันพระนครได้ ภายในพระราชวังเดิมแห่งนี้ได้ปรากฏว่ามีการสร้างเพิ่มเติมหลายแห่ง ได้แก่ ท้องพระโรง, พระที่นั่งขวาง,พระตำหนักเก๋งพระปิ่นเกล้าเจ้าอยู่หัว, ตึกจีนคู่, ศาลสมเด็จพระเจ้าตากสินมหาราช, อาคารเรือนเขียว, ศาลศีรษะปลาวาฬ และป้อมวิไชยประสิทธิ์ ป้อมเมืองที่สร้างในสมัยสมเด็จพระนารายณ์มหาราช เป็นต้น
พระยาตาก(สิน)
ด้วยเหตุที่พระราชวังเดิมตั้งอยู่ริมแม่น้ำเจ้าพระยา บริเวณใกล้กับป้อมวิไชยประสิทธิ์ ปากคลองบางกอกใหญ่ อันเป็นจุดยุทธศาสตร์สำคัญ มาแต่ครั้งเป็นด่านขนอน
จึงเป็นเมืองที่มีป้อมปราการที่แข็งแรงมั่นคง ใช้สังเกตการณ์เส้นทางเดินเรือเข้า-ออกของเรือมาแต่ครั้งสมัยอยุธยาอีกทั้งยังเป็นสถานที่พระบรมราชสมภพของกษัตริย์ไทยหลายพระองค์ อาทิ พระบาทสมเด็จพระนั่งเกล้าเจ้าอยู่หัว,พระบาทสมเด็จพระจอมเกล้าเจ้าอยู่หัว และพระบาทสมเด็จพระปิ่นเกล้าเจ้าอยู่หัว เป็นต้น ปัจจุบันได้มีการจัดอาคารพิพิธภัณฑ์แสดงเกี่ยวกับเครื่องเบญจรงค์ เครื่องปั้นดินเผา อาวุธโบราณของไทย และเงินตราสมัยโบราณ เป็นต้น โดยการดูแลของ มูลนิธิอนุรักษ์โบราณสถานในพระราชวังเดิม และ กองบัญชาการกองทัพเรือการเข้าชมนั้นตามปกติต้องติดต่อขออนุญาตที่กองประวัติศาสตร์กรมยุทธการทหารเรือซึ่งอยู่ภายในบริเวณกองทัพเรือ ที่พระราชวังเดิมอย่างเป็นทางการเสียก่อน แต่ทุกปีในวันสำคัญเดือนธันวาคมนั้นได้เปิดโอกาสให้ทุกท่านเข้าศึกษาเรียนรู้ในพระราชวังเดิมได้
นับเป็นพระราชวังขนาดเล็กที่สถาปนาเพื่อใช้กู้แผ่นดินและป้องกันประเทศ ปัจจุบันได้จัดภูมิสถานแห่งนี้ให้สวยงาม ใช้เป็นแหล่งเรียนรู้ด้านประวัติศาสตร์ไทยสมัยกรุงธนบุรีจากอดีตถึงปัจจุบัน ซึ่งอาคารเกือบทั้งหมดในบริเวณพระราชวังเดิม ไม่ว่าจะเป็นอาคารที่สร้างมาแต่ครั้งกรุงธนบุรี หรือที่สร้างขึ้นใหม่นั้น ล้วนแต่ได้เกี่ยวกับกองทัพเรือมาตั้งแต่สมัยรัชกาลที่ ๓-๕ จึงมีความสำคัญในกิจการของกองทัพเรือทั้งสิ้น
ภาพพระยาตากสู้ศึก
กล่าวคือเมื่อปี พ.ศ.๒๓๒๕ เมื่อสมเด็จเจ้าพระยามหากษัตริย์ศึก (ทองด้วง)ได้ทรงปราบดาภิเษกขึ้นครองราชย์เป็นสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวแผ่นดินต้น (คือพระบาทสมเด็จพระพุทธยอดฟ้าจุฬาโลกมหาราช) นั้น พระองค์ทรงโปรดฯให้ย้ายราชธานีจากกรุงธนบุรีไปตั้งณ ฝั่งพระนคร และในระยะเวลาที่สร้างพระราชวังแห่งใหม่ยังไม่เสร็จเรียบร้อยนั้น พระองค์ยังคงประทับที่พระราชวังเดิมอยู่ประมาณ ๒ เดือนเศษ เมื่อพระราชวังใหม่สร้างเสร็จแล้ว พระองค์จึงเสด็จไปประทับยังกรุงรัตนโกสินทร์ หรือกรุงเทพมหานครซึ่งอยู่ฝั่งตรงกันข้าม ส่วนภูมิสถานของพระราชวังเดิมนั้น เมื่อว่างลงก็ใช้เป็นที่ตั้งกองทัพเรือด้วยมีป้อมปราการสำคัญใช้รักษาพระนครซึ่งในอดีตนั้น พระราชวังเดิมคือราชธานีหนึ่งเดียวที่มีกษัตริย์ครองราชย์เพียงพระองค์เดียว ที่ทรงใช้บัญชาการรบและรวบรวมประเทศจนขยายอาณาเขตกว้างใหญ่ไพศาลจนเรียกได้ว่าถ้าไม่มีกรุงธนบุรีก็ไม่มีกรุงเทพฯ
โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น
1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์
2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี
3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี