ขบวนรถแห่ดาวกุมาร
วันคริสต์มาส ๒๕ ธันวาคม เป็นวันสำคัญของชาวคริสต์ในการอวยพระพรต่อกันในวันปีใหม่ ดังนั้น งานหนึ่งที่น่าสนใจคือ งานประเพณีแห่ดาวเทศกาลคริสต์มาส สกลนคร แม้ว่างานนี้จะเพิ่งเกิดขึ้นเมื่อ พ.ศ.๒๕๒๕ โดย พระอัครสังฆราชลอเรนซ์ คายน์ แสนพลอ่อน อดีตผู้ปกครองอัครสังฆมณฑลท่าแร่-หนองแสง ซึ่งมีความประสงค์ให้หมู่บ้านคริสตชนในเขตปกครองของท่านนั้นได้นำดาวอันเป็นสัญลักษณ์แห่งดวงดาวที่นำไปสู่การประสูติของพระเยซูในคืนวันที่ ๒๔ ธันวาคม นั้นมาเฉลิมฉลองการบังเกิดมาของพระเยซูเจ้าในหมู่บ้านของตน แม้ว่าในเบื้องต้นจะมีการแห่ก็เป็นเพียงกลุ่มคริสตชนวัดพระหฤทัยฯ ของสกลนคร ซึ่งยังมีจำนวนน้อยอยู่ โดยการแห่ดาวขึ้นที่สกลนคร เป็นครั้งแรกเมื่อวันที่ ๒๕ ธันวาคม ค.ศ.๑๙๘๒ หรือพ.ศ.๒๕๒๕ ต่อมาเมื่อ พระอัครสังฆราชลอเรนซ์ คายน์ฯ ได้สร้างสำนักมิสซังแห่งใหม่ขึ้นที่สกลนครและย้ายมาประจำที่สำนักใหม่แล้ว จึงได้มอบหมายให้ชุมชนท่าแร่ หมู่บ้านคริสตชนที่ใหญ่ที่สุดในประเทศไทย และศูนย์กลางของอัครสังฆมณฑลท่าแร่-หนองแสงนั้น เป็นผู้นำในการทำดาวและประดับประดารถบุษบก ถ้ำพระกุมารสำหรับใช้ในขบวนแห่
งานประเพณีแห่ดาวเทศกาลคริสตมาส
โดยเริ่มแห่จากศาลากลางจังหวัดสกลนครไปยังบริเวณโรงเรียนเซนต์ยอแซฟสกลนคร ก่อนที่มีพิธีเฉลิมฉลองคริสต์มาส เช่นเดียวกับที่ชาวคริสตชนได้ร่วมกันทำแต่ละวัดคริสต์ทั่วประเทศ ในครั้งแรกแม้ว่าจะประสบปัญหาแต่ด้วยความมุ่งมั่นและความร่วมมือของชาวคริสตชนจึงมีการปรับปรุงและพัฒนาการประกวดดาวอย่างต่อเนื่องจนทำให้วันนี้มีจำนวนดาวจากหมู่บ้านต่างๆ มาร่วมกันมากขึ้นจนมีจำนวนถึงกว่า๒๐๐ ขบวน แม้ว่าครั้งหนึ่งในเมื่อค.ศ.๑๙๙๙-พ.ศ.๒๕๔๓ ได้ย้ายการจัดเพื่อสมโภชการเปิดปี “ปีติมหาการุญคริสตศักราช ๒๐๐๐” ที่ บ้านท่าแร่ ก็มีเสียงเรียกร้องให้กลับมาจัดที่สกลนครเป็นประจำทุกปีจนถึงปัจจุบัน จนได้รับความร่วมมือจากการท่องเที่ยวแห่งประเทศไทยและองค์การบริหารส่วนจังหวัดและจังหวัดสกลนครให้เป็นงานส่งเสริมการท่องเที่ยวของจังหวัดทำให้เทศกาลคริสต์มาสของสกลนครมีสีสันของเทศกาลแห่งศรัทธา ด้วยความพร้อมนี้กระทรวงวัฒนธรรม โดยกรมการศาสนาได้ให้ นายชัยพลสุขเอี่ยม อธิบดีกรมการศาสนา เป็นประธานในพิธีเปิด งานประเพณีแห่ดาวคริสต์มาส สกลนคร 2023 เพื่อส่งเสริมให้เป็นงาน Winter Festivals สร้างการท่องเที่ยวเชิงศาสนาและวัฒนธรรมร่วมกับ วีระเดช ใจเสรี พระอัครสังฆราชแห่งสังฆมณฑลท่าแร่-หนองแสง ส่วนราชการต่างๆ และศาสนิกชนทั้งเมือง เรื่องนี้กระทรวงวัฒนธรรมได้ให้ความร่วมมือกับองค์การเครือข่ายทั้ง ๕ ศาสนาร่วมกันจัดโครงการ “เสน่ห์แห่งสีสัน เทศกาลแห่งศรัทธา” ประกอบด้วยกิจกรรม “เสน่ห์วันวาน เทศกาลงานวัด” ของศาสนาพุทธ“วันอาซูรอสัมพันธ์” ของศาสนาอิสลาม “เทศกาลแห่ดาวคริสต์มาส” ของศาสนาคริสต์ “เทศกาลนวราตรี” ของศาสนาพราหมณ์-ฮินดู และ “วันครบรอบ 554 ปี วันคล้ายวันประสูติพระศาสดาศรีคุรุนานักเทพ พระปฐมบรมศาสดา” ของศาสนาซิกข์ เพื่อส่งเสริมเทศกาลประเพณีด้านศาสนาและวัฒนธรรม ให้เป็นจุดที่นักท่องเที่ยวชื่นชมและร่วมกันสร้างความเข้าใจอันดีต่อกันระหว่างศาสนิกชนทุกศาสนาต่อไป
โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น
1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์
2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี
3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี