นักท่องเที่ยวที่ชื่นชอบศิลปะและได้มีโอกาสเยือนเมืองหลวงของสวิส สถานที่ท่องเที่ยวหนึ่งที่ต้องไปให้ได้ ไม่เช่นนั้นเหมือนไปไม่ถึงเมือง Bern ก็คือ Museum of Fine Arts Bern หอศิลป์ที่ก่อตั้งขึ้นตั้งแต่ปี 1879 ตรงหัวมุมถนน Hodlestrasseตัดกับ Genfergasse นี้ ก่อสร้างด้วยสถาปัตยกรรมแบบบาโรกผสมกับ Modern Art ภายในอาคารนอกจากจะมีห้องจัดแสดงผลงานแบบถาวรและนิทรรศการแล้ว ยังมีที่เช่าสำหรับจัดประชุมและงานแสดงของเอกชนด้วย ส่วนนักท่องเที่ยวกลุ่มยังสามารถขอรับบริการพิเศษโดยต้องติดต่อกับสำนักงานบริหารเพื่อจัดทัวร์ชมของจัดแสดงเป็นพิเศษได้ด้วย สำหรับศิลปินรุ่นเยาว์หรือนักเรียนก็สามารถที่จะเข้าร่วมสัมมนาเชิงปฏิบัติการประจำสัปดาห์เกี่ยวกับการออกแบบ การเขียนหนังสืองานสร้างสรรค์ต่างๆ เกี่ยวกับศิลปะโดยไร้ขีดจำกัดได้อีกต่างหาก
ของจัดแสดงประกอบด้วยผลงานระดับมาสเตอร์พีซกว่า 50,000 ชิ้น งานจิตรกรรมกว่า 3,000 ชิ้น อาทิ งานของ Salvador Dali, Claude Monet, Vincent van Gogh และผลงานของศิลปินแนวSurrealism, Impressionism, Expressionism,Cubism และ “Der Blaue Reiter”, Paul Klee,Pablo Picasso, Edmond Jean de Pury, Meret Oppenheim, Ricco Wassmer, Adolf Wölfli รวมทั้งงานของ Albert Anker และ Ferdinand Hodler ศิลปินดังชาวสวิส รวมทั้งงานแบบร่าง ภาพพิมพ์ ภาพถ่ายกว่า 48,000 ชิ้น ตั้งแต่ยุคกลางจนถึงปัจจุบัน
ในปี 2014 หอศิลป์แห่งนี้ กลายเป็นสถานที่โด่งดังเมื่อ Cornelius Gurlitt นักสะสมของเก่าชาวเยอรมันบุตรชายของ Hildebrand Gurlitt บุตรชายของนักประวัติศาสตร์ศิลป์ ผู้อำนวยการมิวเซียม และนักขายภาพที่ถูกปล้นมาสมัยนาซีได้ยกสมบัติทั้งหมดของเขาที่เป็นงานศิลป์กว่า 1,400 ชิ้น ที่คาดว่าจะเป็นสมบัติที่นาซีปล้นชาวยุโรปมาในช่วงสงครามโลกครั้งที่สองให้กับ Museum of Fine Arts Bern ในช่วงนั้นมิวเซียมมีเวลา 6 เดือน ในการตัดสินใจว่าจะยอมเป็นผู้รับมรดกนี้หรือไม่ ทั้งนี้เพราะในพินัยกรรมมีข้อกำหนดให้ผู้รับมรดกต้องทำการค้นหาเจ้าของเดิมและส่งคืนให้ด้วยหากพบเจ้าของที่แท้จริง
Matthias Frehner ผู้อำนวยการมิวเซียมรับปากกับ Gurlitt ว่าหากมิวเซียมยอมรับมรดกจะจัดการคืนสมบัติให้กับเจ้าของที่แท้จริงให้เรียบร้อย รัฐบาลกลางเยอรมันจึงกระตุ้นให้มิวเซียมยอมรับเป็นผู้รับมรดกด้วยเกรงว่า หากทรัพย์สมบัติตกกับลูกหลานของตระกูล Gurlitt พวกเขาอาจไม่ยอมค้นหาและคืนทรัพย์สินให้เจ้าของ อย่างไรก็ดีการยอมรับมรดกหรือไม่นั้นไม่ได้ขึ้นกับผู้อำนวยการเพียงผู้เดียวยังขึ้นกับคณะกรรมการบริหารมิวเซียม รัฐบาลกลางสวิส และผู้บริจาครายใหญ่ของมิวเซียมที่ไม่ต้องการให้รัฐบาลกลางเยอรมันมีส่วนเกี่ยวข้องกับการค้นหาเจ้าของด้วยเกรงว่าจะขาดความเป็นกลาง และทำให้ความเป็นกลางของสวิสเสียหายถึงกระนั้นก็ตาม ในที่สุด หลังการประชุมของผู้เกี่ยวข้องทั้งหมดหลายครั้ง เดือนพฤศจิกายน 2014 คณะกรรมการบริหารมิวเซียมก็ตัดสินใจยอมรับมรดกเผือกร้อนนี้นักท่องเที่ยวที่ได้เยี่ยมชมมิวเซียมจะได้ชื่นชมผลงานของศิลปินนานาชาติมากมายสมกับเป็นมิวเซียมของเมืองหลวง และได้รับการรับรองว่าถูกกฎหมายอย่างแน่นอน
โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น
1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์
2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี
3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี