กสทช. เปิดตัว “กะทิ” สายรัดข้อมืออัจฉริยะติดตามข้อมูลสุขภาพผู้สูงอายุ
ปัจจุบันสังคมไทยได้เข้าสู่การเป็นสังคมสูงวัยอย่างสมบูรณ์ เนื่องจากในแต่ละปีมีสัดส่วนของผู้สูงอายุเพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่อง แต่เทคโนโลยีดิจิทัลสมัยใหม่กลับถูกพัฒนาขึ้นอย่างรวดเร็ว ทำให้เกิดช่องว่างและข้อจำกัด ระหว่าง “ผู้สูงอายุ” กับ “เทคโนโลยี” ทำให้ผู้สูงอายุปรับตัวไม่ทัน และไม่มีความรู้ความสามารถในการเข้าถึงเทคโนโลยีดิจิทัลเพียงพอ
สำนักงานคณะกรรมการกิจการกระจายเสียง กิจการโทรทัศน์ และกิจการโทรคมนาคมแห่งชาติ หรือ กสทช. ได้สนับสนุนเงินจากกองทุนวิจัยและพัฒนากิจการกระจายเสียง กิจการโทรทัศน์ และกิจการโทรคมนาคม เพื่อประโยชน์สาธารณะ หรือ กทปส. เพื่อดำเนินโครงการวิจัยแนวทางเพิ่มศักยภาพการเข้าถึงสวัสดิการทางสังคม และการใช้ประโยชน์เทคโนโลยีดิจิทัลในกลุ่มผู้สูงอายุ เพื่อนำเอาประโยชน์จากเทคโนโลยีดิจิทัลมาใช้ในกลุ่มผู้สูงอายุ จนเกิด prototype สายรัดข้อมืออัจฉริยะ “กะทิ” ที่เป็นหนึ่งใน Box set ของอุปกรณ์ IoT สำหรับติดตามข้อมูลสุขภาพของผู้สูงอายุ ขึ้นมา
“กะทิ” จัดว่าเป็นอุปกรณ์ IoT Health Monitoring ต้นแบบของโครงการ ที่สามารถติดตามข้อมูลสุขภาพของผู้สูงอายุ มาในรูปแบบสายรัดข้อมืออัจฉริยะ ที่ทำงานเป็นระบบแบบเรียลไทม์โดยมีฟีเจอร์ที่มาช่วยในการบริหารจัดการสุขภาพของผู้สูงอายุ อันได้แก่ การวัดอัตราการเต้นของหัวใจ (Heart Rate) การวัดอุณหภูมิร่างกาย การวัดความเข้มข้นของออกซิเจน การนับจำนวนก้าวและระยะทางการเดิน ระบบ Sleep มอนิเตอร์ที่บันทึกการนอนหลับ รวมถึงวัดการเผาผลาญแคลอรี่แบบ All Day Activity สามารถกันน้ำได้ลึก 1 เมตร ไม่เกิน 30 นาที อีกทั้งยังมีระบบการยืนยันตัวตนด้วยคิวอาร์โค้ดโดยในอนาคตสามารถต่อยอดในเรื่องของ Calling feature และ SOS feature จะส่งพร้อมตำแหน่งที่อยู่ปัจจุบันหากเกิดอุบัติเหตุกับผู้สวมใส่ซึ่งจะสามารถเชื่อมการทำงานกับเจ้าหน้าที่ที่หน่วยฉุกเฉินทางการแพทย์ได้อย่างรวดเร็ว
ที่สำคัญ “กะทิ” สามารถบันทึกข้อมูลผ่านซิมโทรศัพท์มือถือในเครือข่ายใดก็ได้ อีกทั้งยังสามารถบันทึกลงกล่อง Access Point เพียงแค่เสียบปลั๊กก็สามารถส่งข้อมูลได้เลย โดยไม่ต้องมีการลง Application ทางโทรศัพท์มือถือ และลงทะเบียนผ่านทางอีเมลเพื่อลดความยุ่งยากในขั้นตอนต่างๆ สำหรับการใช้งานของผู้สูงอายุ
นอกจากนี้ ทางโครงการยังได้จัดทำได้จัดทำ BOX SET ที่มีอุปกรณ์ Medical IoT ต่างๆ สามารถวัดค่าสุขภาพต่างๆ ที่เป็นแบบ Home Medical Grade ได้แก่ เครื่องวัดความดันโลหิต เครื่องตรวจน้ำตาลในเลือด และเครื่องวัดความเค็ม ซึ่งเป็นอุปกรณ์ทางการแพทย์ที่ผู้สูงอายุสามารถวัดค่าและส่งข้อมูลด้วยตัวเอง ผ่านกล่องเกตเวย์เชื่อมต่อเครื่องมือแพทย์ในการส่งข้อมูลเข้าระบบ
อุปกรณ์ทั้งหมดนี้เป็นการพัฒนาขึ้นจากสถานการณ์จำลองของบริการดิจิทัลบนพื้นฐานเทคโนโลยี Internet of Things หรือ 5G ได้รับความร่วมมือจากหน่วยงานไม่น้อยกว่า 5 หน่วยงาน อาทิ กทปส., กรมกิจการผู้สูงอายุ,กระทรวงการพัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์ (พม.), หน่วยบริหารและจัดการทุนด้านการพัฒนากำลังคน และทุนด้านการพัฒนาสถาบันอุดมศึกษา การวิจัยและการสร้างนวัตกรรม (บพค.),สำนักงานหลักประกันสุขภาพแห่งชาติ(สปสช.) ฯลฯ ผู้สูงอายุได้มีการทดลองใช้ระบบนำร่องดังกล่าวถึง 2,000 ราย และบรรจุเป็นแผนปฏิบัติราชการของจังหวัดพื้นที่เป้าหมายทั้ง 4 จังหวัดได้ ได้แก่ จังหวัดลำปาง จังหวัดขอนแก่น จังหวัดพระนครศรีอยุธยา และจังหวัดสงขลา โดยผู้ใช้บริการมีความพึงพอใจในโครงการไม่น้อยกว่า 80% ซึ่งสะท้อนให้เห็นถึงความสำเร็จจากโครงการวิจัยแนวทางเพิ่มศักยภาพการเข้าถึงสวัสดิการทางสังคม และการใช้ประโยชน์เทคโนโลยีดิจิทัลในกลุ่มผู้สูงอายุ
สำหรับความร่วมมือในครั้งนี้นับว่าเป็นมีความสำคัญอย่างยิ่ง เพราะเป็นการบูรณาการความร่วมมือของ กระทรวง ทบวง กรม และหน่วยงานภาครัฐระดับจังหวัด รวมถึงผู้บริหารส่วนท้องถิ่นที่ได้เข้ามาช่วยกันสนับสนุนผลักดันให้เกิดสวัสดิการผู้สูงอายุยุค 5G ผ่านการทำ Digital Health Innovation เพื่อให้ผู้สูงอายุมีคุณภาพชีวิตที่ดีขึ้น มีความสม่ำเสมอในการดูแลสุขภาพ และสามารถใช้ชีวิตสังคมในระยะยาวได้อย่างมีความสุข ตลอดจนทางภาครัฐยังได้มีข้อมูลสุขภาพของผู้สูงอายุทั้งประเทศไทย เพื่อเตรียมตัวก้าวสู่การทำ Thailand Personal Health AI กับกระทรวงการอุดมศึกษาวิทยาศาสตร์ วิจัย และนวัตกรรม (อว.) รวมทั้งหน่วยงานภาคีเครือข่าย ในลำดับต่อไป โดยมีความมุ่งหวังให้ผู้สูงอายุของไทยมีสุขภาพที่แข็งแรงมีชีวิตยืนยาว
โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น
1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์
2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี
3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี