ใน Kunst Museum Bern ยังมีศิลปินแนว Symbolism ชาว Bern ผู้หนึ่งที่มีผลงานโดดเด่นมาก นั่นคือ Ferdinand Hodler เขาเกิดในปี1953 ที่เมือง Bern โดยเป็นบุตรคนโตจากครอบครัวช่างทาสีที่มีพี่น้อง 6 คน พ่อและพี่ชายของเขา 2 คน เสียชีวิตจากวัณโรคเมื่อเขาอายุได้เพียง 8 ขวบ แม่ของเขาจึงแต่งงานใหม่กับ GottliebSchupach จิตรกรตกแต่งที่มีบุตรอยู่แล้ว 5 คนครอบครัวใหม่ของเขาก็ยากจน เพราะพ่อและแม่ของเขามีบุตรจำนวนมากส่งผลให้เขาต้องช่วยบิดาเลี้ยงในการทำมาหากินทางด้านศิลปะตั้งแต่อายุเพียงแค่ 9 ขวบ เมื่อเขาอายุเพียง 14 ปี มารดาของเขาก็เสียชีวิตด้วยวัณโรคอีก เขาจึงถูกส่งไปยังเมือง Thun เพื่อเป็นเด็กฝึกงานกับศิลปินพื้นเมืองที่ชื่อ Ferdinand Sommer เขาได้เรียนรู้วิธีลอกงานทิวทัศน์เทือกเขา Alpine จากศิลปินผู้นี้
ปี 1871 เขาเดินเท้าจากเมือง Thun ไป Geneva เพื่อเข้าเรียนด้านวิทยาศาสตร์ที่College de Geneva และเริ่มอาชีพจิตรกรด้วยการลอกภาพขาย ปี 1873 เขาเข้าเรียนกับBarthelemy Menn ก่อนที่จะเดินทางไป Baselเพื่อเรียนภาพเขียนของ Hans Holbein โดยเฉพาะอย่างยิ่งภาพ Dead Christ in the Tomb ซึ่งกลายเป็นภาพที่มีอิทธิพลต่อเขามากในการเขียนภาพเกี่ยวกับความตายในปี 1875 ปี 1878 เขาเดินทางไปยังกรุงมาดริด สเปน เพื่อเรียนรู้ผลงานของจิตรกรชั้นนำหลายคน อาทิ Titian, Poussin และ Velazquez จากห้องภาพ Prado หลังปี 1880เขาเริ่มสร้างสรรค์งานและส่งไปจัดแสดงตามที่ต่างๆ แม้ Paris Salon จะยอมจัดแสดงผลงานทั้งทิวทัศน์ ภาพเหมือน ภาพ Composition ต่างๆ ในแนว Realism ล้วนไม่ได้รับความสนใจจากนักวิพากษ์ศิลป์ ในปี 1884 เขาได้พบกับAugustine Dupin และแต่งงานกันจนมีบุตรชื่อ Hector ซึ่งกลายเป็นผู้ก่อตั้ง World Esperanto Association
Portrait of Louise Jacques 1892
ในปี 1891 เขาหย่ากับ Dupin และแต่งงานใหม่กับ Berthe Jacques ในปี 1898 ในช่วงเวลานั้นงานของเขาวิวัฒนาการไปมากโดยควบรวมเอาแนว Symbolism และ Art Nouveau เข้าด้วยกัน งานในทศวรรษนี้ของเขาได้รับความสนใจเป็นอย่างมาก ทั้งในด้านดีและไม่ดี งานบางชิ้นโดยเฉพาะภาพนู้ดดูอนาจารมากจนนายกเทศมนตรีสั่งให้ถอนภาพออกจากการจัดแสดง Hodler พัฒนารูปแบบที่เขาเรียกว่า “ความเท่าเทียม” ซึ่งเน้นความสมมาตรและจังหวะที่เขาเชื่อว่าเป็นพื้นฐานของสังคมมนุษย์ เขายังนิยมสร้างสรรค์งานขนาดใหญ่เกี่ยวกับประวัติศาสตร์โดยเน้นไปที่ความรักชาติ ปี 1897 เขายอมรับงาน Fresco ที่ต้องทำ ณ ห้องเก็บอาวุธของมิวเซียมประจำเมือง Zurich ในปี 1900 เขาได้มีโอกาสแสดงผลงานในนิทรรศการที่กรุงปารีสและได้รับรางวัล อีกทั้งยังได้รับเชิญให้เข้าร่วมกลุ่ม Berlin Secession และ Vienna Secession ส่งผลให้เขาได้มีโอกาสแสดงผลงานที่กรุงเวียนนาในอีก 4 ปีต่อมาจนเป็นที่รู้จักของคนทั่วไปอันทำให้เขาก้าวพ้นความยากจนได้ในที่สุด ผลงานหลังปี 1900 ของเขาเน้นไปในแนว Expressionism ที่ใช้สีรุนแรงและเป็นทรงเรขาคณิต
Self Portrait 1881
แม้เขาจะยังแต่งงานอยู่แต่ในปี 1908 เขาได้พบกับValentine Gode-Darel และลักลอบมีความสัมพันธ์กันจนมีลูกสาวด้วยกัน 1 คน โชคร้าย Darelได้รับการวินิจฉัยว่าเป็นมะเร็งทำให้เธออ่อนแอลงจนต้องนอนอยู่บนเตียงเป็นส่วนใหญ่ เขาจึงใช้เวลาข้างเตียงเธอครั้งละหลายชั่วโมงจนเป็นที่มาของผลงานจำนวนหนึ่งในปี 1914 เขาได้เซ็นชื่อร่วมกันในการประณามความรุนแรงของเยอรมันต่อวิหาร Rheim จนทำให้เขาถูกขับออกจากสมาคมศิลปะเยอรมัน เขาเสียใจมากเมื่อเธอเสียชีวิตในปี 1916 นับจากนั้นมาสุขภาพของเขาก็ย่ำแย่ลงเรื่อยๆ และหมกมุ่นเขียนแต่ภาพเหมือนของตัวเอง เขาเป็นโรคน้ำท่วมปอดหลายครั้งจนกลายเป็นคนติดเตียงถึงกระนั้นก็ตาม เขาก็ยังสร้างสรรค์งานทิวทัศน์ของ Geneva จากระเบียงห้องนอนออกมาจำนวนมากก่อนจะเสียชีวิตในปี 1918
นักท่องเที่ยวที่ได้มีโอกาสชมผลงานของ Hodler ตามวิวัฒนาการไม่ว่าจะเป็นภาพ Self Portrait, The Night, The Disappointed Soul จะสัมผัสได้ถึงอัจฉริยภาพของเขาไม่ว่าจะเป็นการแสดงออกจากท่าทางหรือสีหน้าล้วนเหมือนจริงและเร้าอารมณ์ทั้งนั้นสมกับที่เขาได้รับการยกย่องให้เป็นหนึ่งในศิลปินสวิสที่มีชื่อเสียงที่สุดแห่งยุค
โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น
1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์
2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี
3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี