ทุกวันนี้ เมื่อตื่นเช้าขึ้นมาก็ต้องเช็คว่าคุณภาพอากาศเลวร้ายสถานใด โดยเฉพาะคนที่อยู่ในกรุงเทพฯ ปริมณฑล และจังหวัดอื่นๆ ทั่วประเทศไทย ยกเว้นแค่พื้นที่เกาะเท่านั้น ต้องบอกว่าทุกวันนี้อาการในบ้านเราวิกฤตมาก หลายพื้นที่มีฝุ่นพิษ PM2.5 ปกคลุม ซึ่งเราเกือบทุกคนเจอกับปัญหานี้มาแล้วอย่างน้อยก็ 2-3 ปี แต่ก็ไม่มีใครคุ้นชินกับ PM2.5 เพราะมันมีอันตรายต่อสุขภาพของทั้งคนและสัตว์ ยิ่งคนแก่ เด็กเล็ก และคนสุขภาพไม่ดี ก็ยิ่งแย่เมื่อเจอกับฝุ่นพิษชนิดนี้ ส่วนคนที่มีปัญหาระบบทางเดินหายใจ เช่น โรคหอบหืด โรคปอดอุดกั้นเรื้อรัง รวมถึงโรคภูมิแพ้ ก็จะประสบปัญหามากกว่าคนอื่นๆ
เราจะมีทางลด ละ หรือเลี่ยงปัญหาสุขภาพจากฝุ่นพิษนี้ได้อย่างไร
อันดับแรกคือ พยายามเลี่ยงการอยู่ในที่โล่งแจ้ง เช่น ริมถนนใหญ่ บริเวณที่มีการจราจรคับคั่ง เขตก่อสร้างที่ก่อให้เกิดฝุ่นมากๆ และโดยเฉพาะในวันที่มีประกาศว่าสภาพอากาศเลวร้ายมาก ก็ยิ่งต้องวางแผนชีวิตให้ดี หากไม่จำเป็นก็อย่าออกจากบ้าน หรือหากต้องออกก็จำกัดกิจกรรมและเวลาให้น้อยที่สุด อย่ามัวโอ้เอ้ลอยไปลอยมา และที่สำคัญต้องสวมหน้ากากชนิดที่สามารถกรองฝุ่น N95 หรือเทียบเท่าเพราะหน้ากากอนามัยธรรมดาไม่สามารถดัก PM2.5 ได้ ส่วนผู้ชอบออกกำลังกาย หรือทำกิจกรรมกลางแจ้ง ต้องงดไปก่อนแต่อาจเปลี่ยนไปออกกำลังกายในบ้าน หรือในอาคารไปก่อน
แม้จะหลีกเลี่ยงการออกไปใช้ชีวิตนอกบ้านเพื่อลดโอกาสสัมผัสฝุ่น PM2.5 แต่การอยู่ในบ้านก็ใช่ว่าจะปราศจากโอกาสพบเจอฝุ่นได้เต็ม 100% เราจึงต้องลดปริมาณฝุ่นในบ้านด้วยการปิดประตูหน้าต่างโดยเฉพาะอย่างยิ่งด้านที่รับลม อาจต้องเพิ่มความถี่ในการทำความสะอาดบ้านมากขึ้นด้วยการดูดฝุ่นหรือถูพื้นบ่อยๆ ติดมุ้งลวดหรือม่านเพื่อช่วยกรองฝุ่นที่จะเข้าบ้าน ติดตั้งเครื่องฟอกอากาศกรณีมีกำลังทรัพย์เพียงพอ ลดการใช้เครื่องยนต์ งดเว้นการเผาขยะ ถ้าบ้านอยู่ในเขตที่สภาพอากาศไม่ดีมากๆ ก็ต้องสวมหน้ากากป้องกันฝุ่น ถึงแม้จะอยู่ในบ้านก็ตาม เพื่อเพิ่มความปลอดภัยให้สุขภาพโดยเฉพาะอย่างยิ่งคนที่มีโรคระบบทางเดินหายใจ
ในสภาพอากาศเลวร้ายเช่นนี้ ผู้ป่วยหอบหืดหรือปอดอุดกั้นเรื้อรัง อาจมีอาการกำเริบได้ง่าย ควรเตรียมยาพ่นขยายหลอดลมให้พร้อม พกยาติดตัวไว้ตลอดเวลา รวมถึงตรวจสอบซ้ำว่ามียาสำรองไว้ใช้เพียงพอหรือไม่ และหากมีอาการกำเริบบ่อยกว่าปกติ ต้องไปพบแพทย์ ก่อนการนัดประเมินการรักษาว่าจะต้องปรับเพิ่มยาตัวใดหรือไม่ และต้องใส่ใจเรื่องสุขภาพมากเป็นพิเศษ กินอาหารที่มีประโยชน์ พักผ่อนให้เพียงพอ อย่านอนดึก ออกกำลังกายเพื่อเพิ่มสมรรถภาพของปอดและทางเดินหายใจอย่างสม่ำเสมอในพื้นที่ที่ปราศจากฝุ่น ควรหลีกเลี่ยงการทำกิจกรรมหรืออยู่ในสิ่งแวดล้อมที่กระตุ้นให้อาการของโรคทางเดินหายใจกำเริบ
คนที่เป็นภูมิแพ้ ทั้งภูมิแพ้ที่มีอาการของระบบทางเดินหายใจ เช่น เจอฝุ่นแล้วน้ำมูกไหล คัดจมูก ไอ จาม และภูมิแพ้ระบบผิวหนัง เช่น มีอาการคันตามร่างกายเมื่อสัมผัสฝุ่น PM2.5 อาจต้องกินยาแก้แพ้หรือยาต้านฮิสตามีนเป็นประจำ แทนที่จะกินตามอาการ ในช่วงที่สภาพอากาศเลวร้าย การกินยาตามอาการอาจจะทำให้ผลการรักษาไม่ดีเท่ากับการกินยาเป็นประจำเพื่อป้องกันการแพ้ ยาแก้แพ้ที่แนะนำให้กินกรณีนี้คือยาแก้แพ้กลุ่มที่ไม่ทำให้เกิดอาการง่วง โดยกินยาวันละ 1-2 ครั้ง ทั้งนี้ยาแก้แพ้รุ่นเก่าที่กินแล้วง่วง อาจจะมีผลข้างเคียงที่รบกวนการใช้ชีวิตประจำวันมากเกินไป เช่น เกิดอาการปากและคอแห้ง หรือง่วงนอนมาก จนไม่สามารถขับรถยนต์ หรือควบคุมเครื่องจักรกล หรือการทำงานในที่สูง
ส่วนกลุ่มคนที่เป็นภูมิแพ้ ที่เป็นผู้สูงอายุหรือเด็กเล็ก ก่อนใช้ยาแก้แพ้ชนิดใดๆ ต้องปรึกษาแพทย์หรือเภสัชกรก่อนเสมอ เพื่อเลือกชนิดของยาให้เหมาะสมกับช่วงอายุ และเกิดผลข้างเคียงน้อยที่สุด รวมถึงไม่เกิดปัญหายาตีกับยารักษาโรคเรื้อรังที่กำลังใช้อยู่
แม้เราจะไม่สามารถเลี่ยงปัญหา PM2.5 ได้ แต่เราเตรียมความพร้อมเพื่อให้อยู่กับมันได้อย่างปลอดภัยได้ ขอให้เลี่ยงฝุ่นพิษ PM2.5 ให้ได้มากที่สุด แล้วเมื่อหน้าฝนมาถึงปัญหานี้จะเบาบางลงไป แต่ได้ข่าวว่าปีนี้จะมีปัญหาเอลนิโญหนักหน่วงมาก เพราะฉะนั้น กว่าฝนจะมา ก็คงต้องเผชิญกับปัญหาฝุ่นพิษไปเรื่อยๆ ขอให้อยู่กับมันให้ได้อย่างปลอดภัยกันทุกคน
รศ.ภญ.ดร.ณัฏฐดา อารีเปี่ยม และ รศ.ภก.ดร.บดินทร์ ติวสุวรรณ
คณะเภสัชศาสตร์ จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย
โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น
1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์
2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี
3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี