หมอหนึ่ง - นายแพทย์สุทธิพงษ์ ตรีรัตน์ ปัจจุบันเป็น CEO และ Founder ของ Rattinan Medical Center กุมทัพบริหารตั้งแต่แบรนด์รัตตินันท์ถือกำเนิดในปี 1999 ผ่านวงจรธุรกิจจากเอสเอ็มอี สู่ Specialty ขนาดกลาง นับเวลาผ่านมาได้ 3 ทศวรรษ จนล่าสุดจับมือกับ บมจ. มาสเตอร์ สไตล์ ในนามโรงพยาบาลมาสเตอร์พีช เพื่อเร่งเครื่อง สยายปีก ให้รัตตินันท์ก้าวกระโดดไปไวขึ้น “เหลือเชื่อมากกว่า ที่ธุรกิจของเราเดินทางมาเกือบ 30 ปีแล้ว รัตตินันท์เริ่มจากคุณหมอรัตตินันท์ ภรรยาของผมในช่วงสิบกว่าปีแรก และผมเข้ามามีส่วนร่วมในช่วง 10 ปีหลัง ก่อนหน้านี้ผมเคยเป็นผู้บริหารในหลายองค์กร ตั้งแต่เป็นผู้อำนวยการที่โรงพยาบาลเอกชนหลายแห่ง เป็นผู้อำนวยการบริษัทยา บริษัททำวิจัย บริษัทเกี่ยวกับสเตมเซลล์ในต่างประเทศ ก่อนจะออกมาช่วยรัตตินันท์เต็มตัว ซึ่งตอนนั้นแบรนด์ยังอยู่ในขนาด SMEs พนักงานมี 5-6 คน จากประสบการณ์งานหลายแห่งและหลายตำแหน่งหน้าที่ มีข้อดีคือตัวเองได้เห็นภาพของธุรกิจที่เกี่ยวข้องครบถ้วน และมั่นใจว่าจะพัฒนาองค์กรของเราให้เติบโตไปอย่างไร”
ความยั่งยืนเริ่มต้นที่จริยธรรม
“ในโลกการทำธุรกิจ จริงๆ ไม่ได้ง่ายเท่าไหร่ แต่ในความยากก็มีความง่ายปะปนกัน ส่วนหนึ่งเราเข้าใจในสิ่งที่เรียกว่า Medical Marketing หรือ Medical Management ลึกกว่าคนอื่น เรามองเห็นโอกาสได้ชัดเจนกว่า เห็นสิ่งที่ควรปรับปรุง และไม่ละโมบโลภมากเกินไปในการผลักให้มันก้าวไปโดยไม่ผิดจากตัวตนที่เราเป็นอยู่ โดยเฉพาะเรื่องจริยธรรม
“จริยธรรมการเป็นแพทย์ บวกกับตัวเราเองก็เป็นผู้บริโภคด้วยเช่นกัน เราทำใจไม่ได้ที่จะต้องลดต้นทุนจนกระทั่งคุณภาพมันขาดไป เรารู้สึกถึงความเสี่ยงที่เกิดขึ้นจากการสวมหมวกใบนี้ ข้อเสียคือ อาจทำให้ไม่โฟกัส หรือก้าวไปได้ช้า ขณะที่เราเองจะต้องมีเรื่องที่ต้องทำมากมาย ต้องระมัดระวังมากว่าวันนี้เราสวมหมวกอะไร จึงต้องถอยออกมามองให้เห็นภาพกว้างอยู่เรื่อยๆ”
ความยั่งยืนงานบริหารจัดการ
ด้วยความมั่นใจและใกล้ชิดกันดีระหว่างผู้บริหารรัตตินันท์ และ รพ.มาสเตอร์พีช นำมาสู่การ M&P ความร่วมมือทางธุรกิจเพื่อผนึกความแข็งแกร่ง
“ผมรู้จักหมอเส (นายแพทย์ระวีวัฒน์ มาศฉมาดล) มาหลายปี สิ่งที่มาสเตอร์มีคือสิ่งที่รัตตินันท์ไม่มี โดยเฉพาะเรื่องแนวคิดในการทำงาน เราจึงเดินได้เร็วขึ้น ย่นระยะการเรียนรู้ได้สั้นลง ทำให้แบรนด์ใช้เวลาในสิ่งที่จำเป็นมากขึ้น แทนที่จะสะเปะสะปะ ลองผิดลองถูก ซึ่งตรงนั้นละเป็นจุดตายของ SMEs ส่วนใหญ่ เวลานี้ถือเป็นโอกาสดีที่เราได้จับมือร่วมกัน” หมอหนึ่งขยายความถึงข้อดีที่ร่วมจับมือกับมาสเตอร์
รัตตินันต์เป็นคลินิกที่ชำนาญเรื่องการลดน้ำหนัก ตัดกระเพาะ และดูดไขมัน สิ่งเหล่านี้มีแรงปรารถนาและประสบการณ์ตรงของคุณหมอหนึ่งขับเคลื่อนอยู่ ผสานความยั่งยืนที่ปรารถนาให้การลดน้ำหนักเป็นไปโดยธรรมชาติ และมาจากมิติของการกิน และออกกำลังกาย ร่วมไปกับหัตถการข้างต้น ทำให้ผู้รับบริการพบกับผลลัพธ์ที่ยั่งยืน
“สมัยหนึ่งผมเคยอ้วนมาก ตอนที่ลูกยังเล็กๆ เรากินอาหารของเราเสร็จ แล้วก็ไล่เก็บกินของลูกด้วย จนอ้วน แล้วผมคิดลดน้ำหนัก ซึ่งงานหลักของรัตตินันท์ก็มุ่งมาทางนี้ จนชำนาญ ตั้งแต่สิบกว่าปีก่อน สมัยนั้นยังไม่มีใครรู้จักว่าตัดกระเพาะคืออะไร ดูดไขมันคืออะไร เริ่มต้นลูกค้าของเรา 100% เป็นชาวต่างชาติ ทั้งหมดคืองาน Art of Body Surgeries ผมจึงมองแบรนด์เป็น King of Body Surgeries”
หัตถการเรือธงที่รัตตินันท์โฟกัสคือ Bariatric, Breast, Body contouring และ Buttocks หรือ 4B ทั้งหมดล้วนเป็น Body Surgeries
กลุ่มที่ 1 Bariatric Surgery - การลดขนาดกระเพาะ มีทั้งเย็บบางส่วน หรือตัดบางส่วน หรือใส่บอลลูนเข้าไป หรือมีตัดลำไส้ด้วย
กลุ่มที่ 2 คือการทำ Breast - หัตถการทรวงอก
กลุ่มที่ 3 ทำ Body Contouring ที่ไม่ใช่แค่การดูดไขมันอย่างเดียวอีกต่อไป เพราะวิทยาการทางการแพทย์สามารถจัดการใส่ไขมันเข้าไปในจุดต่างๆ มีการเหลา การเกลี่ย ตามรูปร่างที่ต้องการเพิ่มหรือลด
และสุดท้าย กลุ่มที่ 4 Buttocks การเสริมก้น
“ปัจจุบันผมมีลูกค้าต่างชาติประมาณ 1 ใน 3 และศูนย์ใหม่ที่เปิดในซอยสุขุมวิท 49 คือย่านคนต่างชาติ คาดว่าน่าจะพุ่งเป็น 50% จากเวชระเบียนย้อนหลังส่วนใหญ่อยู่ในย่านนั้น โดยเราจะโฟกัสเรื่องที่ชำนาญเป็นหลัก เพราะเป็นสิ่งที่ผู้บริโภคมองหา
ความยั่งยืนของชีวิตและจิตใจ
สำหรับกิจกรรมส่วนตัวและงานอดิเรกที่หมอหนึ่งให้ความสำคัญอย่างยิ่ง เพราะไม่ใช่แค่ส่งผลดีต่อสภาพร่างกายและจิตใจ แต่ลงลึกไปถึงระเบียบวิธีคิด และการฝึกฝนตนเองผ่านกีฬาที่รัก โดยเฉพาะการวิ่งมาราธอน
“ต้องบอกว่า เรื่องสุขภาพเป็นเรื่องเดียวที่เงินซื้อไม่ได้ เศรษฐีทั่วโลกก็ตายได้ถ้าสุขภาพไม่ดี จะไปจ้างใครมาเทรน สุดท้ายเราก็ต้องทำเอง พอเป็น CEO ผมยิ่งไม่ค่อยมีเวลา ครั้นจะเลือกเล่นกีฬาที่ต้องเล่นสองคนหรือเล่นเป็นทีม ต้องรอกัน ซึ่งกีฬาแบบนั้นจะให้เล่นคนเดียวก็ไม่สนุก ขณะที่มาราธอนเป็นกีฬาที่ผมสามารถเล่นได้คนเดียว และคือความใฝ่ฝัน ต้องวางแผนและเตรียมตัวหลายเดือน ซึ่งเป็นเหมือนการฝึกซ้อมให้อยู่ตัว
“ล่าสุดผมไปเบอร์ลิน มาราธอน ซึ่งเป็นหนึ่งในสนามสำคัญของโลกมาราธอน ตื่นเต้นมากครับ ใช้เวลาเดินทางไป 10 กว่าชั่วโมง แล้วไปอยู่ที่นั่นล่วงหน้า 2-3 วัน ปรับตัวเรื่องการนอนนิดหนึ่ง นี่เป็น First Marathon ของผม เริ่มต้นวิ่งตั้งแต่ 10.30 น. จบที่ 16.30 น. เรียกว่าพลังงานหมดเกลี้ยง พอระยะกิโลเมตรที่ 30 ก็แทบไม่เหลือแล้ว
“สิ่งที่ตระหนักและเรียนรู้คือ ทุกอย่างต้อง Pain เอง (เจ็บเอง) รู้เอง คุณต้องก้าวขาออกไปเอง แม้จะมีเพื่อน หรือคนข้างๆ มาวิ่งด้วย แต่อย่างไรเสียคุณต้องรู้สึกเหนื่อยเอง เพราะเป็นเรื่องเดียวที่คุณต้องทำเอง ซื้อไม่ได้ จะรวยแค่ไหนไม่รู้ แต่กีฬาประเภทนี้บอกเลยว่า...ไม่มีทางลัดครับ”
โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น
1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์
2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี
3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี