ฮ่องกง เป็นที่รู้จักอย่างดีด้านการ “มูเตลู” และมีชื่อเสียงอันดับต้นๆ เรื่องความศักดิ์สิทธิ์ สมปรารถนาจึงมักมีเหล่าผู้ศรัทธาจากทั่วโลก โดยเฉพาะคนไทยเดินทางมาสักการะ ขอพรและแก้บนเป็นจำนวนมาก ทว่านอกจากวัดและเทพเจ้าที่คนไทยคุ้นเคยจากการบอกต่อกันปากต่อปากแล้ว ฮ่องกงยังมีวัดศักดิ์สิทธิ์อีกหลายแห่งที่หลายคนยังไม่ค่อยรู้จัก โดยเฉพาะปีมังกรทองนี้ อาจารย์คฑา ชินบัญชร นักพยากรณ์ชื่อดังและกูรูสายมูฯที่คนไทยและคนฮ่องกงรู้จักกันดี ชวนไปมูฯแบบถูกวิธี เพิ่มความเฮง ความปังเสริมพลังดีๆ ปีมังกร พร้อมแชร์เคล็ดลับเพื่อเปิดทางให้นักเดินทางสายมูฯระดับเซียนและมือใหม่ สามารถไปตามรอยได้ทันที
เริ่มที่ วัดหวังต้าเซียน หรือ หว่องไท่ซิน (Wong Tai Sin) ในภาษากวางตุ้ง เป็นวัดที่คนไทยรู้จักกันดีจากการผูกด้ายแดงเพื่อขอเนื้อคู่จากผู้เฒ่าจันทรา หรือเทพเจ้าหยุคโหลว (Yuelao) เคล็ดลับการขอคู่ที่ถูกต้อง อาจารย์คฑา แนะว่าจะเริ่มจากการเกี่ยวนิ้วมือเข้าด้วยกันเพื่อให้สามารถคล้องด้ายแดงที่นิ้วมือได้(สามารถดูขั้นตอนได้ที่ป้ายแนะนำหน้าองค์เทพ) แล้วตั้งจิตอธิษฐานที่ด้านหน้าองค์เทพเจ้าหยุคโหลว สำหรับผู้ชายที่ชอบผู้หญิง ให้ผู้สักการะเริ่มต้นเดินจากรูปปั้นเจ้าบ่าว จากนั้นเดินหลับตาตั้งจิตอธิษฐาน เพื่อไปผูกด้ายแดงที่รูปปั้นเจ้าสาว สำหรับผู้หญิงที่ชอบผู้ชายหลังจากเริ่มต้นตั้งจิตอธิษฐานที่องค์เทพเจ้าหยุคโหลวแล้ว ให้เริ่มเดินหลับตาจากรูปปั้นเจ้าสาวไปผูกด้ายแดงที่ฝั่งรูปปั้นเจ้าบ่าว สำหรับ LGBTQ+ ก็สามารถขอพรได้เช่นกัน ด้วยการขอพรที่ตรงกลางด้านหน้าองค์เทพเจ้าหยุคโหลว แล้วผูกที่ตรงกลางบริเวณมือขององค์ท่านเลย ระหว่างเดินต้องระวังไม่ให้นิ้วหลุดออกจากกัน และห้ามทำด้ายหลุดจากมือเด็ดขาด สำหรับคนมีคู่แล้วก็สามารถมาสักการะขอพรให้ชีวิตคู่ราบรื่น ยืนยาว
นอกจากความสำเร็จด้านความรักแล้ว วัดหวังต้าเซียน ยังมีเทพเจ้าหวังต้าเซียน ที่ชาวฮ่องกงยกย่องบูชาว่าศักดิ์สิทธิ์ สามารถบันดาลคำขอให้สมปรารถนา ธุรกิจเจริญรุ่งเรือง ทำให้
เจ้าสัวหลายคนแวะเวียนมาสักการะองค์หวังต้าเซียนอยู่บ่อยๆ วัดแห่งนี้มักคลาคล่ำด้วยผู้คนในช่วงเทศกาลตรุษจีน โดยเคล็ดลับในการไหว้ก็คือ ขณะไหว้ ห้ามสัมผัสถูกตัวของผู้สักการะท่านอื่นๆ เพราะอาจจะถูกถ่ายทอดโชคร้ายมาสู่ตนเองได้ แต่หากโดนธูปจากผู้อื่นจี้ก็อย่าถือสา เพราะคนฮ่องกงจะถือว่าเป็นการฟาดเคราะห์ครั้งยิ่งใหญ่ แต่ถ้าไม่อยากให้ควันธูปเข้าตาแนะนำให้ถือธูปชูสูงเหนือศีรษะ
วัดหวังต้าเซียน ยังมีอีกหนึ่งจุดอันซีนซึ่งซ่อนตัวอยู่ในชั้นใต้ดิน ได้แก่ ห้องลับใต้ดิน (Taisui Yuenchen Hall) อันเป็นที่ประดิษฐานของ พระแม่เต้าบ้อ มารดาแห่งดวงดาว (Goddess of the Great Dipper) ผู้ให้กำเนิดจักรวาล และรูปปั้นเทพเจ้าไท้ส่วยเอี๊ย เทพ ผู้คุ้มครองดวงชะตาของมนุษย์ตลอดทั้งปีช่วยขจัดปัดเป่าเคราะห์กรรมให้เบาบางลงมีทั้งหมด 60 องค์ แต่ละองค์มีรูปลักษณ์แตกต่างกัน มีทั้งบุคลิกเชิงบุ๋น บู๊ และดูสำราญ เชื่อกันว่าองค์ไท้ส่วยเอี๊ยประจำตัวจะมีบุคลิก นิสัย และการแต่งตัวคล้ายกับคนที่เกิดในปีนั้นๆ
การเข้าห้องลับใต้ดิน Taisui Yuenchen Hall จะมีค่าบริการ 100 เหรียญดอลลาร์ฮ่องกง โดยจะได้รับธูปกำยาน 3 ดอก และยันต์มังกร แต่ถ้าเกิดในปีชงประจำปีนั้นๆ ก็จะสามารถเข้าได้โดยไม่ต้องเสียค่าบริการ และยังสามารถทำบุญบริจาค 300 เหรียญดอลลาร์ฮ่องกง เพื่อทำพิธีฝากดวง แก้ชงกับนักพรตด้านใน เมื่อเข้าไปจะพบกับบรรยากาศการตกแต่งอย่างยิ่งใหญ่งดงาม รายล้อมไปด้วยรูปปั้นของเทพเจ้าไท้ส่วยเอี๊ย ทั้ง 60 องค์ ตรงกลางคือรูปปั้นของพระแม่เต้าบ้อ ด้านบนเพดานจำลองท้องฟ้ายามค่ำคืนของฮ่องกงในฤดูใบไม้ผลิและใบไม้ร่วง
ต่อด้วย วัดแชกงหมิว (Che Kung Temple) หรือวัดกังหัน วัดเก่าแก่ ที่มีประวัติศาสตร์ยาวนานกว่า 300 ปี โดยชาวบ้านในย่านซ่าถิ่น (Sha Tin) สร้างขึ้นเพื่ออุทิศแก่นายพลแชกง แม่ทัพฝีมือฉกาจแห่งราชวงศ์ซ่ง ในช่วงที่เกิดโรคระบาดร้ายแรง และเมื่อวันที่วัดสร้างเสร็จโรคระบาดนี้ก็หายไป นายพลแชกง มักใช้กังหันมงคลเป็นสัญลักษณ์ในการนำทัพออกรบ ทำให้วัดแชกงมีกังหันเป็นสัญลักษณ์ประจำวัด โดยใบพัดทั้งสี่ของกังหันหมายถึง 1.การปัดเป่าสิ่งไม่ดีออกจากตัว 2.การพัดสิ่งดีเข้าหาตัว3.การพัดพาสุขภาพร่างกายแข็งแรงเข้ามา4.การพัดโชคลาภเงินทองเข้ามา
ขั้นตอนการสักการะจะเริ่มจากการเคารพทิศ และไหว้ศาลเจ้าที่ หรือที่เรียกกันว่าอากงอาม่า ซึ่งตั้งอยู่ด้านหน้าวัด จากนั้นก็ไหว้องครักษ์ทั้งสองฝั่ง แล้วเข้าไปสักการะและขอพรต่อหน้า
องค์แชกง ในโถงกลาง ระหว่างไหว้ขอพรให้เงยหน้าสบตากับองค์แชกงตลอดเวลา เอ่ยชื่อตนเอง พร้อมขอพรได้ตามที่ใจต้องการ
จากนั้นก็หมุนกังหัน 1 ครั้ง ตามเข็มนาฬิกา โดยห้ามหยุดกังหันเองเด็ดขาด และตีกลองอีก 3 ครั้ง เพื่อปิดจบ เมื่อไหว้แล้ว องค์แชกงจะคอยเตือนใจให้ผู้สักการะมีความซื่อสัตย์ดังพลทหาร ป้องกันไม่ให้เผลอใจทำผิด ในปีมังกรนี้ ชาวปีมะเมีย ควรมาไหว้องค์แชกง ซึ่งเป็นขุนพลสายกรำศึกที่จะช่วยเสริมสิริมงคลแก่ผู้เกิดปีมะเมียตลอดปีมังกรทองได้เป็นอย่างดี
ปิดท้ายกับวัดอันซีนที่อาจารย์คฑา แนะนำว่า ปีมังกรทองนี้ สายมูฯต้องมาสักการะเทพเจ้าห้ามังกร ที่วัดเจ้าแม่ทับทิมย่านนัมชุง (Nam Chung Tin Hau Temple) เป็นวัดเล็กๆ ที่อยู่ห่างออกไปจากตัวเมืองและย่านเศรษฐกิจ สงบเงียบ ตั้งอยู่ในพื้นที่ของอุทยาน Pat Sin Leng Country Park (พัด ซิน เล้ง คันทรี พาร์ก) ริมอ่าว Starling Inlet มีลักษณะทางภูมิศาสตร์ที่มีความเป็นสิริมงคล คือ บริเวณริมอ่าว มีเกาะขนาดเล็กตั้งอยู่ฝั่งตรงข้ามกับเทพเจ้ามังกร ซึ่งเกาะนี้เปรียบเสมือนไข่มุกที่ปากมังกรนั่นเอง
วัดแห่งนี้เป็นที่ประดิษฐานของเจ้าแม่ทับทิม และเทพเจ้าห้ามังกร สัญลักษณ์ของโชคลาภ ความสุข และอายุยืนยาว เริ่มต้นสักการะองค์พระประธานและศาลเจ้าแม่ทับทิม แล้วจึงเดินลงไปสักการะองค์เทพเจ้ามังกรทั้งห้าที่อยู่ด้านล่าง ด้วยธูปและผลไม้ 5 ชนิด ได้แก่ แอปเปิ้ล ส้ม ส้มโอ องุ่น และกล้วย โดย 5 เทพเจ้ามังกร จะดลบันดาลให้ผู้ขอประสบความสำเร็จไปทั่วทุกสารทิศ โดยระหว่างไหว้ให้รำลึกถึงพระคุณของมารดา ดั่งพญามังกรที่สำนึกในบุญคุณของเด็กหญิงที่เปรียบดั่งมารดาผู้ให้กำเนิด ซึ่งไม่ว่าคุณจะเกิดในปีนักษัตรใด ก็สามารถเดินทางมาไหว้เพื่อรับพลังความมั่งคั่ง มั่งมี ตลอดปีมังกรทองได้เช่นกัน
“ปีมังกรทองนี้ มาเปลี่ยนปีชงให้เป็นปีเฮง มารับพลังมังกรเรืองรอง หรือเปิดคำอธิษฐานถึงสวรรค์ ฟ้าต่อฟ้า ดินต่อน้ำ ฟ้ารับรู้ ดินรับฟัง สวรรค์รับทราบ ดินคุ้มครอง ทวยเทพอำนวยพร ที่วัดศักดิ์สิทธิ์ในฮ่องกงกันครับ แต่ทั้งนี้ทั้งนั้นเมื่อสักการะขอพรอย่างถูกต้องแล้ว เราจะต้องมีคุณธรรม ตั้งมั่นในความดีซื่อสัตย์ กตัญญู ขยันขันแข็ง แล้วคุณจะประสบความสำเร็จในชีวิต หรือสมปรารถนาทุกประการ” อาจารย์คฑา กล่าวทิ้งท้าย
โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น
1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์
2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี
3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี