ปัจจุบันสงครามและความรุนแรงส่งผลให้มีผู้พลัดถิ่นทั่วโลกเพิ่มขึ้นกว่า 114 ล้านคน จำนวนนี้รวมถึงพี่น้องชาวมุสลิม ประกอบด้วยเด็กกำพร้า แม่เลี้ยงเดี่ยว หญิงม่าย และผู้สูงอายุที่ถูกบังคับให้ลี้ภัยออกจากบ้านของตนเอง นอกจากนั้น ในปี พ.ศ. 2566 UNHCR ได้ออกประกาศภาวะฉุกเฉินถึง 43 เหตุการณ์ใน 29 ประเทศ ซึ่งถือเป็นจำนวนสูงสุดในรอบหลายทศวรรษ
“Ramadan Table” โต๊ะอาหารเย็นหลังละศีลอดเป็นเหมือนพื้นที่รวมใจของบ้านและครอบครัวในเดือนรอมฎอน เป็นที่ซึ่งทุกคนมารวมตัวและแบ่งปันเวลาอันมีค่าร่วมกัน เนื่องจากครอบครัวผู้พลัดถิ่นและผู้ลี้ภัยส่วนใหญ่ไม่มีโอกาสนั้น UNHCR จึงมีแนวคิดให้ “โต๊ะอาหารรอมฎอนเพื่อผู้ลี้ภัย” เป็นเหมือนศูนย์กลางของการรณรงค์ ในการรับบริจาคทานซะกาตหรือซอดาเกาะห์เพื่อให้ผู้ลี้ภัยสามารถเข้าร่วมโต๊ะอาหารรอมฎอนเพื่อผู้ลี้ภัย ของทุกท่านได้ไม่ว่าเขาจะอยู่ที่ใดก็ตาม
“ในเดือนรอมฎอนซึ่งเป็นเดือนอันศักดิ์สิทธิ์ ยังมีผู้ลี้ภัยจำนวนมากเผชิญกับภาวะขาดแคลนอาหารอย่างไม่เคยเป็นมาก่อน” บาบาร์ บาลอช โฆษกประจำภูมิภาคเอเชีย สำนักงานข้าหลวงใหญ่ผู้ลี้ภัยแห่งสหประชาชาติ (UNHCR) กล่าว “ในเวลาสำคัญเช่นนี้ การสนับสนุนของพันธมิตทุกภาคส่วนเพื่อการทำงานด้านมนุษยธรรมนั้นมีความจำเป็นอย่างที่สุด”
สำนักงานข้าหลวงใหญ่ผู้ลี้ภัยแห่งสหประชาชาติ (UNHCR) ได้ริเริ่ม “โครงการรอมฎอนนี้เพื่อพี่น้องและทานประจำปีซะกาต” ขึ้นในประเทศไทย ตั้งแต่ พ.ศ. 2561 ร่วมกับ สำนักจุฬาราชมนตรี เพื่อสร้างการรับรู้และการระดมทุนทานประจำปีซะกาตและซอดาเกาะห์ ซึ่งเป็นการบัญญัติขึ้นตามหลักศาสนาอิสลามเพื่อช่วยเหลือผู้ที่ตกอยู่ในความทุกข์ยาก และมอบความคุ้มครองแก่ผู้ลี้ภัยและผู้พลัดถิ่นชาวมุสลิมทั่วโลก
“ในเดือนรอมฎอนอันประเสริฐ อิสลามบัญญัติให้มุสลิมถือศีลอดเพื่อได้รู้รสชาติของความหิวความกระหาย ความอดอยากยากแค้นที่มีอยู่ในสังคมมนุษย์ดังนั้นความเมตตา ความเห็นอกเห็นใจ ด้วยการช่วยเหลือและการแบ่งปัน จึงเป็นสิ่งจำเป็นที่ต้องเกิดขึ้นจากผู้ถือศีลอดทุกคน” ผศ.ดร.อับดุลเลาะห์ หนุ่มสุขผู้แทนจุฬาราชมนตรี กล่าว “ปีนี้เป็นปีที่ 7สำนักจุฬาราชมนตรี ร่วมสนับสนุนโครงการระดมทุนระดับโลกของ UNHCR เพื่อที่จะแบ่งเบาภาระของครอบครัวพี่น้องผู้ลี้ภัยชาวมุสลิมที่ต้องพลัดถิ่นซึ่งต้องอยู่ไกลบ้านและคนที่พวกเขารัก การบริจาคเป็นสิ่งจำเป็นเร่งด่วนสำหรับ UNHCR เพื่อช่วยชีวิตและช่วยเหลือครอบครัวที่เปราะบางซึ่งส่วนใหญ่จัดอยู่ในหมวดซะกาตอย่างน้อย 4 จาก 8 หมวดที่กล่าวถึงในคัมภีร์อัลกุรอาน ให้ได้มีที่พักพิง อาหารอุ่นๆ สำหรับละศีลอด น้ำสะอาด และอนาคตที่ดีและปลอดภัยยิ่งขึ้น”
“ในขณะที่พวกเราเตรียมต้อนรับเดือนรอมฎอนอันศักดิ์สิทธิ์ ผู้ลี้ภัยหลายล้านคนได้รับผลกระทบหนักที่สุด ท่ามกลางวิกฤตความขัดแย้ง ความไม่มั่นคงทางอาหาร และภัยพิบัติทางธรรมชาติ รวมถึงงบประมาณและความช่วยเหลือด้านมนุษยธรรมที่ไม่เพียงพอ ผู้ลี้ภัยสามในสี่ทั่วโลกไม่สามารถเข้าถึงปัจจัยขั้นพื้นฐาน ครอบครัวผู้ลี้ภัยไม่มีอาหาร ไม่มีที่พักพิงมีหนี้สินเพิ่มมากขึ้น หรือเด็กๆ ไม่ได้เข้าเรียนเนื่องจากไม่มีค่าเดินทาง” อาจารย์ซากีย์ พิทักษ์คุมพล นักวิชาการ กล่าว “เนื่องจากสถานการณ์ฉุกเฉินมีแนวโน้มเพิ่มขึ้นในปี2567 และจำนวนผู้พลัดถิ่นที่คาดว่าจะเพิ่มขึ้นเป็น 130 ล้านคน ภายในสิ้นปีนี้ ความช่วยเหลือเกื้อกูลพี่น้องผู้ลี้ภัยนั้นสำคัญอย่างยิ่ง”
ในการรับบริจาคทานประจำปีซะกาตUNHCR ทำงานร่วมกับมูลนิธิทาบาห์ องค์กรชั้นนำทางศาสนา และได้ขยายการรับรองระดับโลกจากนักวิชาการศาสนา (นักฟัตวา) มากถึง 17 ท่าน จากสถาบันศาสนาอิสลามมากกว่า 16 แห่งทั่วโลกเช่น อียิปต์ เยเมน โมร็อกโก มอริเตเนีย รวมถึงประเทศไทย เพื่อรับรองหน่วยงานว่ามีคุณสมบัติในการรับทานซะกาตและสามารถมอบความช่วยเหลือนี้โดยตรงแก่ผู้ได้รับผลกระทบจากสงคราม ได้แก่ ผู้ลี้ภัยและผู้พลัดถิ่นชาวมุสลิม ให้พวกเขาได้มีอาหารที่พอเพียง น้ำสะอาดไว้ใช้และดื่ม ที่พักพิงที่ปลอดภัย และเงินสมทบช่วยเหลือ
“ธนาคารอิสลามแห่งประเทศไทยมีความเชื่อมั่นในการสร้างความเปลี่ยนแปลงต่อสังคมไทยและรับผิดชอบต่อสังคมโลก เรายังคงสนับสนุน UNHCR อย่างต่อเนื่องเพราะสถานการณ์ของผู้ลี้ภัยนั้นรุนแรงขึ้นอย่างมาก” ดร.ทวีลาภฤทธาภิรมย์ กรรมการและผู้จัดการ ธนาคารอิสลามแห่งประเทศไทย กล่าว
“ในเดือนรอมฎอน บ้านและโต๊ะรับประทานอาหารของเราเป็นสถานที่แห่งความสุขที่ครอบครัวมารวมตัวกันแต่สำหรับผู้ลี้ภัยมักไม่มีโอกาสเช่นนั้นเงินบริจาคของทุกท่านจะสนับสนุนแนวคิดเรื่องโต๊ะอาหารรอมฎอนเพื่อผู้ลี้ภัยที่สำคัญนี้ให้เกิดขึ้น และช่วยครอบครัวผู้พลัดถิ่นให้สามารถซื้ออาหาร น้ำ และที่พักพิงที่จำเป็นได้”
ภายใต้การระดมทุนผ่านโครงการฯปีที่ผ่านมา UNHCR สามารถมอบความช่วยเหลือแก่ครอบครัวผู้ลี้ภัยไปแล้วมากกว่า 1.5 ล้านคน ใน 21 ประเทศทั่วโลกเช่น อัฟกานิสถาน อิรัก ปากีสถาน บังกลาเทศ มาเลเซีย เยเมน และไนจีเรีย เป็นต้น แต่ด้วยจำนวนผู้พลัดถิ่นที่มากที่สุดเป็นประวัติการณ์ สื่อคือสิ่งสำคัญที่จะช่วยสร้างความรับรู้และการเปลี่ยนแปลงให้เกิดขึ้นได้จริง ในปีที่ 7 นี้ บริษัท ทีวีบูรพา กรุ๊ป จำกัด ร่วมกับ UNHCR ในการเพิ่มความช่วยเหลือในด้านต่างๆ ทั้งด้านสื่อ การ
จัดกิจกรรม และการลงพื้นที่จริง
พงศ์ธนา วรานนท์ ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท ทีวีบูรพา กรุ๊ป จำกัด กล่าวว่า “ชีวิตผู้ลี้ภัยถูกพลัดพรากจากกันด้วยความขัดแย้งและภัยพิบัติทางธรรมชาติ พวกเขาเผชิญกับความหิวโหยและความไม่มั่นคง เนื่องจากเป้าหมายของเราคือการมุ่งทำธุรกิจที่เป็นมิตร ปลอดภัย และยั่งยืนแก่สังคม เราจึงขอร่วมเป็นส่วนหนึ่งในสนับสนุนให้ผู้ลี้ภัยได้มีโอกาสรับความช่วยเหลือภายใต้แนวคิดโต๊ะอาหารรอมฎอนเพื่อผู้ลี้ภัย (Ramadan Table) โดยเราจะจัดกิจกรรมและสนับสนุนการทำงานด้านต่างๆ ของ UNHCR ตลอดปีซึ่งสามารถติดตามได้ทุกช่องทางของทีวีบูรพา กรุ๊ป”
ในเดือนรอมฎอนอันศักดิ์สิทธิ์นี้ โปรดแบ่งปันพื้นที่ความโอบอ้อมอารีของโต๊ะอาหารรอมฎอนเพื่อผู้ลี้ภัย ของคุณกับครอบครัวผู้ลี้ภัยและผู้พลัดถิ่นจากสงครามและความรุนแรงทั่วโลก ร่วมบริจาคทานของท่านได้ที่เว็บไซต์ www.unhcr.org/th
โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น
1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์
2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี
3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี