ด้วยไลฟ์สไตล์ของคนที่เปลี่ยนไป ไม่ว่าจะการทำงาน การเดินทาง ที่ทำให้มีเวลาในการดูแลสุขภาพตัวเองน้อยลง ปัจจุบันจึงมีผู้ป่วยโรคไม่ติดต่อเรื้อรัง (Non-Communicable Diseases : NCDs) เพิ่มสูงขึ้น อีกทั้งประเทศไทยยังเป็น 1 ใน 5 ประเทศ ที่มีอัตราการเกิดโรคไตสูงที่สุด โดยมีผู้ป่วยโรคไตระยะวิกฤตที่ต้องเข้าสู่กระบวนการฟอกไตกว่า 8 หมื่นราย และมีแนวโน้มเพิ่มสูงขึ้นทุกปี ซึ่งในแต่ละปีภาครัฐต้องใช้งบประมาณในการฟอกไตหลายหมื่นล้านบาท ด้วยเหตุนี้จึงเป็นแรงบันดาลใจให้ ชลกานต์ วิสุทธิพิทักษ์กุล เปิดตัว “กรีน แอนด์ ออแกนิค” แบรนด์ผลิตภัณฑ์อาหารพร้อมทานสำหรับผู้ป่วยโรคไต โรคมะเร็งและกลุ่มโรค NCDs รวมถึงผู้ให้ความสำคัญกับการดูแลสุขภาพป้องกันโรคอีกด้วย
ชลกานต์ วิสุทธิพิทักษ์กุล
ชลกานต์ วิสุทธิพิทักษ์กุล กรรมการผู้จัดการ บริษัท กรีน แอนด์ ออแกนิค จำกัด กล่าวว่า แม้จะมีผู้ผลิตอาหารเพื่อสุขภาพอยู่มากมาย แต่ส่วนใหญ่ก็เน้นเป็นอาหารเพื่อการควบคุมน้ำหนักเป็นส่วนใหญ่ แต่แบรนด์ที่เน้นเพื่อการป้องกันหรืออาหารสำหรับผู้ป่วยโรคเฉพาะทางยังมีน้อยมาก เมื่อได้มีโอกาสร่วมกับหน่วยงานภาครัฐ และเอกชน ในการทำงานวิจัยและผลักดันเรื่องการลดอัตราผู้ป่วยโรคไต โรคมะเร็ง และกลุ่มโรค NCDs ทำให้เรารู้ว่าอาหาร เป็นปัจจัยสำคัญในการควบคุมโรคในกลุ่มอาการต่างๆ ซึ่งในผู้ป่วยแต่ละคนก็ต้องการอาหารที่แตกต่างกันไปในแต่ละราย แต่ในตลาดยังไม่มี อาหารเฉพาะโรคเฉพาะรายบุคคล หรือ Personalized Food จำหน่าย เราจึงมองเห็นโอกาสและต้องการเป็นส่วนหนึ่งในการดูแลรักสุขภาพคนไทยรวมถึงช่วยลดงบประมาณภาครัฐในการดูแลสุขภาพของประชาชน
“กรีน แอนด์ ออแกนิค จึงเป็นผลิตภัณฑ์อาหารพร้อมทาน Personalized Food แบรนด์แรก ที่ได้ร่วมกับนักวิจัย นักโภชนาการอาหาร
ในการพัฒนาสูตรอาหารไทยที่เหมาะกับผู้ป่วยแต่ละราย ภายใต้แนวคิดอาหารไทยคือยารักษาโรคที่ดีที่สุด เพราะอาหารไทยมีพืชผักที่เป็นสมุนไพรมากมายที่ล้วนมีคุณสมบัติทางยา รวมถึงการใช้เครื่องปรุงที่พัฒนาวิจัยมาเป็นอย่างดี ที่จะช่วยเพิ่มรสชาติอาหาร เพื่อให้คนทานได้ทั้งการดูแลรักษาโรค และรสชาติอร่อยไปพร้อมๆ กันซึ่งปัจจุบัน กรีน แอนด์ ออแกนิค มีให้กว่า 200 เมนูให้เลือกรับประทาน
ในการให้บริการอาหาร Personalized Food นี้ ลูกค้าจะต้องมีการส่งผลเลือดที่ได้จากโรงพยาบาลมาให้เรา นักโภชนาการอาหารจะนำมาวิเคราะห์ เพื่อจัดสรรเมนูที่เหมาะสมกับลูกค้าแต่ละราย โดยมีให้เลือกเป็นแพ็กเกจแบบ 2 มื้อ/วัน/เดือน และ 3 มื้อ/วัน/เดือน สนนราคาเริ่มต้นที่
2,690 บาท เฉลี่ยต่อมื้อไม่ถึง 100 บาท แต่อย่างไรก็ตาม ลูกค้าหรือตัวผู้ป่วยเองก็ต้องมีการดูแลตนเองในด้านอื่นๆ ควบคู่กันไปเพื่อให้เห็นผลได้ดีขึ้นอย่างชัดเจน แบรนด์ของเราไม่ได้เหมาะสำหรับผู้ป่วยเท่านั้น แต่ผู้ที่ต้องการทานเพื่อการป้องกันโรคก็สามารถทานได้เช่นกัน”
กรีน แอนด์ ออแกนิค เปิดให้บริการมาเข้าสู่ปีที่ 3 ปัจจุบันมีผู้ป่วยใช้บริการออกแบบอาหารเฉพาะโรคเฉพาะบุคคลพร้อมส่งถึงบ้านแล้วกว่า 60,000 มื้อต่อปี โดยกลุ่มลูกค้าแบ่งเป็นผู้ป่วยโรคไต 80%, ผู้ป่วยโรคมะเร็งเบาหวาน และโรคความดัน 20% โดยเป็นลูกค้าต่างจังหวัด 70% และอีก 30% เป็นลูกค้าในพื้นที่กรุงเทพมหานครและได้เพิ่มไลน์ผลิตภัณฑ์ใหม่ๆ เพื่อลูกค้ารักสุขภาพ ได้แก่ กลุ่มอาหารเพื่อสุขภาพพร้อมทานและขนมเพื่อสุขภาพ กลุ่มเครื่องปรุงรสและน้ำจิ้มลดโซเดียม 60-90% และกลุ่มอาหารแห้งโซเดียมต่ำ
นอกจากนี้ ชลกานต์ ยังตระหนักดีว่าไม่ใช่ผู้ป่วยทุกคนจะสามารถเข้าถึงอาหารเฉพาะโรคเฉพาะบุคคล แต่การรับประทานอาหารที่เหมาะสมกับโรคก็เป็นสิ่งสำคัญที่จะช่วยให้ผู้ป่วยมีคุณภาพชีวิตที่ดีและสามารถลดงบประมาณของภาครัฐได้กรีน แอนด์ ออแกนิค ภายใต้การนำของเธอจึงได้เข้าร่วมกับกรรมาธิการสาธารณสุข วุฒิสภา ในการนำเสนอร่างนโยบาย ป้องกันก่อนการรักษาเพื่อลดภาระค่าใช้จ่ายการรักษาของประเทศ โดยให้แพทย์สั่งจ่ายอาหารสุขภาพแล้วสามารถเบิกได้เหมือนยารักษาโรค
“ในส่วนนี้ทางรัฐบาลก็รับเรื่องอยู่ในขั้นตอนของการพิจารณาแนวทางที่จะทำได้ ซึ่งหากทำได้จริงผู้ป่วยจะสามารถเข้าถึงอาหารเฉพาะโรคเฉพาะบุคคลได้มากขึ้น ส่งผลให้ผู้ป่วยมีคุณภาพชีวิตที่ดี บรรเทาหรือชะลอความรุนแรงของโรค ภาครัฐเองก็สามารถประหยัดงบประมาณด้านการรักษาโรคให้กับประชาชนได้มากขึ้นตามไปด้วยอีกหนึ่งภารกิจที่กรีน แอนด์ ออแกนิค เร่งดำเนินการอยู่คือการจัดโภชนคลินิกสัญจร เป็นการให้บริการคำแนะนำด้านโภชนาการรายบุคคลกับกลุ่มคนไข้ประกันสังคม รวมถึงหน่วยงาน องค์กรต่างๆที่สนใจ เพื่อให้ประชาชนตระหนักถึงความสำคัญในการทานอาหารเป็นยา เพื่อป้องกันรักษาโรค โดยเฉพาะอย่างยิ่งการควบคุมปริมาณโซเดียมลดหวาน มัน เค็ม ซึ่งเป็นสิ่งที่ทุกคนสามารถทำได้เองที่บ้าน”
ในด้านการเติบโตของธุรกิจ ชลกานต์ มองว่าาตลาดอาหารเฉพาะโรคเฉพาะบุคคล รวมถึงผลิตภัณฑ์อาหารเพื่อสุขภาพ ยังสามารถเติบโตได้อีกไม่เฉพาะในประเทศเท่านั้น ตลาดต่างประเทศก็ยังสามารถไปได้ โดยตลาดที่น่าสนใจคือประเทศในแถบตะวันออกกลาง เป็นกลุ่มที่เข้ามาใช้บริการด้านการแพทย์ในประเทศไทยเป็นอันดับต้นๆ ของโลก และมีความสามารถในการจับจ่ายผลิตภัณฑ์เพื่อการดูแลสุขภาพ โดยในระยะแรก กรีน แอนด์ ออแกนิค จะส่งออกผลิตภัณฑ์อาหารและเครื่องปรุงรสเพื่อสุขภาพไปจำหน่ายในตะวันออกกลางในช่วงไตรมาสสุดท้ายของปี 2567
“ในเรื่องของธุรกิจเป็นสิ่งที่เราต้องทำให้เติบโต แต่ในขณะเดียวกันการให้ความรู้แก่ผู้บริโภคเป็นสิ่งที่กรีน แอนด์ ออแกนิคก็ให้ความสำคัญไม่ยิ่งหย่อนไปกว่ากัน เพราะธุรกิจนี้เกิดขึ้นมาเพราะตนเองอยากเห็นคนไทยมีสุขภาพที่ดี มีคุณภาพชีวิตที่ดีด้วยการทานอาหารที่มีประโยชน์ มีโภชนาการที่เหมาะสม ซึ่งการที่กรีน แอนด์ ออแกนิค จะเป็นส่วนหนึ่งในการส่งเสริมสุขภาพคนไทย ช่วยลดภาระค่าใช้จ่ายให้กับประเทศไทยเป็นสิ่งที่เราภาคภูมิใจที่สุดแล้ว”
ผู้สนใจรับบริการออกแบบอาหารเฉพาะโรคเฉพาะบุคคล รวมถึงผลิตภัณฑ์อาหารต่างๆ ของ กรีน แอนด์ ออแกนิค สอบถามข้อมูลเพิ่มเติมได้ที่ ร้านกรีน แอนด์ ออแกนิค ซ.อุดมสุข 51 กรุงเทพฯ โทร.095-9395199Facebook : อาหารเฉพาะโรค, Line ID :@greenandorganic และ www.GreenAndOrganic.in.th
โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น
1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์
2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี
3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี