ปัจจุบันหลายคนประสบปัญหาการนอนหลับยาก จากการใช้ชีวิตที่ทำให้เกิดความเครียดและความวิตกกังวล ส่งผลให้หันมาพึ่งยานอนหลับเพื่อช่วยให้นอนหลับ
ง่ายขึ้น แต่การใช้ยานอนหลับเป็นเวลานาน จนถึงขั้นติดยานอนหลับอาจจะส่งผลกระทบต่อร่างกายและสุขภาพจิตในระยะยาว
นายแพทย์ณชารินทร์ พิภพทรรศนีย์ จิตแพทย์โรงพยาบาล BMHH - Bangkok Mental Health Hospital กล่าวว่า อาการนอนไม่หลับ (Insomnia) เกิดขึ้นได้จากหลายปัจจัย ทั้งจากพฤติกรรมการนอนที่ไม่เหมาะสมรวมไปถึงความเครียดในชีวิตประจำวัน หรือ อาจเป็นสัญญาณบ่งบอกว่ามีโรคทางกาย หรือ จิตเวช ซ่อนอยู่ อาการของนอนไม่หลับ ถึงแม้ว่าอาจจะฟังดูไม่รุนแรง แต่สามารถส่งผลต่อการใช้ชีวิตประจำวันได้ในหลายด้าน
ปัจจัยต่างๆ ที่สามารถส่งผลเสียต่อการนอน เช่น ด้านจิตใจ สภาวะความเครียดทำให้เกิดความกังวล หมดกำลังใจ อาการเหล่านี้มีผลทำให้เกิดอาการนอนไม่หลับ หรืออาจเกิดจากโรคที่มีผลโดยตรงกับความอารมณ์ เช่น โรคไบโพลาร์ หรือโรคซึมเศร้า เป็นต้น ด้านร่างกาย มีอาการป่วยที่มีส่วนทำให้เกิดโรค เช่น โรคขาอยู่ไม่สุขโรคกรดไหลย้อน ภาวะหยุดหายใจขณะหลับ โรคขากระตุกขณะหลับ นอกจากนี้ยังเกิดจากสภาวะของร่างกายตามอายุ เช่น การหมดประจำเดือนรวมไปถึงอาการเหนื่อยล้าจากการทำงาน เป็นต้น ด้านอื่นๆ เช่น ผลข้างเคียงจากใช้ยาบางชนิด การออกกำลังกายมากเกินไป การดื่มหรือทานอาหารที่มีส่วนผสมของกาเฟอีน
ปัจจุบันมีการนำยาหลายกลุ่มมาใช้ช่วยให้นอนหลับ ซึ่งยาที่ใช้บ่อยมักเป็นยาในกลุ่ม Benzodiazepine โดยตัวยาจะออกฤทธิ์กดการทำงานของสมอง เพื่อช่วยคลายความกังวล และช่วยให้นอนได้ง่ายขึ้น ถึงแม้ยาในกลุ่มนี้มีประโยชน์มาก แต่หากผู้ป่วยใช้ยาไม่ถูกต้องหรือมีการใช้ขนาดสูง ติดต่อกันเป็นเวลานาน อาจทำให้มีอาการติดยานอนหลับได้ ซึ่งสามารถสังเกตได้จากการที่จำเป็นต้องใช้ยาขนาดที่สูงขึ้น เพื่อให้หลับได้ หรือ ที่เรียกว่า การดื้อยา นอกจากนี้ การที่ใช้ยานอนหลับในกลุ่มนี้
ติดต่อกันนานๆ อาจทำให้นอนได้ยากขึ้นหากไม่ได้ใช้ยา
นพ.ณชารินทร์ พิภพทรรศนีย์
ผลข้างเคียงจากการใช้ยานอนหลับมีทั้งในระยะสั้นและระยะยาว โดยระยะสั้นจะมีอาการ ง่วงนอน อ่อนเพลีย, ปวดศีรษะ, คลื่นไส้, สับสน มึนงง,ท้องเสีย หรือ ท้องผูก, ปากแห้ง, กล้ามเนื้ออ่อนแรง, การตัดสินใจช้า สมองประมวลผลช้า เพิ่มความเสี่ยงต่อการเกิดอุบัติเหตุ พลัดตกหกล้ม, อาหารไม่ย่อย มีแก๊สในกระเพาะอาหาร จุกเสียดแน่นท้อง ส่วนระยะยาวส่งผลต่อการทำงานของสมอง เปลี่ยนแปลงโครงสร้างการนอนหลับจนทำให้ติดยานอนหลับการดื้อยา รวมถึงผลข้างเคียงอื่นๆ ได้แก่ อาจเพิ่มความเสี่ยงต่อภาวะซึมเศร้า, ภาวะสมองเสื่อม โดยเฉพาะในผู้สูงอายุ, สมรรถภาพทางเพศเสื่อม
นอกจากนี้ การใช้ยานอนหลับเกินขนาด อาจทำให้เกิดการกดระบบหายใจขณะหลับ จนอาจทำให้เสียชีวิตได้ทั้งนี้ผู้ที่ใช้ยานอนหลับไม่ควรเลิกยานอนหลับกะทันหันหรือหักดิบ(Cold turkey) เพราะอาจทำให้เกิดมีอาการนอนไม่หลับที่รุนแรงกว่าตอนที่ยังไม่ได้ใช้ยา (Reboundinsomnia) และจะทำให้เกิดอาการถอนยาได้ เช่น หงุดหงิด สับสนกระสับกระส่าย วิตกกังวล มีอาการสั่นหรือมีปัญหาระบบไหลเวียนของโลหิตเพราะฉะนั้นต้องลดขนาดยาตามคำแนะนำของแพทย์เท่านั้น
การรักษาอาการติดยานอนหลับควรเข้ารับคำแนะนำจากแพทย์ เนื่องจากการเพิ่มหรือลดขนาดยานอนหลับต้องอยู่ภายใต้การดูแลของแพทย์ผู้ให้การรักษา เพราะการปรับขนาดยานอนหลับจะขึ้นอยู่กับปัจจัยของแต่ละบุคคลด้วย เช่น ความเครียด พฤติกรรมกิจวัตรประจำวัน ชนิดและขนาดยาที่ใช้ ซึ่งการลดขนาดยาแพทย์จะทำควบคู่ไปกับการจิตบำบัด เช่น การบำบัดโดยการปรับความคิดและพฤติกรรม (Cognitive behavioral therapy : CBT) เป็นการบำบัดจิตโดยการพูดคุยกับนักจิตบำบัด หรือจิตแพทย์เพื่อช่วยให้ผู้ป่วยสามารถปรับพฤติกรรมการนอนหลับ และรับมือกับความเครียดที่เกิดขึ้นได้
โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น
1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์
2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี
3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี