นพ.ดิตถพงษ์ บุญอำพล
โรงพยาบาล เอส สไปน์ แอนด์ เนิร์ฟ เปิดบ้านแนะนำนวัตกรรมและเทคโนโลยีการผ่าตัดกระดูกสันหลังแบบครบวงจร พร้อมเปิดสูตรความสำเร็จแบบก้าวกระโดด เตรียมขยายสาขาแตกไลน์ธุรกิจ เพิ่มการรักษาเฉพาะทางด้านกระดูกและข้อ ขึ้นแท่นโรงพยาบาลด้านกระดูกสันหลังแบบครบวงจรแห่งแรกในประเทศไทย
นายแพทย์ดิตถพงษ์ บุญอำพล ผู้อำนวยการโรงพยาบาล และศัลยแพทย์ผู้เชี่ยวชาญเฉพาะทางด้านกระดูกสันหลังและระบบประสาท กล่าวว่า โรงพยาบาลเอส สไปน์ แอนด์ เนิร์ฟ เป็นโรงพยาบาลเฉพาะทางด้านกระดูกสันหลังแห่งแรกในประเทศไทย ที่เน้นการรักษาแบบ Minimally Invasive Spine Surgery หรือ MIS Spine แบบครบวงจร เหมาะสำหรับผู้ที่มีปัญหาเกี่ยวกับกระดูกสันหลังและกลัวการผ่าตัด ด้วยเทคโนโลยีที่สามารถทำให้การผ่าตัดแบบแผลใหญ่กลายเป็นแผลเล็ก แต่ได้ผลลัพธ์และประสิทธิภาพเทียบเท่ากับการรักษาแบบเดิมและยังปลอดภัยกว่า ผู้ป่วยเสียเลือดน้อย ความเจ็บปวดหลังการรักษาลดลง ทำให้ค่ารักษาโดยรวมถูกกว่าเดิม ผู้ป่วยจากเดิมที่ต้องนอนโรงพยาบาลประมาณ 2-3 สัปดาห์ หรือบางรายอาจต้องนอนนาน 1-2 เดือน แต่เมื่อมารักษาด้วยวิธี MIS Spine ทำให้ผู้ป่วยนอนพักที่โรงพยาบาลเพียงแค่ 1 คืนเท่านั้น
การตรวจด้วยเครื่อง MRI แบบยืน
ขณะที่เทคนิคและเทคโนโลยีที่ทางโรงพยาบาลนำมาใช้ในการรักษาผู้ป่วยก็เป็นเทคนิคเฉพาะของทางโรงพยาบาล ไม่ว่าจะเป็นการจี้Laser เพื่อรักษาหมอนรองกระดูกทับเส้นประสาทในกรณีที่ปลิ้นออกมาไม่เยอะ, เทคนิค PSCD การรักษาอาการปวดคอ หรือปวดต้นคอท้ายทอยร้าวลงแขน ที่เกิดจากเส้นประสาทถูกกดทับ, เทคนิคแบบ Full Endo TLIF การส่องกล้องเอ็นโดสโคปร่วมกับการยึดนอตนำวิถีเพื่อหยุดการเคลื่อนตัวของกระดูกสันหลัง และเทคนิค PSLD การรักษาโรคหมอนรองกระดูกส่วนหลังตีบแคบ หรือหมอนรองกระดูกปลิ้นทับเส้นประสาทในขณะที่การรักษาด้วยเทคนิคแบบ EndoscopicACDF หรือขั้นกว่าของการผ่าตัดเปลี่ยนหมอนรองกระดูกส่วนคอแบบแผลเล็กผ่านกล้องเอ็นโดสโคป
สำหรับการผ่าตัดหมอนรองกระดูกผ่านกล้องเอ็นโดสโคป (Endoscopic discectomy) เครื่องมือที่ใช้ในการผ่าตัดจะมีลักษณะเป็นท่อขนาดเล็ก เส้นผ่าศูนย์กลาง ประมาณ 5 มิลลิเมตร โดยที่มีเลนส์ติดอยู่ที่ปลายท่อ นอกจากนี้ภายในยังมีระบบนำแสงพิเศษเพื่อช่วยในการมองเห็นและมีช่องที่สามารถจะสอดเครื่องมือไม่ว่าจะเป็น laser หรืออุปกรณ์พิเศษอื่นๆ เพื่อเข้าไปรักษาในส่วนที่ลึกที่ตาเปล่าไม่สามารถมองเห็นได้
กล้องเอ็นโดสโคป
ซึ่งกล้องเอ็นโดสโคปนี้จะช่วยให้แพทย์สามารถมองเห็นเส้นประสาทได้ชัดเจนมากขึ้น เนื่องจากสามารถลอดผ่านเข้าไปได้ลึก และมีกำลังขยายในการมองเห็น ทำให้สามารถนำหมอนรองกระดูกชิ้นที่กดทับเส้นประสาทออกได้โดยง่าย แพทย์สามารถเลือกตัดเฉพาะส่วนที่มีการกดทับจากหมอนรองกระดูกปลิ้น หรือการบีบรัดจากกระดูกข้อต่อตรงตำแหน่งของหมอนรองกระดูกที่เป็นปัญหา ซึ่งขั้นตอนทั้งหมดนี้ใช้เวลาประมาณ 15-30 นาที จากนั้นผู้ป่วยสามารถเดินได้ทันทีหลังการผ่าตัด
นอกจากนี้ ยังได้นำเครื่องตรวจคลื่นแม่เหล็กไฟฟ้าแบบยืน หรือ MRI แบบยืนมาใช้ในตรวจการวินิจฉัยโรค เป็นเครื่องที่มีประสิทธิภาพในการค้นหาสาเหตุของโรคด้วยเทคโนโลยีที่มีศักยภาพสูง แม่นยำและปลอดภัย เพื่อให้แพทย์สามารถกำหนดแนวทางการรักษาได้อย่างมีประสิทธิภาพมากยิ่งขึ้นซึ่งการตรวจด้วยเครื่อง MRI แบบยืนนี้ ปัจจุบันมีเพียงแห่งเดียวในประเทศไทยที่ออกแบบมาเพื่อกระดูกสันหลังโดยเฉพาะ ทำให้เห็นต้นเหตุของโรคได้อย่างชัดเจนมากกว่าแบบเดิม
“ขณะที่อนาคตอันใกล้นี้ เรากำลังจะขยายสาขาโรงพยาบาลด้วยการสร้างโรงพยาบาลใหม่ เพื่อแตกไลน์ธุรกิจเจาะกลุ่มลูกค้าใหม่ โดยยังคงเน้นเรื่องของการรักษากระดูกสันหลังเป็นหลัก และเรายังพบว่าผู้ป่วยหนึ่งในสามของเรายังมีปัญหาเรื่องข้อกระดูก ซึ่งเราอาจจะทำเรื่องข้อและกระดูกเสริมขึ้นมา โดย concept ใหม่ก็คือ S SpeciatyGroup เป็นกลุ่มของโรงพยาบาลเฉพาะทางที่เป็นโรคเกี่ยวกับความเสื่อม ซึ่งทำให้ในอนาคตเราจะเป็นโรงพยาบาลกระดูกแบบครบวงจร ผู้ที่มีปัญหาเกี่ยวกับกระดูกสันหลัง สามารถขอรับคำปรึกษาได้ที่ โทร. 02-0340808” นายแพทย์ดิตถพงษ์ กล่าวทิ้งท้าย
โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น
1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์
2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี
3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี