นักท่องเที่ยวที่มาเยือน Basel เมืองแห่งศิลปะ คงไม่เพียงแค่สนุกสนานกับการถ่ายรูปกับ Street Art และสถาปัตยกรรมของเมืองเท่านั้น แต่คงอยากหามิวเซียมที่น่าสนใจเข้าด้วย สถานที่ท่องเที่ยวแห่งหนึ่งที่ควรค่าแก่การเยี่ยมเยือนคือ Doll Museum นักท่องเที่ยวที่เลยวัยเด็กอาจสงสัยว่าทำไมต้องมาเยือนที่นี่ เหตุผลก็คือ Doll Museum Baselเป็นที่เก็บสะสมตุ๊กตาจำนวนมากถึง 6,000 ตัว หรือเป็นมิวเซียมตุ๊กตาที่ใหญ่ที่สุดในยุโรป โดยเฉพาะอย่างยิ่ง Teddy Bear
มิวเซียมที่จัดตั้งขึ้นในอาคารที่ถูกสร้างขึ้นตั้งแต่ปี 1867 กลางเมือง Basel นี้มีประวัติย้อนไปตั้งแต่งาน BaselAutumn Fair ที่ Marc Rippstein ได้ถูกเทศบาลว่าจ้างให้จัดฉากที่มีสัดส่วน 1:12 เพื่อใช้ในงานเทศกาลฤดูใบไม้ร่วงหลังจากฉากนั้นเป็นต้นมา คณะกรรมการจัดงานก็เก็บสะสมของจัดแสดง ทั้งตุ๊กตาและฉากเพิ่มขึ้นเรื่อยๆ จนในที่สุดก็ตัดสินใจจัดตั้ง Doll Museum ทำไมการเยือน Doll Museum Basel จึงสนุกสนาน เหตุผลก็คือ ไม่เพียงที่นี่จะมีตุ๊กตาและของเล่นมากมาย วิธีการจัดแสดงและ multi media ยังทำให้นักท่องเที่ยวได้เรียนรู้ประวัติศาสตร์ของของจัดแสดงด้วย
ตุ๊กตา Teddy ที่ถูกจัดแสดงอยู่มากถึง2,500 ตัวนี้ มีเรื่องราวมากมายให้ค้นหาส่วนหนึ่งของการจัดแสดงเป็น Teddy Bearที่เคยอยู่ในห้องทำงานในโรงงานของ MargareteSteiff เจ้าของโรงงาน Teddy Bear ที่ไม่มีที่ไหนในโลกอีกแล้ว ตุ๊กตา Teddy Bear ที่โด่งดังได้ชื่อมาจากชื่อของ Theodore “Teddy” Roosevelt อดีตประธานาธิบดีสหรัฐฯ เพื่อรำลึกถึงการล่าสัตว์ของเขาในปี 1902 ในครั้งนั้น เจ้าหน้าที่ที่ไปด้วยต้องการเอาใจประธานาธิบดีด้วยการเอาหมีเด็กตัวหนึ่งจับไว้เพื่อให้ท่านยิงได้ง่ายๆ แต่ท่านคิดว่าวิธีนี้มันไม่สง่างาม ท่านเลยไม่ยอมยิงหมีตัวนั้น มันจึงเป็นการล่าสัตว์ที่กลับมามือเปล่า แต่กลับมีเรื่องราวดีๆ ของท่านกลับมาเล่าขานอีกนานแสนนาน
นักเขียนการ์ตูนรู้ข่าวเลยเขียนการ์ตูนเล่าเหตุการณ์จนเป็นที่มาของคำว่า Teddy’sbear ที่แปลว่าหมีของท่าน Teddy และถูกเรียกต่อมาเป็น Teddy Bear แม้การตั้งชื่อตุ๊กตาหมีของเจ้าของโรงงานจะทำไว้เพื่อหวังผลทางการตลาด แต่การที่ Teddy Bearขายดีจริงๆ กลับไม่ได้มาจากชื่อ แต่มาจากการที่มันเป็นตุ๊กตาที่สามารถขยับแขนขาได้ ไม่เพียงที่นี่จะมีTeddy Bear ตัวแรกของโลกที่ถูกสร้างขึ้นโดยSteiff ในปี 1904 แล้วที่นี่ยังมีตุ๊กตาที่ถูกผลิตระหว่างปี 1870-1920 จากโรงงานแทบทุกแห่งทั่วโลกด้วย นักท่องเที่ยวสามารถศึกษาตุ๊กตาแต่ละตัวได้จากจอ multi-media ที่ตั้งไว้ให้ศึกษา
นอกจาก Teddy Bear แล้ว ของจัดแสดงที่น่าตื่นตาตื่นใจอีกอย่างก็คือ บ้านตุ๊กตาที่มีประวัติย้อนไปในปี 1557 เมื่อ Duke Albrecht Vแห่งบาวาเรีย เยอรมันสั่งให้ช่างสร้างบ้านขนาดย่อเลียนแบบพระราชวัง นับจากนั้นมา ราชนิกูลและคหบดีก็เลยเลียนแบบพระองค์ให้สร้างบ้านขนาดเล็กเลียนแบบบ้านตัวเอง ส่วนการสร้างบ้านตุ๊กตานี้ได้เป็นที่นิยมจนมีการสร้างขายในคริสต์ศตวรรษที่ 19 นับจากนั้นมาคหบดีทั้งหลายใช้บ้านตุ๊กตาเหล่านี้สอนบุตรหลานเพื่อเตรียมตัวเข้าสังคมในวันหน้า ในมิวเซียมแห่งนี้มีบ้านตุ๊กตาที่มีรายละเอียดเกี่ยวกับเรื่องราวชีวิตของผู้คนในแต่ละประเทศที่สร้างขึ้นปลายคริสต์ศตวรรษที่ 19 ถึงคริสต์ศตวรรษที่ 20 จากเยอรมัน ฝรั่งเศสสหรัฐฯ และญี่ปุ่นจัดแสดงอยู่เป็นจำนวนมากชนิดที่เรียกได้ว่าดูกันเพลินเลยทีเดียว
ใน Doll Museum นั้นไม่เพียงมีตุ๊กตา บ้านตุ๊กตา ยังมีม้าหมุนอีกเป็นจำนวนมาก ม้าหมุนตัวแรกที่ถูกออกแบบโดย Frans Smulders ที่มิวเซียมมีย้อนกลับไปราวปี 1900 นับจากนั้นมามิวเซียมก็ได้รับการบริจาค รวมทั้งซื้อเพิ่มเองเพื่อนำมาจัดแสดงอีกเป็นจำนวนมากโดยม้าหมุนที่จัดแสดงทั้งหมดยังสามารถทำงานได้เป็นอย่างดีด้วย นักท่องเที่ยวที่มีโอกาสมาเยือนมิวเซียมที่มีพื้นที่มากถึง 1,000 ตารางเมตร บนพื้นที่ตึก4 ชั้นนี้ จึงไม่เพียงจะได้เรียนรู้เกี่ยวกับประวัติ ของของเล่น ตุ๊กตา บ้านตุ๊กตาม้าหมุนหลายชนิด ที่ถูกนำมาเรียงร้อยด้วยความรักอย่างพิถีพิถันโดยยังคงเสน่ห์ของต้นกำเนิด และเรื่องราวที่สนุกสนานน่าค้นหา อีกทั้งยังจะทำให้ผู้ชมได้หวนรำลึกถึงวันคืนเก่าๆ ได้อย่างเพลิดเพลินนานหลายชั่วโมงจนไม่อยากจะกลับบ้านเลยทีเดียว
โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น
1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์
2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี
3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี