การประกอบพิธีฮัจญ์ประจำปีอันศักดิ์สิทธิ์ ซึ่งเริ่มมาตั้งแต่วันที่ 14 มิถุนายน เสร็จสิ้นลงไปแล้วเมื่อช่วงไม่กี่วันที่ผ่านมา ท่ามกลางผู้แสวงบุญชาวมุสลิมจากทั่วโลกเข้าร่วมพิธีในปีนี้กว่า 1.8 ล้านคน ตามข้อมูลของรัฐบาลซาอุดีอาระเบีย
พิธีฮัจญ์ เป็น 1 ใน 5 เสาหลัก หรือพิธีศักดิ์สิทธิ์ของศาสนาอิสลาม ที่ชาวมุสลิมจะต้องไปร่วมให้ได้อย่างน้อยครั้งหนึ่งในชีวิต และเป็นพิธีทางศาสนาที่มีการรวมตัวกันมากที่สุดครั้งหนึ่งของโลก พิธีฮัจญ์ ไม่ได้จัดตรงกันทุกปีแต่จะเป็นไปตามปฏิทินจันทรคติของชาวมุสลิม ซึ่งปีนี้ ตรงกับช่วงฤดูร้อนที่ว่ากันว่า ร้อนที่สุดในช่วงหลายปีของซาอุดีอาระเบีย ที่อุณหภูมิอยู่ที่ 51.8องศาเซลเซียส ที่มหามัสยิดในนครเมกกะส่วนอุณหภูมิเฉลี่ยตั้งแต่เริ่มทำพิธีอยู่ที่ 46 องศาเซลเซียส นั่นส่งผลให้ในปีนี้ มีผู้ล้มป่วยจากอากาศร้อนจำนวนมาก แม้ว่าทางการซาอุดีอาระเบีย จะอำนวยความสะดวกหลายอย่างแก่ผู้แสวงบุญที่เข้าร่วมพิธี มีการจัดตั้งพื้นที่ควบคุมอุณหภูมิ แจกจ่ายน้ำดื่มและตั้งศูนย์พยาบาลเพิ่มขึ้นแล้วก็ตาม
จนเมื่อหลังจากพิธีฮัจญ์เสร็จสิ้นลง มีรายงานที่น่าตกใจจากสื่อหลายสำนัก อ้างอิงข้อมูลจากเจ้าหน้าที่การทูตหลายชาติ ที่มีพลเมืองของตนเดินทางไปร่วมประกอบพิธี ที่เปิดเผยว่า มีผู้เสียชีวิตจากการประกอบพิธีฮัจญ์ในปีนี้ มากเกินกว่า 1,000 ศพ เกือบทั้งหมดมีสาเหตุมาจากสภาพอากาศร้อนจัดจนสุดจะทนทาน โดยผู้เสียชีวิตอย่างเป็นทางการล่าสุด อยู่ที่ 1,081 ศพจาก 10 ประเทศ ในจำนวนนี้ เชื่อว่าเป็นผู้แสวงบุญชาวอียิปต์อย่างน้อย600-700 คน ถือเป็นประเทศที่เสียชีวิตมากที่สุดในระหว่างพิธีฮัจญ์ปีนี้ รองลงมาเป็นผู้แสวงบุญจากจอร์แดน อิหร่าน ปากีสถาน อินโดนีเซีย มาเลเซีย เซเนกัลตูนิเซีย และซูดาน เป็นต้น ซึ่งร่างผู้เสียชีวิตทั้งหมด ล้วนถูกฝังในซาอุดีอาระเบีย ทั้งที่นครเมกกะ และเมืองมีนา
อย่างไรก็ดี สิ่งที่หลายฝ่ายตั้งข้อสังเกตก็คือ จำนวนผู้เสียชีวิตที่แท้จริงอาจสูงกว่านั้นมาก เนื่องจากตัวเลขผู้เสียชีวิตในปีนี้ ส่วนใหญ่เป็นผู้แสวงบุญที่ผ่านการลงทะเบียนเพื่อเข้าร่วมพิธีอย่างถูกต้อง มีเอกสารยืนยันชัดเจน ซึ่งผู้แสวงบุญกลุ่มนี้ สามารถเข้าถึงสิ่งอำนวยความสะดวกต่างๆ ที่รัฐบาลซาอุดีอาระเบียจัดเตรียมไว้เพื่อรับมือสภาพอากาศร้อนจัด ไม่ว่าจะเป็นเต็นท์ที่ติดตั้งเครื่องปรับอากาศ จุดบริการเครื่องดื่มและสถานที่พักระหว่างทางรถบัสรับ-ส่ง และการให้บริการทางการแพทย์กรณีเจ็บป่วย
สื่อท้องถิ่นในอียิปต์รายงานว่า ชาวมุสลิมจากหลายชุมชนในอียิปต์อยู่ในกลุ่มผู้เสียชีวิตเพราะล้มป่วยจากสภาพอากาศร้อนจัดระหว่างประกอบพิธีฮัจญ์ปีนี้ คนเหล่านี้ ส่วนใหญ่เดินทางไปประกอบพิธีฮัจญ์ที่ซาอุดีอาระเบียด้วยวีซ่านักท่องเที่ยว ไม่ใช่วีซ่าอย่างเป็นทางการสำหรับผู้เข้าร่วมพิธี เนื่องจากการขอวีซ่าอย่างหลังต้องผ่านกระบวนการและการดำเนินการที่ซับซ้อนหลายอย่าง ที่สำคัญคือมีค่าใช้จ่ายที่แพงมาก แต่หากใช้วีซ่านักท่องเที่ยวเข้าซาอุดีอาระเบีย แล้วลักลอบไปประกอบพิธี ค่าใช้จ่ายจะถูกลงครึ่งหนึ่งเป็นอย่างน้อย
ผู้แสวงบุญหลายแสนคนจากทั้งอียิปต์และอีกหลายประเทศ จึงเลือกที่จะไม่ได้ลงทะเบียนเข้าร่วมพิธีอย่างถูกต้อง ทำให้ขาดโอกาสในการเข้าถึงสิ่งอำนวยความสะดวกต่างๆ ที่จัดไว้ให้สำหรับคนกว่า 1.8 ล้านคนที่ลงทะเบียนอย่างเป็นระบบได้ ท่ามกลางสภาพอากาศร้อนจัด
ญาติของผู้แสวงบุญชาวอียิปต์คนหนึ่งที่เสียชีวิตระหว่างประกอบพิธีฮัจญ์ บอกว่า ญาติของเขาได้นั่งรถบัสไปยังเทือกเขาอาราฟัต เพื่อประกอบพิธีหนึ่งของบรรดาพิธีอันศักดิ์สิทธิ์ทั้งหลาย แต่กลับต้องลงจากรถก่อนถึงที่หมายถึง 12 กิโลเมตร เพื่อหลีกเลี่ยงไม่ให้ถูกเจ้าหน้าที่ทางการซาอุดีอาระเบียตรวจตราและจับกุม ทำให้ผู้แสวงบุญกลุ่มนี้ต้องเดินไปยังสถานที่ประกอบพิธี ท่ามกลางสภาพอากาศร้อนจัด หลายคนทนไม่ไหวเสียชีวิตอยู่กลางทาง ขณะที่นักการทูตจากชาติอาหรับประเทศหนึ่งบอกว่า เจ้าหน้าที่ซาอุดีอาระเบีย พยายามที่จะจัดการกับกลุ่มคนที่ไม่ได้ลงทะเบียนไม่ให้เข้ามาที่นครเมกกะในเดือนนี้ แต่ก็พบว่ายังมีอีกจำนวนมากที่หลุดรอดมาได้ และมาร่วมที่สถานประกอบพิธีที่เริ่มต้นตั้งแต่ศุกร์ที่แล้ว ทำให้คนกลุ่มนี้มีความเสี่ยงมาก ลำพังแค่เอาตัวรอดไม่ให้ถูกเจ้าหน้าที่ซาอุดีอาระเบียตามจับก็เหนื่อยแล้ว การประกอบพิธีภายนอกท่ามกลางแดดจัด ในนครเมกกะ ก็ยิ่งทำให้ผู้แสวงบุญกลุ่มนี้ประสบความยากลำบากมากขึ้นไปอีก
ด้านกระทรวงสาธารณสุขซาอุดีอาระเบียเผยว่า จำนวนผู้เสียชีวิตระหว่างการเข้าร่วมพิธีฮัจญ์นับพันคนปีนี้ อาจดูเหมือนเยอะ แต่จริงๆ แล้วไม่ถือว่ามากขึ้นหรือผิดปกติ ผู้แสวงบุญหลายคนเป็นผู้สูงอายุ หรือมีภาวะโรคร่วม มีความเจ็บป่วยและภาวะแทรกซ้อนมาตั้งแต่แรก ทางการได้เตรียมพร้อมบุคลากรทางการแพทย์ที่ผ่านการอบรมมาอย่างดีคอยดูแล ขณะเดียวกัน ทางการซาอุดีอาระเบียประเมินแล้วว่า การประกอบพิธีฮัจญ์ในปีนี้อากาศจะร้อนมาก โดยอาจจะร้อนตั้งแต่ผู้แสวงบุญยังเดินทางมาไม่ถึง
จึงได้เริ่มการรณรงค์ประชาสัมพันธ์ให้ทุกคนทราบเรื่องวิธีการปกป้องตนเองจากความร้อน การใช้ร่ม การดื่มน้ำเพื่อไม่ให้เกิดภาวะขาดน้ำ การหลีกเลี่ยงจุดที่แออัด และการขอความช่วยเหลือเมื่อเจ็บป่วย
อย่างไรก็ดี ต้องยอมรับว่า การประกอบพิธีฮัญจ์ในช่วงหลายปีที่ผ่านมา ได้รับผลกระทบมากขึ้นจากปัญหาภาวะโลกร้อน รัฐบาลซาอุดีอาระเบียเผยผลการศึกษาที่พบว่า อุณหภูมิในพื้นที่ที่ประกอบพิธีฮัจญ์เพิ่มสูงขึ้นปีละ 0.4 องศาเซลเซียส ในทุกๆ 10 ปี ขณะที่นักวิทยาศาสตร์ภูมิอากาศเตือนว่า ยอดผู้เสียชีวิตในปีนี้ ทำให้พอจะมองเห็นภาพว่า สถานการณ์ที่จะเกิดกับผู้แสวงบุญชาวมุสลิมนับล้านๆ คน ที่จะมาร่วมพิธีฮัจญ์ในปีต่อๆ ไปจะเป็นอย่างไร โดยปัญหาโลกร้อนจะซ้ำเติมสถานการณ์ให้ยิ่งแย่ลงอีกในอนาคต พร้อมเตือนว่า ภายในทศวรรษที่ 2040 พิธีฮัจญ์จะจัดขึ้นในช่วงที่อากาศร้อนจัดที่สุดในฤดูร้อนของซาอุดีอาระเบีย ซึ่งเป็นประเทศเจ้าของสถานที่ประกอบพิธีฮัจญ์
รัฐบาลซาอุดีอาระเบียย้ำว่า มีผู้เสียชีวิตระหว่างพิธีฮัจญ์เนื่องจากอากาศร้อนจัดเมื่อปีที่แล้วมากกว่า 2,000 คน การเสียชีวิตของผู้แสวงบุญมุสลิมระหว่างพิธีฮัจญ์ ไม่ใช่เรื่องใหม่ และเกิดขึ้นมานานมากเป็นพันๆ ปีมาแล้ว มีสถิติบันทึกย้อนหลังไปได้ถึงทศวรรษที่ 1400 ขณะที่ชาวมุสลิมจำนวนมาก มีความเชื่อว่า การได้เสียชีวิตและถูกฝังร่างที่นครเมกกะ ถือเป็นการได้เข้าถึงพระผู้เป็นเจ้า และเป็นการตายที่พวกเขาใฝ่ฝัน
เหตุการณ์ที่เกิดขึ้นในปีนี้ จึงอาจเป็นเพียงส่วนประกอบเล็กๆ ส่วนหนึ่ง ของการแสวงบุญและประกอบพิธีที่สำคัญที่สุดทางศาสนาตามความเชื่อของชาวมุสลิมนับล้านๆ ซึ่งเมื่อได้ทำภารกิจเสร็จสิ้นแล้ว หากจะต้องสิ้นลมหายใจ ก็ถือว่าคุ้มค่า
โดย ดาโน โทนาลี
โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น
1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์
2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี
3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี