คุณผู้หญิงส่วนใหญ่ไม่ว่าจะอยู่วัยไหน เชื่อว่าต่างก็อยากมีรูปร่างกระชับ หุ่นฟิตและเฟิร์ม ร่างกายแข็งแรงกันทั้งสิ้น แต่สำหรับหญิงวัยทำงานที่มีภาระหน้าที่หลากหลาย ตารางชีวิตไม่แน่นอน การจะต้องแบ่งเวลาทั้งเรื่องของการทำงานและการใช้ชีวิตอาจจะเป็นเรื่องที่ลำบาก จัดการได้ยาก รวมถึงไม่มีเวลาในการดูแลตัวเองโดยเฉพาะการบริโภคอาหาร เช่น ไม่รับประทานอาหารเช้าที่เป็นมื้อที่สำคัญที่สุดของวันทำงาน รับประทานแค่พออิ่ม ตามใจปาก รับประทานอาหารตามสั่ง หรือฟาสต์ฟู้ดเป็นประจำ รวมทั้งรับประทานอาหารมื้อเย็นมากเกินความจำเป็นของร่างกาย ฯลฯ จนกระทั่งเกิดความไม่สมดุลกันระหว่างพลังงานที่ใช้ไปกับพลังงานที่ได้รับจากการรับประทานอาหาร ประกอบกับวิถีชีวิตที่เปลี่ยนแปลงไป ลักษณะการทำงานที่นั่งโต๊ะทำงานนาน ไม่ค่อยได้เคลื่อนไหวร่างกายและออกกำลังกายน้อยลงทำให้ไขมันเกิดการสะสมเพิ่มมากขึ้นเรื่อยๆ จนส่งผลเสียต่อสุขภาพและเกิดโรคเรื้อรังต่างๆ เพิ่มขึ้น เช่น โรคอ้วนลงพุง โรคเบาหวานชนิดที่ 2 โรคความดันโลหิตสูง โรคหลอดเลือดสมองและหัวใจ รวมทั้งโรคมะเร็งบางชนิด
ข้อมูลจาก ผู้ช่วยศาสตราจารย์พันธ์ศักดิ์ ศุกระฤกษ์ กรรมการมูลนิธิคุณแม่คุณภาพเปิดเผยว่า เมื่อความอ้วนส่งผลทั้งต่อสุขภาพและรูปร่างที่ดี หลายคนมักหาทางลัดด้วยการอดอาหารเพราะเชื่อว่าจะช่วยลดน้ำหนักได้เร็วที่สุด แต่ความจริงแล้วผลเสียของการอดอาหารมีมากมาย เช่น ทำให้ร่างกายเผาผลาญได้น้อยลงและสะสมเป็นไขมันเพิ่มมากขึ้น อีกทั้งยังทำให้กล้ามเนื้ออ่อนแรงเพราะร่างกายต้องดึงโปรตีนในกล้ามเนื้อมาใช้เป็นพลังงานแทน และในหลายๆ ครั้ง ก็มักจะเกิดอาการโยโย่เอฟเฟกท์ทำให้เราหิวมากขึ้นรู้สึกหิวตลอดเวลา พอทนไม่ได้ก็จะรับประทานเพิ่มมากขึ้น ส่งผลให้น้ำหนักตัวเพิ่มขึ้น
อันที่จริงวิธีการลดน้ำหนักที่ปลอดภัยและมีประสิทธิภาพ ควรเริ่มต้นด้วยการวางแผนควบคุมน้ำหนัก ซึ่งรวมถึงการกำหนดเป้าหมายและเลือกวิธีการลดน้ำหนักที่เหมาะสม หลักที่ดีในการเริ่มลดน้ำหนักก็คือ การสร้างสมดุลพลังงาน โดยการรับพลังงานจากอาหารให้น้อยกว่าที่ร่างกายใช้ไปในกิจกรรมประจำวัน เพื่อให้ร่างกายดึงเอาพลังงานสำรองที่สะสมไว้ในรูปของไขมันสะสมมาใช้ ผลลัพธ์ที่ได้คือ น้ำหนักตัวลดลงอย่างไรก็ตาม การปรับเปลี่ยนพฤติกรรมการรับประทาน การคำนวณปริมาณแคลอรีเป็นเรื่องที่ยากและอาจเกิดความผิดพลาดได้เพราะนอกจากร่างกายของแต่ละคนจะเผาผลาญแคลอรีแตกต่างกันแล้ว การปรับเปลี่ยนพฤติกรรมเป็นเรื่องที่ยาก อีกทั้งยังต้องมีวินัยและความตั้งใจ
ดังนั้นหนึ่งในทางเลือกของผู้คนในยุคนี้ก็คือ ผลิตภัณฑ์ทดแทนมื้ออาหาร (Meal Replacement) ซึ่งถูกออกแบบมาให้สามารถบริโภคแทนมื้ออาหารหลักแต่มีแคลอรีต่ำกว่าอาหารปกติ โดยมีสารอาหารที่จำเป็นต่อร่างกายและให้คุณค่าทางโภชนาการอย่างครบถ้วน ประกอบด้วย โปรตีน คาร์โบไฮเดรต ไขมัน วิตามิน แร่ธาตุ และใยอาหารในปริมาณที่เหมาะสม การบริโภคผลิตภัณฑ์ทดแทนมื้ออาหารจึงช่วยในการควบคุมพลังงานอาหารที่บริโภคในแต่ละวันได้เป็นอย่างดี
ปัจจุบันผลิตภัณฑ์ทดแทนมื้ออาหารมีให้เลือกหลากหลายยี่ห้อ อีกทั้งยังมีส่วนผสมและองค์ประกอบของสารอาหารที่แตกต่างกัน ดังนั้น ก่อนจะซื้อควรศึกษาข้อมูลให้ถี่ถ้วนและอ่านฉลากให้ดีก่อนซื้อมาบริโภค ที่สำคัญผลิตภัณฑ์ทดแทนมื้ออาหารต้องผ่านการขึ้นทะเบียนกับสำนักงานคณะกรรมการอาหารและยา (อย.) อย่างถูกต้อง เพื่อความมั่นใจในคุณภาพและมาตรฐานที่เหมาะสม
เมื่อเร็วๆ นี้ มีผลิตภัณฑ์ทดแทนมื้ออาหารจากประเทศญี่ปุ่นที่มาพร้อมกับความสะดวกสบายและมีจุดเด่นต่างๆ ที่น่าสนใจ เหมาะสำหรับผู้ที่ต้องการลดหรือควบคุมน้ำหนัก เพราะให้พลังงานเพียง 200 กิโลแคลอรี/มื้อ ประกอบไปด้วยสารอาหารที่ครบถ้วนตามหลักโภชนาการในปริมาณเหมาะสมกับการรับประทาน 1 มื้อ เช่น มีปริมาณ โปรตีนสูงถึง 22 กรัม/มื้อ ที่ช่วยกระตุ้นการเผาผลาญพลังงานและช่วยสร้างกล้ามเนื้อในร่างกาย ทำให้ร่างกายเผาผลาญพลังงานได้มากขึ้น มีวิตามินและแร่ธาตุ ที่จำเป็น 21 ชนิด อาทิ วิตามินเอ บี ซี อี กรดโฟลิคไบโอติน เหล็ก แคลเซียม แมกนีเซียม สังกะสี ฯลฯ ซึ่งเป็นสารอาหารที่มีบทบาทสำคัญในกระบวนการเผาผลาญพลังงาน การปรับความสมดุลของระบบต่างๆ ในร่างกาย รวมถึงมีใยอาหารสูง 10 กรัม จึงช่วยให้อิ่มท้องนาน และเป็นอาหารของแบคทีเรียที่ดีในลำไส้ใหญ่ ทำให้ระบบขับถ่ายทำงานดีขึ้น นอกจากนี้ ยังมีการเสริมแอลคาร์นิทีนในปริมาณถึง 250 มิลลิกรัม ซึ่งจะช่วยเพิ่มกระบวนการดึงไขมันมาเผาผลาญเป็นพลังงาน และเพิ่มมวลกล้ามเนื้อทำให้ระบบเผาผลาญดีขึ้น และมีให้เลือกอิ่มอร่อยทั้งรสชาติกาแฟลาเต้และรสโกโก้ จึงช่วยให้ผู้บริโภคที่ต้องการดูแลสุขภาพสามารถบริหารจัดการอาหารประจำวันได้ง่ายและสะดวกยิ่งขึ้น
อย่างไรก็ตาม การลดน้ำหนักที่ได้ผลดีและคงสภาพอยู่ได้นานไม่กลับมาอ้วนใหม่อีกนั้น สิ่งสำคัญที่ต้องโฟกัสก็คือ “โภชนาการและการออกกำลังกายที่ดี” โดยจะต้องรับประทานอาหารให้ครบ 5 หมู่ เพื่อให้ร่างกายของเราทำงานอย่างมีประสิทธิภาพ เน้นโปรตีนเป็นหลักเพื่อเสริมสร้างกล้ามเนื้อและเร่งอัตราการเผาผลาญพลังงาน
เพิ่มขึ้น พร้อมทั้งมีผักและผลไม้ เพื่อให้ได้รับสารอาหารที่จำเป็นและมีกากใยสูงจึงช่วยให้อิ่มท้องนาน นอกจากนี้ ควรควบคุมปริมาณอาหารที่ได้รับในแต่ละวันให้เหมาะกับความต้องการของร่างกาย โดยอาจเลือกบริโภคผลิตภัณฑ์ทดแทนมื้ออาหารในบางมื้อเพื่อจำกัดปริมาณแคลอรี หลีกเลี่ยงอาหารที่ให้พลังงานและไขมันสูง พร้อมทั้งลดระดับน้ำตาลในเลือด และลดการสะสมไขมันตามร่างกายได้มากขึ้น ร่วมกับการออกกำลังกายประเภทเวทเทรนนิ่ง ได้แก่ การวิ่งปั่นจักรยาน เต้นแอโรบิก ควบคู่กับประเภทคาร์ดิโอ เช่น ยกเวท โยคะ วิดพื้น ซิทอัพ อย่างน้อย 2-4 วันต่อสัปดาห์ เพื่อสร้างมวลกล้ามเนื้อให้แข็งแรง ช่วยเร่งอัตราการเผาผลาญพลังงานรวมถึงการพักผ่อนให้เพียงพอหลีกเลี่ยงหรือปล่อยวางจากความเครียดทำจิตใจให้เบิกบานแจ่มใส
เพียงเท่านี้ก็จะช่วยให้คุณมีสุขภาพแข็งแรง มีรูปร่างสมส่วน ปราศจากส่วนเกินได้อย่างยั่งยืน ขอเชิญชวนสาวๆ ทั้งวัยรุ่นหรือวัยทำงาน อายุระหว่าง 25-40 ปี มาสมัครเข้าร่วมกิจกรรมในโครงการ “SUNTORY ชวนฟิต พิชิตหุ่น” เพื่อช่วยควบคุมหรือลดน้ำหนักได้ง่ายๆ โดยไม่ต้องอดอาหาร แถมยังได้รับสารอาหารครบถ้วน สนใจสมัครเข้าร่วมโครงการฯ LINE ID : @mrp2024 เปิดรับสมัครฟรีไม่มีค่าใช้จ่าย ตั้งแต่วันนี้-15 ก.ค. 2567 นี้เท่านั้น รับจำนวนจำกัด
ศูนย์บริการโลหิตแห่งชาติ สภากาชาดไทย ชวนบริจาคโลหิตอย่างสม่ำเสมอทุก 3 เดือน หรือปีละ 4 ครั้ง การบริจาคโลหิต เป็นการสละโลหิตส่วนที่ร่างกายยังไม่จำเป็นต้องใช้มาให้กับผู้ป่วย โดยไม่ก่อให้เกิดอันตรายใดๆ แก่ร่างกาย ทั้งนี้ ขอเชิญร่วมบริจาคโลหิตทั่วประเทศ สอบถามรายละเอียดได้ที่ฝ่ายจัดหาผู้บริจาคโลหิตและสื่อสารองค์กร ศูนย์บริการโลหิตแห่งชาติสภากาชาดไทย โทร.02-2564300,02-2639600-99 ต่อ 1101, 1760, 1761
ผศ.(พิเศษ)ดร.อภิสิทธิ์ ฉัตรทนานนท์
ประธานกรรมการ มูลนิธิคุณแม่คุณภาพ
โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น
1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์
2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี
3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี