นายแพทย์ธงชัย กีรติหัตถยากร
กรมควบคุมโรค กระทรวงสาธารณสุข เตือนผู้ปกครองที่มีบุตรหลานเด็กเล็กให้เฝ้าระวังสังเกตอาการป่วยระบบทางเดินหายใจจากโรคติดเชื้อไวรัสอาร์เอสวี (RSV) โดยเฉพาะเด็กเล็กอายุ 0-2 ขวบ เสี่ยงป่วยง่าย และพบการระบาดสูงในช่วงฤดูฝน
นายแพทย์ธงชัย กีรติหัตถยากร อธิบดีกรมควบคุมโรค กล่าวว่า ในช่วงฤดูฝนมักพบการระบาดของกลุ่มโรคติดต่อระบบทางเดินหายใจเป็นส่วนใหญ่ เช่น โรคโควิด-19 ไข้หวัดใหญ่ ปอดอักเสบ และโรคติดเชื้อไวรัส RSV ซึ่งไวรัส RSV มักพบการแพร่ระบาดในกลุ่มเด็กเล็กเป็นหลัก จากข้อมูลการเฝ้าระวังสายพันธุ์เชื้อก่อโรคไข้หวัดใหญ่และโรคติดเชื้อระบบทางเดินหายใจในประเทศไทยเฉพาะพื้นที่ (Sentinel Surveillance) ตั้งแต่วันที่ 1 กันยายน 2564 - 8 มิถุนายน 2567 โดยกองระบาดวิทยา กรมควบคุมโรค ร่วมกับกรมวิทยาศาสตร์การแพทย์ สถาบันสุขภาพเด็กแห่งชาติมหาราชินี และศูนย์ความร่วมมือไทย - สหรัฐ ด้านสาธารณสุข พบผู้ป่วยติดเชื้อไวรัส RSV 1,226 ราย จากผู้ป่วยทางเดินหายใจ 19,179 ราย (ร้อยละ 6.39) อายุระหว่าง 9 วัน - 87 ปี (อายุเฉลี่ย 2 ขวบ)โดยตรวจพบมากที่สุดในกลุ่มเด็กอายุต่ำกว่า 2 ขวบ 573 ราย (ร้อยละ 46.74) รองลงมา คือ อายุ 2-5 ขวบ 472 ราย (ร้อยละ38.50) และอายุมากกว่า 5 ขวบขึ้นไป181 ราย (ร้อยละ 14.76) มีผู้เสียชีวิต 3 รายคิดเป็นอัตราป่วยตาย ร้อยละ 0.24 อายุต่ำสุด1 ขวบ 8 เดือน และสูงสุด 86 ปี ส่วนผู้สูงอายุ 60 ปีขึ้นไป พบติดเชื้อ RSV 28 ราย (ร้อยละ 2.28) ทั้งนี้จำแนกเป็นผู้ป่วยสูงอายุที่มีโรคเรื้อรัง 20 ราย (ร้อยละ 71.4)
“ข้อมูลจากการเฝ้าระวังโรคฯ ของกองระบาดวิทยา พบว่า เชื้อ RSV มักจะเป็นสาเหตุของการเกิดปอดอักเสบรุนแรงในเด็กและผู้สูงอายุ หากดูลักษณะทางระบาดวิทยาในช่วงปีที่ผ่าน ๆ มา จะพบโรคติดเชื้อไวรัส RSV ได้บ่อยในช่วงฤดูฝนและฤดูหนาวซึ่งเป็นช่วงเดียวกับฤดูกาลระบาดของโรคไข้หวัดใหญ่ นอกจากนี้อาการและการติดต่อมีความคล้ายกัน จึงคาดว่าจะเริ่มมีรายงานผู้ป่วยเพิ่มสูงมากขึ้นในช่วงระยะนี้เป็นต้นไป ซึ่งปัจจัยที่ทำให้เกิดการแพร่ระบาดได้อย่างรวดเร็วนั้น เนื่องจากไวรัสจะมีชีวิตอยู่ภายนอกร่างกายได้เป็นเวลาหลายชั่วโมงโดยอาศัยอยู่ตามวัตถุต่าง ๆ และเชื้อยังแพร่กระจายได้ง่ายผ่านการไอ หรือการจาม เช่นเดียวกับโรคติดต่อระบบทางเดินหายใจอื่นๆ” อธิบดีกรมควบคุมโรค กล่าว
ทั้งนี้ กรมควบคุมโรค เน้นย้ำให้ประชาชนหรือผู้ปกครองเตรียมพร้อมเฝ้าระวังและใช้มาตรการป้องกันการแพร่ระบาดของโรคเช่นเดียวกับไข้หวัดใหญ่และโควิด-19 โดยการสร้างความตระหนัก แนวทางการป้องกันสำหรับประชาชนทั่วไป ดังนี้ 1.ล้างมือบ่อยๆด้วยน้ำและสบู่ หรือใช้เจลแอลกอฮอล์ทำความสะอาดมือ 2.เลี่ยงการนำมือที่ไม่สะอาดมาสัมผัสจมูก ปาก หรือตา 3.ไม่ใช้ของใช้ส่วนตัวร่วมกับผู้อื่น เช่น แก้วน้ำ ช้อน ส้อม 4.หมั่นเช็ดถูทำความสะอาดของเล่นเด็กเป็นประจำ โดยเฉพาะหลังพบเด็กป่วย 5.เลี่ยงการสัมผัสใกล้ชิดผู้ป่วยโรคระบบทางเดินหายใจ
ส่วนคำแนะนำสำหรับผู้ป่วย คือ 1.หยุดพักรักษาที่บ้าน และสวมหน้ากากอนามัย หมั่นทำความสะอาดบ้านเพื่อลดเชื้อ 2.ดื่มน้ำมากๆ เนื่องจากน้ำจะช่วยทำให้สารคัดหลั่งไม่เหนียวจนเกินไป 3.หากผู้ป่วยอาการไม่ดีขึ้น เช่น หอบเหนื่อย ซึมลง รับประทานอาหารได้น้อย ควรรีบพาไปพบแพทย์โดยเร็ว หากต้องการข้อมูลเพิ่มเติมสามารถสอบถามได้ที่ สายด่วนกรมควบคุมโรค โทร. 1422
โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น
1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์
2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี
3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี