หลายคนคงเคยมีอาการ นอนไม่หลับ กว่าจะหลับก็เกือบเช้า ทำให้ตื่นเช้ามารู้สึกอ่อนเพลีย เหนื่อยง่าย ไม่มีเรี่ยวแรงและรู้สึกหงุดหงิดง่าย อาการเหล่านี้คือสัญญาณเตือนของโรคนอนไม่หลับ หากไม่รีบรักษาปล่อยไว้จนกลายเป็นโรคนอนไม่หลับเรื้อรัง อาจส่งผลกระทบต่อสุขภาพกายและสุขภาพจิตได้ในอนาคต
นายแพทย์ณชารินทร์ พิภพทรรศนีย์จิตแพทย์ โรงพยาบาล BMHH - Bangkok Mental Health Hospital กล่าวว่า ภาวะนอนไม่หลับ (Insomnia) เป็นภาวะที่ผู้ป่วยมีอาการนอนไม่หลับ หลับไม่สนิท รวมไปถึงใช้เวลานานกว่าจะนอนหลับ โดยโรคนี้สามารถเกิดขึ้นได้กับทุกคน แต่จะพบได้บ่อยในวัยทำงาน, ผู้สูงอายุ และผู้ป่วยที่มีปัญหาเจ็บป่วยทางร่างกายหรือจิตใจ ซึ่งถ้าหากปล่อยไว้นานๆ จนมีอาการนอนไม่หลับเรื้อรังจะส่งผลกระทบต่อสุขภาพร่างกาย และสุขภาพจิตที่อาจเพิ่มโอกาสการเป็นโรคซึมเศร้าได้มากกว่าคนปกติถึง 2 เท่า
อาการนอนไม่หลับสามารถพบได้หลายรูปแบบ เช่น ต้องใช้เวลานานกว่าจะนอนหลับได้, หลับแล้วตื่นบ่อยๆ ตื่นแล้วไม่สามารถนอนหลับได้อีก ง่วงนอนในเวลากลางวัน แต่นอนไม่หลับในเวลากลางคืนและมีอาการดังกล่าวเป็นเวลานานกว่า 1 เดือนขึ้นไป
ภาวะนอนไม่หลับแบ่งออกเป็น3 ประเภท 1.หลับยาก (Initial insomnia) คือภาวะที่ผู้ป่วยมีปัญหานอนหลับยากใช้เวลานอนนานกว่าจะหลับ ภาวะดังกล่าวอาจสัมพันธ์กับภาวะวิตกกังวล 2.หลับแล้วตื่นและไม่สามารถหลับตามที่ร่างกายต้องการได้อีก (Maintenance insomnia) คือภาวะที่ผู้ป่วยไม่สามารถนอนหลับได้ยาวมีการตื่นกลางดึกบ่อย ภาวะดังกล่าวอาจเกี่ยวข้องกับปัญหาทางกาย เช่นภาวะหยุดหายใจขณะหลับจากการอุดกั้น
3.ตื่นเร็วและหลับต่อไม่ได้ (Terminal insomnia) คือภาวะที่ผู้ป่วยตื่นเร็วกว่าเวลาที่ควรจะตื่น อาจพบได้ในผู้ป่วยที่มีภาวะซึมเศร้า
อาการนอนไม่หลับสามารถเกิดขึ้นได้หลายปัจจัย ได้แก่ ปัจจัยด้านจิตใจ : สภาวะความเครียดทำให้เกิดความกังวล หมดกำลังใจ อาการเหล่านี้มีผลทำให้เกิดอาการนอนไม่หลับ หรืออาจเกิดจากโรคที่มีผลโดยตรงกับความรู้สึก เช่น โรคไบโพลาร์โรคซึมเศร้า โรควิตกกังวล เป็นต้น
ปัจจัยด้านร่างกาย : มีอาการป่วยที่มีส่วนทำให้เกิดโรค เช่น โรคกรดไหลย้อนภาวะหยุดหายใจขณะหลับ การหมดประจำเดือนรวมไปถึงอาการเหนื่อยล้าจากการทำงาน
ปัจจัยด้านสิ่งแวดล้อม : อุณหภูมิภายในห้องนอนสูงเกินไปหรือต่ำเกินไป แสงสว่างมากเกินไป มีเสียงรบกวนจากภายนอก และการนอนต่างที่ ส่งผลทำให้นอนหลับยาก
ปัจจัยที่เกิดจากพฤติกรรม : การดื่มแอลกอฮอล์ เครื่องดื่มที่มีกาเฟอีน การใช้ยาบางชนิดที่ทำให้นอนหลับยาก และอุปนิสัยการนอนที่ไม่ถูกสุขลักษณะ เช่น การเล่นเกมหรือโทรศัพท์มือถือก่อนนอน รวมถึงการทำงานที่ต้องมีการเข้าเวร ทำให้ต้องเปลี่ยนเวลาการนอนบ่อยๆ
การนอนไม่หลับเรื้อรังยังส่งผลด้านลบต่อสุขภาพกายและปัญหาสุขภาพจิตเช่น เพิ่มโอกาสการเป็นโรคซึมเศร้าได้มากกว่าคนปกติถึง 2 เท่า, เพิ่มโอกาสการเกิดโรคหัวใจขาดเลือด ภาวะหัวใจวายความดันโลหิตสูง โรคไขมันสูง โรคเบาหวานโรคอ้วน, เสี่ยงต่อการเกิดอุบัติเหตุจากการทำงาน และการขับรถ
การรักษาภาวะนอนไม่หลับขึ้นอยู่กับสาเหตุของอาการนอนไม่หลับในผู้ป่วยแต่ละบุคคล เช่น หากเกิดจากอุปนิสัยการนอน แพทย์จะให้คำแนะนำในการปรับอุปนิสัยการนอนที่ถูกต้อง หรือหากเกิดจากโรคทางจิตใจ เช่น โรคซึมเศร้า โรคประสาทตื่นตัวผิดปกติ แพทย์อาจแนะนำให้ใช้ยาร่วมในการรักษา
สำหรับการป้องกันและแก้ปัญหาการนอนไม่หลับเบื้องต้น สามารถทำได้ โดยการจัดห้องให้มีบรรยากาศเอื้อต่อการนอน,หลีกเลี่ยงการงีบในช่วงกลางวัน, เข้านอนและตื่นนอนให้เป็นเวลาเดียวกัน, นอนหลับเมื่อรู้สึกง่วง, หลีกเลี่ยงการดื่มกาแฟ หรือชาหลังอาหารเที่ยง, หลีกเลี่ยงอาหารมื้อหนักหรืออาหารที่ย่อยยากก่อนนอน เพราะอาจทำให้เกิดอาการปวดท้อง หรือโรคกรดไหลย้อนได้,ออกกำลังกายสม่ำเสมอ และไม่ควรใช้ยานอนหลับหากไม่จำเป็น แต่ถ้าทำทุกอย่างแล้วยังปรับการนอนไม่ได้ ควรมาพบแพทย์หรือจิตแพทย์เพื่อประเมินปัญหาการนอนไม่หลับ และเข้ารับการรักษาอย่างเหมาะสม
โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น
1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์
2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี
3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี