ตามประวัติศาสตร์ ผสมผสานกับเรื่องเล่าตามตำนาน ผนวกกับความเชื่อศรัทธาของชาวพุทธในศรีลังกา จึงมีคำบอกต่อๆ กันมาเป็นเวลาประมาณ 1,700 ปี ว่าสมเด็จพระสัมมาสัมพุทธเจ้าทรงเป็นพระบรมศาสดา ทรงสั่งสอนให้ผู้ปฏิบัติตามพระธรรมวินัยพ้นทุกข์ และหลุดพ้นจากสังสารวัฏได้ และยังมีอีกสิ่งที่ชาวศรีลังกาเชื่อมั่นสืบมาคือ ยังคงมีตัวแทนพระบรมศาสดาในศรีลังกา ซึ่งประดิษฐาน ณ เมืองแคนดีคือพระทันตธาตุ หรือพระเขี้ยวแก้วของพระพุทธองค์ โดยหนึ่งในสององค์ของพระเขี้ยวแก้วประดิษฐานอยู่ที่เมืองแคนดีส่วนอีกองค์เชื่อว่าเคยประดิษฐาน ณ เมืองโบราณ ที่ปัจจุบันอยู่ในเขตประเทศอัฟกานิสถาน แต่ทว่าล่าสุดได้ถูกอัญเชิญไปประดิษฐาน ณ กรุงปักกิ่ง ประเทศจีน ส่วนอีกสององค์เชื่อกันว่าอยู่ที่พระจุฬามณีเจดีย์ สวรรค์ชั้นดาวดึงส์ ส่วนอีกองค์ประดิษฐานอยู่ในเมืองบาดาล ภพของพญานาค
สำหรับพระเขี้ยวแก้วแห่งเมืองแคนดีหรือเมืองกัณฏิ ประดิษฐานอยู่ที่วัดศรีทัลฒามัลลิกาวะวิหาร ตั้งอยู่ริมทะเลสาบเมืองกัณฏิ โดยเล่าต่อกันว่าพระเขี้ยวแก้วองค์นี้คือพระทันตธาตุเขี้ยวเบื้องล่างด้านขวาของพระพุทธองค์
วัดศรีทัลฒามัลลิกาวะวิหาร หรือวัดพระเขี้ยวแก้ว ถูกระบุว่าสร้างโดยพระเจ้าวิมลธรรมสุริยะ ที่ 1 พระมหากษัตริย์แห่งราชวงศ์สุดท้ายของศรีลังกา เมื่อ พ.ศ. 2138โดยพระราชทานพื้นที่ของพระราชวังให้สร้างวัดขึ้นมา โดยทรงมีเหตุผลว่าผู้ใดที่สามารถรักษาพระเขี้ยวแก้วไว้ได้คือผู้มีสิทธิอันชอบธรรมในการปกครองอาณาจักรศรีลังกา
สำหรับวัดพระเขี้ยวแก้ว เมืองแคนดีนั้น เป็นสถานที่สำคัญ และเป็นศูนย์ยึดเหนี่ยวจิตใจของพุทธศาสนิกชนชาวศรีลังกา และยังเป็นสถานที่สำคัญที่พุทธศาสนิกชนทั่วโลกต่างหลั่งไหลไปกราบนมัสการองค์พระทันตธาตุอย่างเนืองแน่นเป็นประจำทุกวัน โดยเฉพาะหากเป็นช่วงวันสำคัญทางพุทธศาสนาด้วยแล้ว จะมีผู้คนมากมายทั่วทุกสารทิศเดินทางไปกราบนมัสการตั้งแต่เช้าตรู่จนถึงช่วงค่ำ (วัดพระเขี้ยวแก้วเปิดให้เข้านมัสการพระเขี้ยวแก้วตั้งแต่ 05.30 น. ถึง 20.00 น. ทุกวัน)
และที่สำคัญคือเมื่อไปถึงวิหารที่ประดิษฐานพระเขี้ยวแก้วแล้ว จะได้ยินและได้เห็นผู้ประโคมเพลงด้วยดนตรีพื้นเมืองเพื่อถวายองค์พระทันตธาตุเกือบตลอดเวลา
ชาวศรีลังกาบอกว่า ในงานประจำปีที่จัดถวายพระทันตธาตุ จะจัดขบวนแห่พระทันตธาตุ แล้วทุกครั้งเมื่อสิ่งศักดิ์สิทธิ์นี้ไปปรากฏ ณ ที่แห่งใดก็ตาม ที่แห่งนั้นจะมีฝนตกลงมาเสมอ และยังบอกด้วยว่าพระทันตธาตุองค์นี้จะต้องประดิษฐานอยู่ในเมืองแคนดีเท่านั้น ไม่อัญเชิญไปยังที่แห่งใด เพราะเป็นสิ่งศักดิ์สิทธิ์คู่บ้านคู่เมือง และประชาชนรวมถึงผู้ปกครองศรีลังกาต้องรักษาไว้เป็นอย่างดี
เมื่อช่วงประมาณกลางเดือนกรกฎาคมที่เพิ่งผ่านมานั้น Mr.Flower นำคณะผู้อ่านแนวหน้าและผู้ฟังรายการ Good Time (ทางสถานีวิทยุกรมประชาสัมพันธ์ คลื่น FM95.5 MHz.ประมาณ 20 คน ไปกราบนมัสการพระเขี้ยวแก้วเมืองแคนดี และพาไปท่องเที่ยวกรุงโคลอมโบ มาสมาชิกหลายคนบอกตรงกันว่า ไม่คิดว่าศรีลังกาจะน่าอยู่ และสะอาดสะอ้านมาก เพราะตอนแรกเข้าใจเอาเองว่าศรีลังกาคงไม่ต่างไปจากอินเดีย แต่เมื่อมาสัมผัสสถานที่จริงแล้ว บอกได้คำเดียวว่าประทับใจมาก และชอบความเป็นระเบียบของบ้านเมืองชอบอัธยาศัยไมตรีของผู้คนชาวศรีลังกา แต่ที่สำคัญที่สุดคือประทับใจในความเคารพศรัทธาต่อพระพุทธศาสนาของชาวศรีลังกา แล้วยังได้ประจักษ์ถึงความผูกพันกันระหว่างพระราชอาณาจักรไทยกับศรีลังกาอันเนื่องมาจากพระพุทธศาสนา โดยเฉพาะเมื่อได้ฟังพระสงฆ์ชั้นผู้ใหญ่แห่งศรีลังกาบอกเล่าว่า พระราชวงศ์ไทยตั้งแต่สมัยรัชกาลที่ 4 และ 5 เรื่อยมาจนถึงปัจจุบันทรงถวายความเคารพ และพระราชทานของต่างๆ เพื่อสนับสนุนพระพุทธศาสนาในศรีลังกาเป็นอย่างดี
ปัจจุบันมีการแลกเปลี่ยนการบวชพระสงฆ์ไทยกับศรีลังกา โดยเป็นความร่วมมือระหว่างวัดเทพศิรินทร์ กับวัดในศรีลังกา ซึ่งนับเป็นการผูกสัมพันธไมตรีโดยอาศัยพระพุทธศาสนาเป็นเครื่องมือที่แสนจะงดงาม
หากคุณสนใจเดินทางไปกราบนมัสการพระเขี้ยวแก้ว และท่องเที่ยวเมืองศรีลังกา โปรดติดต่อ 091-7233615 หรือหากสนใจร่วมทริปกราบนมัสการสังเวชนียสถานทั้งสี่แห่งในอินเดียและเนปาล หรือสนใจร่วมทริปอื่นๆ ก็สามารถติดต่อสอบถามได้ที่หมายเลขโทรศัพท์ที่ระบุในข้างต้น
สวัสดีครับ
โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น
1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์
2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี
3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี