ไปอุทัยฯ ไม่ต้องอุทธรณ์ ค่ำแล้วก็นอน ที่เมืองอุทัยฯ
หลายคนคงคุ้นเคยกับวลีข้างต้นเป็นอย่างดี เมื่อกล่าวถึงเมืองอุทัยธานี แล้วก็ต้องบอกว่าอุทัยธานีนี้เป็นเมืองที่หากใครก็ตามได้ไปเยือนแล้วจะหลงรัก และอยากกลับไปเยือนอีก เพราะเป็นเมืองที่มีเสน่ห์มาก เสน่ห์ที่ว่านั้นก็มีทั้งเสน่ห์ของอาหารการกิน ซึ่งต้องบอกว่าอุดมสมบูรณ์มากทั้งผักทั้งปลา แล้วยังมีโบราณสถาน
มีผ้าทอลายพื้นเมือง และมีป่าเขาลำเนาไพรแมกไม้ และแม่น้ำลำธาร
หลายคนที่ไม่เคยไปเมืองอุทัยฯ อย่างจริงๆ จังๆ มักถามว่า ไปเที่ยวอุทัยฯ ไปเที่ยวดูอะไรหรือ เพราะเคยไปแต่วัดหลวงพ่อฤๅษีลิงดำ หรือวัดท่าซุง (วันจันทาราม) แต่ไม่ทราบว่ามีที่เที่ยวอะไรอีก
ก็ต้องบอกว่า จริงๆ แล้วอุทัยฯ มีที่ท่องเที่ยวมากมายเหลือเกิน คนบางคนรู้จักอุทัยฯ เพราะห้วยขาแข้ง แต่ไม่เคยเข้าไปเที่ยวตัวเมืองน้อยๆ ของอุทัยฯบางคนไม่รู้ด้วยซ้ำไปว่าอุทัยฯ มีวัดสวยงามอยู่ริมแม่น้ำสะแกกรัง นั้นคือวัดโบสถ์มโนรมย์ (ชื่อเดิม) แต่ปัจจุบันคือวัดอุโปสถาราม วัดแห่งนี้ตั้งอยู่ในตัวเมืองอุทัยฯ อยู่ใกล้ตลาดสดกลางเมือง อยู่ริมแม่น้ำสะแกกรัง ชาวเมืองอุทัยฯ บอกว่าวัดนี้ตั้งอยู่บนเกาะเทโพ เป็นวัดเก่าแก่ประจำเมืองอุทัยธานี แต่สมัยก่อนวัดนี้อยู่ในเขตจังหวัดชัยนาท ในเขตอำเภอมโนรมย์ จึงถูกเรียกว่าวัดโบสถ์มโนรมย์
วัดแห่งนี้มีโบราณสถานน่าสนใจควรค่าแก่การเข้าไปชมและศึกษาหลายสิ่ง อาทิ อุโบสถ วิหาร และอาคารแปดเหลี่ยม หรือมณฑปแปดเหลี่ยมหลังอุโบสถและหลังวิหาร รวมถึงมีเจดีย์ของอยุธยา และรัตนโกสินทร์อยู่ด้านหลังโบสถ์วิหาร
พระอุโบสถมีพระประธานปางมารวิชัย ศิลปะสุโขทัย ประดิษฐาน ผนังอุโบสถมีจิตรกรรมเล่าเรื่องพุทธประวัติ เริ่มตั้งแต่ประสูติจนถึงปรินิพพาน และภาพการแบ่งพระบรมสารีริกธาตุของสมเด็จพระสัมมมาสัมพุทธเจ้า เป็นฝีมือของช่างหลวงในรัชสมัยพระบาทสมเด็จพระนั่งเกล้าเจ้าอยู่หัว
ส่วนวิหารประดิษฐานพระพุทธรูปปางห้ามญาติ ผนังภายนอกวิหารด้านหน้ามีจิตรกรรมแสดงภาพการถวายพระเพลิงพระบรมศพสมเด็จพระสัมมาสัมพุทธเจ้า และแสดงภาพวิถีชีวิตของผู้คนในยุคต้นรัตนโกสินทร์ ส่วนภายในวิหารมีจิตรกรรมเรื่องพระมาลัย พระอสีติมหาสาวก และพระอสุรากรรมฐาน ส่วนด้านบนของผนังที่ใกล้กับเพดานมีภาพพระสงฆ์สาวกชุมนุมสลับกับภาพตาลปัตรพัดยศลวดลายต่างๆ
ส่วนมณฑปแปดเหลี่ยมก่อสร้างด้วยรูปแบบสถาปัตยกรรมแบบตะวันตกผสมกับตะวันออก ประดับลายปูนปั้นไม้เลื้อยที่กรอบหน้าต่าง และมีพระพุทธรูปปูนปั้นแบบนูนสูงประดิษฐานอยู่นอกอาคาร
และมีเจดีย์สามองค์ตั้งเรียงกัน โดยแต่ละองค์เป็นเจดีย์ทรงระฆัง แต่มีรายละเอียดต่างกัน โดยบางองค์เป็นทรงระฆังกลม ทรงระฆังเหลี่ยม และทรงระฆังย่อมุมสิบสอง
ตามประวัติระบุว่าวัดนี้สร้างเมื่อ พ.ศ. 2324 ครั้นในรัชสมัยพระบาทสมเด็จพระจุลจอมเกล้าเจ้าอยู่หัว ได้เสด็จพระราชดำเนินยังวัดแห่งนี้ ชาวบ้านจึงได้ร่วมกันสร้างแพเพื่อเฝ้าฯรับเสด็จที่ท่าน้ำหน้าวัด ปัจจุบันยังคงมีแพจำลองอยู่
เท่าที่เล่าให้ฟังถึงความน่าสนใจโดยย่อๆ ของวัดอุโปสถาราม ก็คงทำให้คุณคงเกิดความสนใจอยากไปเที่ยวไปชมเมืองอุทัยธานีแล้วใช่ไหมครับ อันที่จริงยังมีสถานที่ท่องเที่ยวอื่นๆ อีกมาในอุทัยฯหากคุณสนใจจะไปเที่ยวชมเพื่อสัมผัสมนต์เสน่ห์ของเมืองอุทัยฯ กับ Mr.Flower โปรดติดต่อ 091-7233615
และมีข่าวดีมาบอกว่า 31 สิงหาคมนี้จะพาคุณๆ ที่สนใจร่วมทริปล่องเรือชมโบราณสถานในคลองบางกอกน้อยสนใจร่วมทริปด้วยกัน โปรดติดต่อ091-7233615
โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น
1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์
2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี
3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี