นักท่องเที่ยวได้มีโอกาสมาเยือนออสเตรีย หลังจากเยือน Vienna และ Hallstatt แล้ว สถานที่ท่องเที่ยวที่ไม่ไกล สวยงาม และควรเยือนให้ได้อีกแห่งก็คือ St.Wolfgangการเดินทางไป St.Wolfgang ด้วยรถไฟสาธารณะที่ดีที่สุดไม่ควรเริ่มจาก Vienna ทั้งนี้เพราะต้องใช้เวลายาวนานกว่า 4 ชั่วโมงเฉกเช่นเดียวกันกับการไป Hallstatt และต้องเปลี่ยนรถไฟและรถเมล์หลายต่อมากนักท่องเที่ยวควรเริ่มต้นจากเมือง Salzburgเช่นเดียวกันกับการไปเที่ยว Hallstatt มากกว่าเพราะจะใช้เวลาเพียงแค่ชั่วโมงเศษ และเปลี่ยนรถบัสแค่เที่ยวเดียวลง St. Gilgen ก่อนเปลี่ยนบรรยากาศมาขึ้นเรือเพื่อไปยังปลายทาง
St.Wolfgang เมืองพาณิชย์ทางตอนกลางของออสเตรียในเขต Salzkammergut นี้ตั้งชื่อตาม St.Wolfgang of Regensburgเมืองที่ตั้งอยู่ใกล้กับเมือง Strobl และSt.Gilgen ทางตอนเหนือของทะเลสาบ Wolfgang นี้อยู่เชิงเขา Schafberg ผู้ก่อตั้งเมือง St.Wolfgang ได้ทำการจัดตั้งโบสถ์ริมทะเลสาบ Wolfgang หลังจากที่เขาถอนตัวออกจาก Mondsee Abbey ในปี 976 ตำนานเล่าว่า เขาได้โยนขวานลงมาจากเขาเพื่อเลือกตำแหน่ง และได้ชักชวนให้ปีศาจช่วยเขาสร้างเมืองโดยแลกกับสิ่งมีชีวิตสิ่งแรกที่เดินเข้ามาในโบสถ์ อย่างไรก็ตาม ปีศาจกลับผิดหวังเพราะสิ่งมีชีวิตสิ่งแรกที่เดินเข้ามาในโบสถ์กลับมิใช่มนุษย์ แต่เป็นหมาป่า
Apple Strudel
หลังจาก Wolfgang ได้รับแต่งตั้งเป็นนักบุญในปี 1052 ที่นี่ได้กลายเป็นสถานที่แสวงบุญดังที่ได้ถูกกล่าวถึงครั้งแรกโดย Pope Lucius III ในปี 1183 ต่อมาในปี 1481 สถานที่แสวงบุญนี้ได้รับการตกแต่งด้วยเฟอร์นิเจอร์และฉากกั้นหลายชิ้น เมืองได้รับการพัฒนาเรื่อยมาจน Weisses Rossl หรือโรงแรม White Horse Inn ได้มาตั้งขึ้นริมทะเลสาบในปี 1878 เพื่อให้บริการกับเหล่าคหบดี ระหว่างสงครามโลกครั้งที่สอง ที่นี่กลายเป็นที่ตั้งของค่ายกักกัน Dachau ไปเสีย
นักท่องเที่ยวที่มีโอกาสมาเยือนเมืองนี้ไม่เพียงจะสามารถเดินเล่นชิลๆ ชมเมืองริมทะเลสาบที่แสนจะสงบเยือกเย็นยังสามารถขึ้น Schafbergbahn รถไฟสายสำคัญของเมือง และเยือน Pilgrimage Church of St. Wolfgang ที่มีแท่นบูชาตามแนวทางศิลปะแบบ Late Gothic ของ Michael Pacher ด้วย ส่วนนักท่องเที่ยวที่มีเวลามากและชื่นชอบตุ๊กตาและการเข้ามิวเซียมก็อาจหาเวลาเข้า Puppet Museum เพื่อสัมผัสประสบการณ์ของตุ๊กตา ส่วนนักท่องเที่ยวที่ชอบบรรยากาศสบายๆ อาจเลือกพักโรงแรม White Horse Inn และถีบเรือชมวิวทะเลสาบ หรือถ้ามีเวลาน้อยก็แค่เยือนโรงแรม White Horse Inn เพื่อเพลิดเพลินกับวิวร้อยล้านในห้องอาหารติดทะเลสาบ และลิ้มลองApple Strudel ที่ได้ชื่อว่าอร่อยที่สุดในโลกรับรองได้ว่าจะประทับใจจนอยากกลับมาเที่ยวอีกทุกปีเลยทีเดียว
โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น
1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์
2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี
3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี