นักท่องเที่ยวที่มาเยือน Salzburg และชื่นชอบเยือนโบสถ์สวยๆ สถานที่หนึ่งที่ควรเยือนให้ได้ก็คือ St.Peter Abbey สำนักสงฆ์นิกาย Benedict ที่ใช้ภาษาเยอรมันที่เก่าแก่ที่สุดในโลกที่ยังคงความเป็นโบสถ์นับจากวันก่อตั้งจวบจนปัจจุบัน สำนักสงฆ์แห่งนี้ก่อตั้งขึ้นโดย Bishop of WormsRupert มิชชั่นนารีที่เดินทางมาจากทิศตะวันตกเฉียงใต้ของเทือกเขาแอลป์ในปี 696 ทำให้ที่นี่เป็นโบสถ์ที่เก่าแก่ที่สุดของเมือง ดั้งเดิมนั้นที่นี่เป็นแค่สำนักสงฆ์เล็กๆ เรียกว่า St.Rupertต่อมาในปี 987 ที่นี่ได้รับสถาปนาให้เป็นที่อาศัยของ Bishop
ในยุคกลางที่นี่เป็นโรงเรียนสอนเขียนหนังสือที่ดีที่สุดของประเทศ งานเขียนจากที่นี่ได้รับการเก็บรักษาไว้ที่ห้องสมุดแห่งชาติ ในคริสต์ศตวรรษที่ 15 โบสถ์ได้เข้าร่วมการปฏิรูปในช่วงเวลาเดียวกันกับที่ Martin Luther ได้ทำการปฏิวัติศาสนจักรผู้ที่เข้ามาดูแลสำนักสงฆ์ในช่วงนั้นคือJohannes von Staupitz ต่อมาในปี 1623Archbishop Paris Lodron ได้ก่อตั้งมหาวิทยาลัยเบเนดิกขึ้น และใช้ St.Peter เป็นศูนย์กลาง ตั้งแต่ปี 1641 สำนักสงฆ์เข้าร่วมเป็นส่วนหนึ่งของการปฏิรูปศาสนจักรของซาล์สบวร์ก
ในยุคบาโรค Amand Pachler,Edmund Sinnhuber และ Beta Seeauerผู้ดูแลสำนักสงฆ์ได้เปลี่ยนแปลงทั้งสถาปัตยกรรมและจิตวิญญาณของสำนักสงฆ์ใหม่ ในช่วงที่ Petrus Klotz ขึ้นเป็นเจ้าอาวาสสำนักสงฆ์แห่งนี้ในปี 1926 ท่านได้ใช้ความพยายามในการสถาปนาที่นี่ให้เป็นมหาวิทยาลัยคาทอลิกที่นำโดยนิกาย Benedict ความสำเร็จนี้จึงเป็นที่มาของมหาวิทยาลัยซาล์สบวร์กในเวลาต่อมา อย่างไรก็ดี ความรุ่งเรืองมิได้บังเกิดขึ้นในทันที ทั้งนี้เพราะช่วงที่ตั้งมหาวิทยาลัยได้นั้นเป็นช่วงสงครามที่เศรษฐกิจฝืดเคืองมากถึงกระนั้นก็ตาม St. Peter กลับมีส่วนสำคัญในการผลักดันเศรษฐกิจให้รุ่งเรืองของเมืองได้ในเวลาต่อมา
ระหว่างสงครามโลกครั้งที่สองที่นาซีบุกเข้าเมือง พระสงฆ์ที่อาศัยอยู่ถูกขับไล่ไปเสียส่วนใหญ่ ทรัพย์สมบัติของสำนักสงฆ์ก็ถูกยึดไปเป็นของเยอรมัน แต่ชุมชนยังคงอยู่Adalbert Raffelsberger หลวงพ่อผู้ก่อตั้ง Liturgical Institute ที่ยังคงจึงเป็นผู้นำในการอธิษฐานและนมัสการพระเจ้าต่อไป หลังสงครามโลกครั้งที่สองสิ้นสุดลง Archabbot Franz Bachler ได้รับหน้าที่เป็นผู้ปรับปรุงสำนักสงฆ์ให้กลับมาอยู่ในสภาพดี และสวยงามจนกลายเป็นที่ท่องเที่ยวสำคัญของเมืองจวบจนทุกวันนี้
นักท่องเที่ยวที่มีโอกาสเยือนSt. Peter Abbey ไม่เพียงจะได้ชื่นชมการตกแต่งตามแนวทางศิลปะแบบRococo ที่หรูหราแล้ว แท่นบูชาใหญ่อันเป็นงานของ Martin Johann Schmidtยังอลังการไม่แพ้โบสถ์อื่นใด รวมทั้งนาฬิกาเหนือออร์แกน ผลงานของ HeinrichTraxdorf of Mainz ก็สวยงามแปลกตาไม่เหมือนที่ใดในโลกด้วยเช่นกัน
โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น
1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์
2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี
3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี