ข่าวใหญ่ในมาเลเซียขณะนี้ คือคดีล่วงละเมิดทางเพศเด็กหลายร้อยคนภายในสถานดูแลเด็ก สร้างความตื่นตกใจเป็นวงกว้างและนำมาสู่การตั้งคำถามถึงการดูแลสวัสดิภาพเด็กที่อาศัยอยู่ภายในสถานสงเคราะห์รับดูแลเด็ก
คดีล่วงละเมิดเด็กครั้งนี้เชื่อว่าน่าจะเป็นเหตุการณ์ครั้งเลวร้ายที่สุดในมาเลเซียในรอบหลายสิบปีเกิดขึ้นเมื่อสัปดาห์ที่ผ่านมา หลังจากตำรวจเปิดเผยว่า ได้เปิดปฏิบัติการ Op Global บุกตรวจค้นสถานสงเคราะห์และดูแลเด็ก จำนวน18 แห่ง ในรัฐสลังงอร์ และอีก 2 แห่งในรัฐเนอกรี เซิมบีลาน ที่อยู่ติดกันโดยสามารถช่วยเหลือเด็กอายุตั้งแต่ 1 ขวบ ไปจนถึง 17 ปี เอาไว้ได้ทั้งหมด 402 คน แบ่งเป็นชายและหญิงอย่างละครึ่ง รวมทั้งจับกุมตัวผู้ต้องสงสัยที่มีอายุตั้งแต่ 17-64 ปี เอาไว้ได้ 171 คน ซึ่งในจำนวนนี้มีผู้ดูแลและครูสอนศาสนาอีกหลายคนรวมอยู่ด้วย
การสอบสวนของตำรวจชี้ว่าเด็กจำนวนมากมีบาดแผลทั้งเก่าและใหม่ที่เป็นร่องรอยของการถูกล่วงละเมิดทางเพศและทำร้ายร่างกาย ผลการคัดกรองทางสุขภาพพบว่า เด็กได้รับบาดแผลทางจิตใจและมีภาวะแคระแกร็น นอกจากนี้ ยังพบว่า มีเด็ก 13 คน ถูกกระทำชำเราทางทวารหนัก รวมทั้งมีรายงานว่าเจ้าหน้าที่สถานดูแลบังคับให้เด็กๆ กระทำพฤติกรรมล่วงละเมิดกันเองด้วย
ขณะที่การขยายผลสอบของตำรวจนำไปสู่การจับกุมตัวผู้ต้องสงสัยเพิ่มอีก 19 คน ในจำนวนนี้มีอุสตาส หรือครูสอนศาสนา ซีอีโอและผู้บริหารบริษัท โกลบอล อิคห์วานเซอร์วิส แอนด์ บิสซิเนส โฮลดิงส์ (Global Ikhwan Services and Business) หรือ GISB ซึ่งถูกกล่าวหาว่าเป็นเจ้าของสถานดูแลเด็กรวมอยู่ด้วย หลังจากตำรวจบุกตรวจค้นอาคารที่พัก 4 แห่ง ในกรุงกัวลาลัมเปอร์ และยังจับกุมตัวผู้เกี่ยวข้องกับบริษัทนี้อีก 5 คน บริเวณพรมแดนที่ติดกับไทย
ขณะเดียวกัน ทางการได้อายัดเงินในบัญชีธนาคารทั้งหมด 99 บัญชีที่โยงกับ GISB รวมเป็นเงินทั้งสิ้น 581,552.31 ริงกิต (ราว 4.49 ล้านบาท) ในจำนวนนี้
4 บัญชีถูกสั่งปิด เป็นการอายัดภายใต้กฎหมายต่อต้านการฟอกเงินนอกจากนี้ยังได้ยึดยานยนต์ 8 คันของจีไอเอสบีด้วย
บริษัท GISB เป็นบริษัทที่มีธุรกิจครอบคลุมตั้งแต่ซูเปอร์มาร์เก็ตไปจนถึงร้านอาหาร ดำเนินธุรกิจในหลายประเทศ เช่น อินโดนีเซีย ฝรั่งเศส และอังกฤษ มีมูลค่าทรัพย์สิน 325 ล้านริงกิต หรือมากกว่า 2,500 ล้านบาท แต่ตำรวจเชื่อว่าบริษัทนี้มีความเชื่อมโยงกับกลุ่ม อัล-อาร์คาม ซึ่งถูกรัฐบาลสั่งแบนเมื่อปี 1994 เนื่องจากมีคำสอนที่เบี่ยงเบน ในขณะที่สมาชิกของ GISB ได้จัดตั้ง “ชมรมภริยาผู้เชื่อฟัง” ขึ้นในปี 2011 โดยเรียกร้องให้ผู้หญิงทำตัวเป็น “โสเภณีบนเตียง”เพื่อป้องกันสามีไม่ให้ออกนอกลู่นอกทาง
ก่อนหน้านี้ ซีอีโอของบริษัท GISB ปฏิเสธข้อกล่าวหาเรื่องการล่วงละเมิดในสถานสงเคราะห์และดูแลเด็ก แต่ยอมรับว่าเคยเกิดเหตุขึ้นประมาณ 1-2 ครั้งเท่านั้น และแม้ว่าการสืบสวนในคดีนี้จะยังไม่เสร็จสิ้น แต่เหตุการณ์ดังกล่าวก็จุดกระแสความกังวลขึ้นในสังคมมาเลเซียเกี่ยวกับการดูแลสวัสดิภาพของเด็กๆ ในสถานดูแล และระเบียบต่างๆ ของทางการมาเลเซีย ในการตรวจสอบองค์กรการกุศลในประเทศว่ามีเพียงพอแล้วหรือไม่
ประเด็นนี้ยังทำให้คนหันมามองถึงปัญหาการล่วงละเมิดเด็กโดยข้อมูลจากกรมสวัสดิการสังคมมาเลเซีย ชี้ว่า มีเด็กถูกล่วงละเมิดเพิ่มสูงขึ้นเรื่อยๆ จากไม่ถึง 6,000 คนในปี 2020 เพิ่มขึ้นเป็นมากกว่า 8,000 คน เมื่อปี 2023 ซึ่งในจำนวนนี้ประมาณ 60% เป็นเด็กผู้หญิงโดยตัวเลขของปี 2023 เพิ่มขึ้นจากเมื่อ 10 ปีที่แล้วเกือบ 2 เท่า
ส่วนตัวเลขในปี 2024 ช่วง 6 เดือนแรกมีเด็กถูกล่วงละเมิดในมาเลเซียรวมมากกว่า 3,800 คน ซึ่งการล่วงละเมิดทางเพศเกิดขึ้นมากที่สุด กลุ่มที่ตกเป็นผู้เสียหายส่วนใหญ่คือเด็กผู้หญิง ตามมาด้วยการถูกละเลยและทำร้ายร่างกาย ซึ่งเด็กผู้ชายจะถูกกระทำมากกว่าเด็กผู้หญิง ขณะที่ส่วนที่เหลือมีทั้งการถูกพ่อแม่ทอดทิ้งและถูกล่วงละเมิดทางอารมณ์
ข้อมูลจากองค์กรที่ทำงานเพื่อช่วยเหลือเด็ก ระบุว่า ในยุคหลังโควิด-19 มีเด็กถูกทอดทิ้งเพิ่มมากขึ้น สถานสงเคราะห์และดูแลบางแห่ง ต้องรับเด็กเพิ่มขึ้นถึง 30% สาเหตุส่วนหนึ่งมาจากการที่พ่อแม่หย่าร้าง หรืออาจไม่มีงานทำ ทำให้ไม่สามารถเลี้ยงดูลูกของตัวเองได้ ขณะที่ปัจจุบัน มีการประเมินว่า อาจมีเด็กอาศัยอยู่ในสถานดูแลประมาณ 64,000 คนทั่วประเทศ
หน่วยงานคุ้มครองเด็กของสหประชาชาติที่ได้รับทราบเรื่องราวดังกล่าวระบุว่า กรณีนี้เป็นเรื่องร้ายแรงที่เกินจินตนาการได้ในสิ่งที่เด็กๆ ต้องพบเจอมาตลอด โรเบิร์ต
กาส ผู้แทนองค์การยูนิเซฟประจำมาเลเซียกล่าวว่า เด็กๆ เหล่านี้ต้องเผชิญกับความเจ็บปวดที่ไม่อาจจินตนาการได้ และจะต้องได้รับการสนับสนุนทางการแพทย์และจิตสังคมจากผู้เชี่ยวชาญในระยะยาว
โดย ดาโน โทนาลี
โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น
1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์
2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี
3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี