“หมูเด้ง” ฮิปโปเซเลปจากสวนสัตว์เปิดเขาเขียว สร้างกระแสไวรัลไปทั่วโลก จนกลายเป็นแรงบันดาลใจให้เกิดมีมและคอนเทนต์สร้างสรรค์มากมาย รวมถึงดึงดูดความสนใจจากสื่อต่างประเทศ ปรากฏการณ์นี้ไม่เพียงแต่สะท้อนให้เห็นถึงพลังของหมูเด้ง แต่ยังเผยให้เห็นถึงโอกาสในการทำการตลาดบนโซเชียลมีเดียที่สามารถสร้างกระแส และสร้างความมีส่วนร่วมหรือเอ็นเกจเมนต์ (Engagement) กับผู้คนได้อย่างรวดเร็ว
จากกระแสไวรัลของ “หมูเด้ง”บริษัท ดาต้าเซ็ต จำกัด นำเครื่องมือDXT360 เพื่อฟังเสียงในสังคมออนไลน์(Social Listening) ระหว่างวันที่ 28 กรกฎาคม-18 กันยายน 2567 เพื่อนำข้อมูลมาวิเคราะห์ พบว่าบนโซเชียลมีเดียมีการพูดถึง (Mention) “หมูเด้ง”8,678 ครั้ง และได้รับการมีส่วนร่วม หรือเอ็นเกจเมนต์ (Engagement) รวม 38,440,092 ครั้ง
แพลตฟอร์ม Facebook เป็นช่องทางที่ได้รับการพูดถึง (Mention)มากที่สุดจำนวน 5,263 ครั้ง และแพลตฟอร์ม TikTok ได้รับเอ็นเกจเมนต์ (Engagement) สูงที่สุด 34,674,750 ครั้ง
ไทม์ไลน์ความดังของ “หมูเด้ง”ฮิปโปแคระจากสวนสัตว์เปิดเขาเขียวมีจุดเริ่มต้นที่น่าสนใจจากแพลตฟอร์ม TikTok ผ่านบัญชีชื่อ “ขาหมู แอนด์เดอะแก๊ง” (@khamoo.andthegang)โดยเปิดตัวคลิปแรกของหมูเด้งในช่วงปลายเดือนกรกฎาคม 2567 ซึ่งได้รับความสนใจมาก แม้ว่าในระยะแรกค่า Engagement จะค่อนข้างคงที่ แต่จุดพลิกผันสำคัญเกิดขึ้นเมื่อมีการใช้แฮชแท็ก #หมูเด้งจะเด้งกี่โมง จนเกิดไวรัล
การใช้แฮชแท็กนี้ส่งผลให้กระแสของหมูเด้งกลายเป็นไวรัลอย่างรวดเร็ว จนติดอันดับแฮชแท็กยอดนิยมทั้งบนแพลตฟอร์ม X (Twitter)และ TikTok ปรากฏการณ์นี้แสดงให้เห็นว่าการใช้แฮชแท็กที่ดีสามารถช่วยเพิ่มการจดจำ ทำให้ผู้ที่สนใจสามารถค้นหาและเข้าถึงเนื้อหาที่เกี่ยวข้องได้ง่ายยิ่งขึ้น สะท้อนให้เห็นจากการเติบโตของค่า Engagement ที่เพิ่มสูงขึ้นอย่างเห็นได้ชัดในช่วงหลังการนำแฮชแท็กมาใช้
จากกระแสฮิตของ “หมูเด้ง” ส่งผลดีต่อสวนสัตว์เปิดเขาเขียว โดยเห็นได้ชัดจากการที่คนจำนวนมากเริ่มให้ความสนใจเกี่ยวกับสัตว์มากขึ้นส่งผลให้จำนวนผู้เข้าชมสวนสัตว์เพิ่มขึ้นเป็นจำนวนมากปรากฏการณ์นี้ไม่เพียงแต่เพิ่มรายได้ให้กับสวนสัตว์เท่านั้น แต่ยังเปิดโอกาสในการสร้างความตระหนักรู้เกี่ยวกับการอนุรักษ์สัตว์ในวงกว้าง
ด้วยกระแสความสนใจที่เพิ่มขึ้นทางสวนสัตว์ฯ ปรับกลยุทธ์การสื่อสารเพื่อตอบสนองต่อความต้องการของกลุ่มเป้าหมายที่หลากหลายขึ้น การปรับตัวนี้รวมถึงการใช้โซเชียลมีเดียอย่างมีประสิทธิภาพ การจัดกิจกรรมสนุกๆ และให้ข้อมูลน่ารู้เกี่ยวกับสัตว์ชนิดต่างๆ ไม่ใช่แค่เรื่องหมูเด้ง
สัปดาห์ที่ผ่านมา สวนสัตว์เปิดเขาเขียวเปิดให้ชมความน่ารักของหมูเด้งได้ตลอด 24 ชั่วโมง ผ่านแพลตฟอร์มออนไลน์ www.zoodio.live เป็นช่องทางใหม่ที่จะพาผู้ชมเข้าสู่โลกของสัตว์ป่าแบบเรียลไทม์ ผู้สนใจสามารถสัมผัสบรรยากาศและเรียนรู้วิถีชีวิตของสัตว์ต่างๆ รวมถึงหมูเด้ง ผ่านหน้าจอได้อย่างใกล้ชิด นับเป็นการยกระดับประสบการณ์การท่องเที่ยวสวนสัตว์ในรูปแบบใหม่ ที่ไม่จำกัดเวลาและสถานที่
จากกระแสหมูเด้งฟีเวอร์ ยังเป็นโอกาสทางธุรกิจ สวนสัตว์เปิดเขาเขียว แก้ปัญหาคนต่อคิวนานเพื่อดูหมูเด้ง จึงหันมาโปรโมทบริการที่พักให้นอนค้างคืนในสวนสัตว์เปิดเขาเขียวสามารถตื่นเช้ามาได้ดูหมูเด้งแบบไม่ต้องต่อคิวเข้าสวนสัตว์ แถมกลางคืนยังได้นอนดูดาวแบบฟินๆ
หรือจะเป็น บัตรรายปี : สวนสัตว์เปิดเขาเขียว จัดทำบัตรรายปี บัตรเดียวเที่ยวคุ้ม จ่ายครั้งเดียวเข้าได้ครั้งละ 4 คน ในระยะเวลา 1 ปี ไม่จำกัดจำนวนครั้ง เพื่อสร้างแรงจูงใจให้คนอยากกลับมาเที่ยวบ่อยๆ ซึ่งวิธีนี้ดีกว่าการหาลูกค้าใหม่ เพราะไม่ต้องเสียเงินโฆษณาแพงๆ แถมยังรักษาลูกค้าเก่าได้ง่ายกว่าด้วย แบบนี้สวนสัตว์ก็ได้ประโยชน์ เพราะมีรายได้แน่นอน ส่วนคนซื้อบัตรก็คุ้ม เพราะมาเที่ยวกี่ครั้งก็ได้ในหนึ่งปี อยากดูหมูเด้งตอนไหนก็มาได้ นอกจากนี้ ยังเป็นโอกาสให้คนได้เห็นสัตว์ตัวอื่นๆ ด้วย ส่งเสริมให้คนเข้าใจและรักสัตว์มากขึ้น
ของที่ระลึก เสื้อยืด หรือ กางเกงลายหมูเด้ง ไม่ใช่แค่เสื้อผ้าธรรมดาๆ แต่ยังเป็นสื่อกลางในการสร้างความสัมพันธ์ระหว่างผู้ซื้อกับสวนสัตว์เปิดเขาเขียว ทุกครั้งที่สวมใส่
เสื้อหรือกางเกงลายหมูเด้ง ก็จะนึกถึงประสบการณ์ดีๆ จากการได้พบหมูเด้งโดยตรง หรือจากการรับชมคอนเทนต์ที่เกี่ยวข้อง
ความน่ารักของหมูเด้งไม่เพียงแต่สร้างความประทับใจให้กับผู้คนทั่วไป แต่ยังดึงดูดความสนใจจากแบรนด์ต่างๆ อีกด้วย จึงเป็นโอกาสให้กับหลายๆ แบรนด์ได้ออกมาทำ Real-timeคอนเทนต์ เพื่อช่วยเพิ่มการรับรู้ (Awareness) ให้กับแบรนด์ วิธีนี้ช่วยให้แบรนด์สามารถเข้าถึงกลุ่มผู้บริโภคได้อย่างกว้างขวางและรวดเร็ว โดยอาศัยความนิยมของหมูเด้งเป็นตัวขับเคลื่อน
การทำคอนเทนต์แบบนี้ไม่เพียงแต่ช่วยเพิ่มการรับรู้แบรนด์เท่านั้น แต่ยังแสดงให้เห็นถึงความทันสมัยและความเข้าใจในกระแสสังคมของแบรนด์อีกด้วย ซึ่งอาจนำไปสู่การสร้างความสัมพันธ์ที่ดีกับผู้บริโภคในระยะยาว
เพสโต ลูกเพนกวินยักษ์คู่แข่งหมูเด้ง
แต่ในตอนนี้ หมูเด้งกำลังมีคู่แข่งที่น่ากลัวมาแย่งความดังในโลกออนไลน์ นั่นคือ “เพสโต” ลูกนกเพนกวินจักรพรรดิเพศผู้ของพิพิธภัณฑ์สัตว์น้ำซีไลฟ์เมลเบิร์น (Sea Life Melbourne) ในนครเมลเบิร์นของออสเตรเลีย ที่ยังคงเป็นกระแสไวรัลอย่างต่อเนื่อง เพราะความตุ้ยนุ้ยน่ารักด้วยความที่มีอายุเพียง 9 เดือน แต่มีน้ำหนักตัวมากถึง 23.5 กิโลกรัม หรือมากกว่าน้ำหนักตัวพ่อกับแม่รวมกัน เพราะพ่อกับแม่หนักเพียงตัวละ 11 กิโลกรัมเท่านั้น
ความตุ้ยนุ้ยอุ้ยอ้ายของเพสโตสามารถพิชิตใจคนรักสัตว์จากทั่วโลกล่าสุด เคที เพร์รี นักร้องสาวชื่อดังของสหรัฐฯ ก็กลายเป็นแฟนคลับตัวยงไปแล้วขณะที่พิพิธภัณฑ์สัตว์น้ำแห่งนี้เผยว่ามีผู้เข้าชมความน่ารักของเพสโตผ่านช่องทางโซเชียลมีเดียต่างๆ แล้วราว 4,000 ล้านคน ขณะที่คลิปวีดีโอเฉลยเพศของเพสโตที่โพสต์ลงในติ๊กต็อกในเดือนนี้ สามารถเรียกยอดไลค์มากกว่า 1 ล้านไลค์
อย่างไรก็ตาม เมื่อเพสโตผลัดขนและเติบโตเป็นเพนกวินวัยผู้ใหญ่น้ำหนักตัวก็จะลดลงเองตามธรรมชาติแต่ถึงอย่างนั้นก็ตาม เชื่อว่าเพสโตและหมูเด้ง ก็จะยังคงครองใจคนรักสัตว์ทั่วโลกต่อไปได้อีกพักใหญ่ จนกว่าจะมีลูกสัตว์น่ารักตัวใหม่ โผล่มาให้เราไปทาสกันต่อ
โดย ดาโน โทนาลี
โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น
1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์
2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี
3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี