คณะทำงานการพัฒนาเศรษฐกิจฐานราก ผสานความร่วมมือกับ ภาครัฐภาคเอกชน และ ภาคีเครือข่ายทั่วประเทศร่วมกันขับเคลื่อนงานอย่างต่อเนื่องเป็นปีที่ 9 จากจุดเริ่มต้นในปี 2559 ภายใต้การทำงานของคณะทำงานการพัฒนาเศรษฐกิจฐานราก โดยมีเป้าหมายร่วมกันขับเคลื่อนและพัฒนาชีวิตความเป็นอยู่และส่งเสริมรายได้ของชุมชนในชนบทผ่านการดำเนินงานใน 3 กลุ่มงาน เกษตร แปรรูป และท่องเที่ยวโดยชุมชน โดยการจัดงานประชุมคณะทำงานในครั้งนี้ได้จัดต่อเนื่องมาเป็นปีที่ 9 เช่นกัน โดยปีนี้ได้รับเกียรติจาก สุทธิพงษ์ จุลเจริญ ปลัดกระทรวงมหาดไทย มาให้กำลังใจคณะทำงานและแนวทางการติดตามเพื่อเป็นประโยชน์ให้คณะทำงานนำไปปรับใช้ในการทำงานต่อไป
ฐาปน สิริวัฒนภักดี ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท ไทยเบฟเวอเรจ จำกัด (มหาชน) หัวหน้าทีมภาคเอกชน คณะทำงานการพัฒนาเศรษฐกิจฐานรากและประธานคณะกรรมการโครงการผ้าขาวม้าท้องถิ่นหัตถศิลป์ไทย กล่าวว่า ตามที่คณะทำงานการพัฒนาเศรษฐกิจฐานราก ได้ดำเนินงานมาอย่างต่อเนื่องเป็นปีที่ 9 นับตั้งแต่ปี 2559 ภายใต้พันธกิจหลัก คือ สร้างรายได้ให้ชุมชน ประชาชนมีความสุข โดยมุ่งเน้นการสร้างรายได้ผ่าน 3 กลุ่มงาน ได้แก่ เกษตร แปรรูปท่องเที่ยวโดยชุมชน โดยเน้น 5 กระบวนการอันประกอบไปด้วย การเข้าถึงปัจจัยการผลิต การสร้างองค์ความรู้ การตลาด การสื่อสารสร้างการรับรู้ และการบริหารจัดการที่ดี การดำเนินงานตลอดระยะเวลาที่ผ่านมา ได้รับการสนับสนุนอย่างดียิ่งจากกรมการพัฒนาชุมชน กระทรวงมหาดไทย รวมถึงภาคีเครือข่ายภาคส่วนต่างๆ ทั้งภาครัฐ ภาคเอกชน ภาควิชาการ ภาคประชาสังคม และภาคประชาชน เพื่อขับเคลื่อน 3 กลุ่มงานดังกล่าวข้างต้น โดยมีผลสำเร็จเป็นรูปธรรม สามารถริเริ่มโครงการกว่า 1,690 โครงการ มีผู้ได้รับผลประโยชน์กว่า 136,000 ครัวเรือน สร้างรายได้ให้ชุมชนกว่า 2,600 ล้านบาท จนถึงปัจจุบันโดยในปี 2566 สามารถสร้างรายได้ให้กับชุมชนกว่า 460 ล้านบาทจากการดำเนินโครงการอย่างจริงจังและต่อเนื่อง ซึ่งมีโครงการระดับประเทศที่เกิดผลสำเร็จไม่ว่าจะเป็น โครงการโรงพยาบาลอาหารปลอดภัย โครงการผ้าขาวม้าท้องถิ่นหัตถศิลป์ไทย และโครงการท่องเที่ยวโดยชุมชน ตามรอยองค์หลวงปู่มั่น ภูริทัตโต เป็นต้น
หนึ่งในโครงการที่สร้างความสำเร็จเป็นรูปธรรมอย่างชัดเจน คือ โครงการ “ผ้าขาวม้าท้องถิ่นหัตถศิลป์ไทย” ที่ดำเนินการมากว่า 7 ปี ย่างเข้าสู่ปีที่ 8 ที่เครือข่ายบริษัท ประชารัฐรักสามัคคี วิสาหกิจเพื่อสังคมได้ร่วมขับเคลื่อนผสานความร่วมมือกับกรมการพัฒนาชุมชน กระทรวงมหาดไทย ภาคีเครือข่ายสถาบันการศึกษา และภาคเอกชนในการรวมพลังสานความตั้งใจในการอนุรักษ์มรดกทางวัฒนธรรมที่มีคุณค่า โดยการนำภูมิปัญญาท้องถิ่นมาสร้างสรรค์กับผลผลิตการเกษตรของท้องถิ่น ผ่านการแปรรูป ที่รวมถึงการพัฒนาสีที่สกัดจากธรรมชาติ การออกแบบ การตัดเย็บสีสัน และลวดลายผ้า จนเป็นสินค้าที่สร้างรายได้เพิ่มขึ้นแก่ชุมชน พร้อมทั้งให้องค์ความรู้ด้านการทำมาค้าขายในเชิงธุรกิจแก่ชุมชน ควบคู่ไปกับการสร้างจิตสำนึกด้านการรักษาสิ่งแวดล้อมยังผลให้โครงการผ้าขาวม้าฯ สามารถร่วมเป็นส่วนหนึ่งในการพัฒนาเศรษฐกิจฐานราก ช่วยสร้างรายได้และเสริมศักยภาพให้กับชุมชนที่เข้าร่วมโครงการมาอย่างต่อเนื่องนำไปสู่การพัฒนาที่ยั่งยืน
โครงการผ้าขาวม้าท้องถิ่น หัตถศิลป์ไทย เป็นเพียงหนึ่งตัวอย่างที่เกิดจากการผสานความร่วมมือทุกภาคส่วนอย่างแท้จริง กระผมในนามของหัวหน้าทีมภาคเอกชน คณะทำงานการพัฒนาเศรษฐกิจฐานรากขอบพระคุณภาคีเครือข่ายทุกภาคส่วนที่ได้ร่วมกันขับเคลื่อนการดำเนินงานมาอย่างต่อเนื่อง และยังคงมุ่งมั่นเดินหน้าต่อเพื่อสร้างระบบเศรษฐกิจฐานรากให้เข้มแข็งอย่างยั่งยืนสืบไป
ภายในงาน Sustainability Expo 2024 มีการจัดแสดงนิทรรศการในโซน Market place เพื่อบอกเล่าเส้นทางของโครงการผ้าขาวม้า และขอเชิญเลือกช้อปผลิตภัณฑ์ผ้าขาวม้าทอมือของชุมชนผู้ผลิตผ้าขาวม้าส่งจากทั่วประเทศมาร่วมออกบูธรวมถึงมีสินค้าชุมชนในเครือข่ายคณะทำงานการพัฒนาเศรษฐกิจฐานรากอีกกว่า 11 ร้านค้ามาร่วมจำหน่ายภายในงาน Sustainable Marketplaceชั้น LG โซน จนถึงวันที่ 6 ตุลาคม 2567 ณ ศูนย์การประชุมแห่งชาติสิริกิติ์ตั้งแต่เวลา 10.00-20.00 น. ติดตามข้อมูลเพิ่มเติมได้ที่ Facebook.com/PakaomaThailand
โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น
1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์
2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี
3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี