เนื่องในวันสถาปนา “Donation HUB” 1 ตุลาคม 2567 โดย สำนักงานจัดหารายได้ สภากาชาดไทย ครบ 52 ปีในฐานะศูนย์รวมการบริจาคและจัดกิจกรรมหารายได้เพื่อสนับสนุนภารกิจการช่วยเหลือของสภากาชาดไทย เสริมย้ำความมุ่งมั่นในการดำเนินภารกิจ “รับ” เพื่อ“ให้” ระดมทุนหารายได้จากการบริจาคและจัดกิจกรรมหารายได้รูปแบบต่างๆ อาทิ งานกาชาดประจำปี งานออกร้านคณะภริยาทูต
งานคอนเสิร์ตการกุศล การจำหน่ายของที่ระลึก รวมถึงระดมทุนร่วมกับหน่วยงานภาครัฐและเอกชน เพื่อนำเงินรายได้สนับสนุนการดำเนินงานของสภากาชาดไทย มุ่งบรรเทาทุกข์ บำรุงสุข บำบัดโรค กำจัดภัยสอดรับกับพันธกิจทั้ง 4 ด้าน ได้แก่ ด้านบริการทางการแพทย์ ด้านการบรรเทาทุกข์ด้านการบริการโลหิต และด้านการส่งเสริมคุณภาพชีวิตผู้ยากไร้ ผู้ด้อยโอกาส และผู้ประสบภัยพิบัติ
ขรรค์ ประจวบเหมาะ ผู้อำนวยการสำนักงานจัดหารายได้ สภากาชาดไทย กล่าวว่า Donation HUB สภากาชาดไทย เป็นหน่วยงานเล็กๆ แต่มีภารกิจที่ยิ่งใหญ่ โดยเราเป็นหน่วยงานหลักที่ทำหน้าที่ระดมเงินรายได้จากผู้มีจิตศรัทธา เพื่อแปรเปลี่ยนเป็นความช่วยเหลือสู่ประชาชนที่ได้รับความเดือดร้อนในด้านต่างๆ ไม่ว่าจะเป็น การเข้าถึงบริการทางการแพทย์รักษาด้วยแพทย์ผู้เชี่ยวชาญ การจัดซื้อเครื่องมือหรืออุปกรณ์ทางการแพทย์ที่ทันสมัย การสนับสนุนการบริการโลหิต การบรรเทาทุกข์ผู้ประสบภัย รวมถึงการพัฒนาคุณภาพชีวิตของผู้ด้อยโอกาสในสังคม
“ตลอดระยะเวลา 52 ปี จากหน่วยหารายได้ประจำและงานกาชาดเป็นกองหารายได้ จากนั้นเปลี่ยนชื่อเป็นสำนักงานจัดหารายได้ จวบจนยกระดับฐานะเป็น Donation HUB สภากาชาดไทย ดังเช่นปัจจุบัน ผมขอขอบพระคุณในหัวใจที่เปี่ยมด้วยพลังแห่งการให้ของทุกท่านที่ช่วยสนับสนุนภารกิจและความตั้งใจของเราอย่างดีเสมอมา โดยในปีนี้เราสามารถส่งมอบความช่วยเหลือผ่านภารกิจต่างๆ รวมเป็นเงินกว่า 800 ล้านบาทแม้จะเป็นจำนวนเงินที่ดูมาก ทว่าขณะนี้ยังมีประชาชนที่รอคอยความช่วยเหลือจากเราอยู่อีกจำนวนมากกว่า จึงเป็นที่มาที่ทำให้ Donation HUB สภากาชาดไทย ตั้งเป้าระดมทุนรายได้เพิ่มเป็น 970ล้านบาท ในปี 2568 เพื่อให้เพียงพอต่อการส่งมอบความช่วยเหลือที่ครอบคลุมยิ่งขึ้น”
นอกจากนี้ Donation HUB สภากาชาดไทย ยังได้วางแผนแนวทางหารายได้อย่างต่อเนื่อง ควบคู่กับการพัฒนาศักยภาพของหน่วยงาน รวมถึงพัฒนาช่องทางการบริจาคใหม่ๆ โดยเฉพาะบนแพลตฟอร์มดิจิทัล ช่วยเพิ่มความสะดวกต่อผู้บริจาค และสร้างความรวดเร็วในการระดมทุน เพื่อส่งต่อความช่วยเหลือ ภายใต้วิสัยทัศน์ Smart Fundraising หรือ การเป็นองค์กรที่มีความเชี่ยวชาญการจัดหารายได้ทุกมิติ
จันทร์ประภา วิชิตชลชัย รองผู้อำนวยการสำนักงานจัดหารายได้ สภากาชาดไทย กล่าวเพิ่มเติมว่า “ทุกวินาทีมีประชาชนผู้เดือดร้อนกำลังรอคอยความช่วยเหลือจากเราอยู่ และอาจมีมากกว่าที่เรารับรู้ ในหลายโครงการเราจำเป็นต้องดำเนินการแข่งกับเวลา ปัจจุบัน เราจึงพัฒนาแพลตฟอร์มหลักในการบริจาคออนไลน์ ได้แก่ เว็บไซต์และแอปพลิเคชั่น DonationHUB ที่ผู้บริจาคสามารถเข้าถึงและมีส่วนร่วมแสดงพลังแห่งการให้ ผ่านการบริจาคในโครงการที่กำลังเปิดรับการสนับสนุน พร้อมบันทึกและตรวจสอบข้อมูลการบริจาคกับสภากาชาดไทยที่ผ่านมาได้ด้วยตนเอง รวมถึงการพัฒนา www.iredcross.org แพลตฟอร์มออนไลน์ที่รวบรวมการบริจาคและการจัดกิจกรรมการกุศลทางดิจิทัลของสภากาชาดไทยอีกหนึ่งช่องทาง ซึ่งจะเปิดใช้งานอย่างเต็มรูปแบบในปลายปีนี้ ควบคู่กับการรับบริจาคผ่านช่องทางพันธมิตรอื่นๆ เพื่อผลักดันให้ภารกิจ “รับ” เพื่อ “ให้” ดำเนินต่อไปอย่างมีประสิทธิภาพ และบรรลุวัตถุประสงค์ สามารถส่งต่อความช่วยเหลือไปยังประชาชนที่กำลังเดือดร้อนให้ได้อย่างรวดเร็วและทันท่วงที”
เพราะความช่วยเหลือรอไม่ได้ ในโอกาสนี้ จึงขอเชิญทุกท่านมาร่วมส่งต่อความช่วยเหลือ พร้อมเติมเต็มความภาคภูมิใจจากการเป็นผู้ให้ ด้วยการบริจาคสมทบทุนกับ Donation HUB สภากาชาดไทย ผ่านช่องทางออนไลน์ www.donationhub.or.th หรือ บริจาคด้วยตนเองที่ Donation HUB สภากาชาดไทย ตึกอำนวยนรธรรม ถนนพระราม 4 ปทุมวัน กรุงเทพฯ โทรศัพท์ 02-2564440
โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น
1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์
2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี
3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี