เราอาจจะพอรู้จักนิ่วกันมาบ้างแล้ว แต่จะมากหรือน้อยก็แล้วแต่ แต่วันนี้เรามารู้จักเรื่องนิ่วในถุงน้ำดีกัน แต่ก่อนอื่นต้องไปรู้จักถุงน้ำดีกันก่อน ถุงน้ำดี (gallbladder) อยู่ในช่องท้องด้านบนขวา ติดกับด้านล่างของตับ มีหน้าที่ตรงตามชื่อก็คือเก็บน้ำดีที่ตับสร้าง เพื่อใช้ช่วยย่อยสารอาหารจำพวกไขมัน และก็เช่นเดียวกับอวัยวะอื่นในร่างกาย ถุงน้ำดีก็เกิดโรคได้เช่นกัน เช่น โรคถุงน้ำดี หรือทางเดินน้ำดีอักเสบ นิ่วในถุงน้ำดี รวมถึงระบบทางเดินน้ำดี ก็เป็นบริเวณที่เกิดมะเร็งได้บ่อย แต่วันนี้ขอเน้นเรื่องนิ่วในถุงน้ำดี
การเกิดนิ่วในถุงน้ำดีแตกต่างจากนิ่วในไต นิ่วในถุงน้ำดีเกิดจากการที่สารต่างๆ ในน้ำดี เช่น คอเลสเตอรอล บิลิรูบิน และเกลือแคลเซียม ตกตะกอนและจับตัวกันเป็นก้อนแข็งภายในถุงน้ำดี เปรียบเสมือนคราบสกปรกที่เกาะกันเป็นก้อน
สาเหตุหลักๆ ที่ทำให้เกิดนิ่วในถุงน้ำดี เช่น ความไม่สมดุลของสารในน้ำดี เมื่อมีคอเลสเตอรอลในน้ำดีมากเกินไป หรือมีบิลิรูบินมากเกินไป จะทำให้สารเหล่านี้ตกตะกอนและเกิดเป็นนิ่วได้ง่าย การเปลี่ยนแปลงของฮอร์โมนในผู้หญิงฮอร์โมนเอสโตรเจน และโปรเจสเตอโรนมีส่วนสำคัญในการเปลี่ยนแปลงปริมาณคอเลสเตอรอลในน้ำดี ทำให้ผู้หญิงมีโอกาสเป็นนิ่วในถุงน้ำดีมากกว่าผู้ชาย โรคบางอย่าง เช่น โรคเบาหวาน โรคตับ โรคทางเดินอาหาร สามารถส่งผลต่อการทำงานของตับและถุงน้ำดี ทำให้เกิดนิ่วได้เช่นกัน บางคนอาจมีกรรมพันธุ์ที่ทำให้เกิดนิ่วในถุงน้ำดีได้ง่ายขึ้น
ในระยะเริ่มต้น นิ่วในถุงน้ำดีมักไม่แสดงอาการ เมื่อเป็นมากขึ้นผู้ป่วยจะเริ่มมีอาการปวดท้อง มักเป็นใต้ลิ้นปี่ หรือชายโครงขวา อาจร้าวไปที่ไหล่หรือหลัง มักเกิดขึ้นหลังรับประทานอาหารโดยเฉพาะอาหารที่มีไขมันสูง อาการปวดมักเป็นอยู่นานเป็นชั่วโมง อาการอื่นที่พบร่วมด้วย ได้แก่ ท้องอืด แน่นท้อง อาหารไม่ย่อย คลื่นไส้ อาเจียน เป็นต้น กรณีที่เป็นมาก หรือตัวก้อนนิ่วไปอุดต้นอาจทำให้เกิดการอักเสบติดเชื้อ ผู้ป่วยอาจมีไข้ หนาวสั่น ถ้าโรคที่เป็นกระทบกับการทำงานของตับก็อาจมีความผิดปกติของตับเกิดร่วมด้วย เช่น ตัวเหลือง ตาเหลือง
วิธีการรักษานิ่วในถุงน้ำดีหลักๆ ผ่าตัดเอาก้อนนิ่วออก แต่บางครั้งแพทย์อาจพิจารณาให้ยาสลายก้อนนิ่วกรณีที่ก้อนเล็กมากหรือผ่าตัดไม่ได้ ซึ่งยาที่ว่าก็คือ ursodeoxycholic acid เป็นยาที่สามารถช่วยละลายนิ่วคอเลสเตอรอลในถุงน้ำดีได้ แต่มักจะใช้เวลานานกว่าจะเห็นผล และนิ่วอาจกลับมาเกิดใหม่ได้
นอกจากนี้ยังมีประเด็นเรื่องยากับนิ่วในถุงน้ำดี เนื่องจากยาบางชนิดสามารถเพิ่มความเสี่ยงการเกิดนิ่วในถุงน้ำดีได้ ตัวอย่างยา ได้แก่ ยาคุมกำเนิด ฮอร์โมนเอสโตรเจนในยาคุมกำเนิด มีส่วนทำให้ระดับคอเลสเตอรอลในน้ำดีสูงขึ้น ซึ่งเป็นปัจจัยเสี่ยงหนึ่งที่นำไปสู่การเกิดนิ่วในถุงน้ำดียาฮอร์โมนทดแทนวัยหมดประจำเดือน ยาชนิดนี้มักใช้ในผู้หญิงวัยหมดประจำเดือน และมีส่วนประกอบของฮอร์โมนเอสโตรเจนซึ่งก็มีผลต่อระดับคอเลสเตอรอลในน้ำดีเช่นเดียวกันยาที่ใช้ในการลดระดับไขมันในเลือดบางชนิด เช่น ยาในกลุ่ม Fibrate อาจทำให้ระดับคอเลสเตอรอลในน้ำดีเพิ่มขึ้นได้ยาที่ใช้ในการรักษาโรคเบาหวานยาบางชนิดในกลุ่ม Thiazolidinediones อาจมีผลต่อการเปลี่ยนแปลงองค์ประกอบของน้ำดี ทำให้เกิดนิ่วได้
ดังนั้นผู้ที่ใช้ยาเหล่านี้จึงต้องหมั่นสังเกตอาการผิดปกติของตัวเอง เมื่อปวดท้อง ท้องอืด คลื่นไส้ หรือมีอาการที่เกี่ยวข้องกับระบบทางเดินอาหารแบบเป็นๆ หายๆ ควรไปพบแพทย์เพื่อตรวจเพิ่มเติม แต่ทั้งนี้ห้ามหยุดยาที่แพทย์สั่งเหล่านั้นด้วยตนเองเด็ดขาด
อย่างไรก็ดี เราสามารถลดความเสี่ยงการเกิดนิ่วในถุงน้ำดีได้ เช่น ลดบริโภคอาหารที่มีไขมันสูง และเพิ่มอาหารมีใยอาหารสูง ออกกำลังกายอย่างสม่ำเสมอ เพื่อกระตุ้นการทำงานของระบบทางเดินอาหาร และการหลั่งน้ำดี นอกจากนี้ รักษาน้ำหนักตัวให้เหมาะสมก็เป็นการลดความเสี่ยงได้ และถ้าอยากลดน้ำหนักอย่าอดอาหาร หรือลดเร็วเกินไปเพราะอาจกระทบกับสมดุลของน้ำดี ไม่ใช้ยาเกินความจำเป็น หรือหากจำเป็นต้องใช้ยา โดยเฉพาะอย่างยิ่งยาที่ต้องใช้ต่อเนื่องเป็นเวลานานต้องอยู่ในความดูแพทย์ หรือปรึกษาเภสัชกร
ทั้งนี้หากท่านมีข้อสงสัยว่ายาที่ท่านใช้อยู่เพิ่มความเสี่ยงในการเกิดนิ่วในถุงน้ำดีหรือไม่ สอบถามได้ที่ศูนย์ข้อมูลยา คณะเภสัชศาสตร์ จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย ทาง line @guruya
รศ.ภญ.ดร.ณัฏฐดา อารีเปี่ยม และ รศ.ภก.ดร.บดินทร์ ติวสุวรรณ
คณะเภสัชศาสตร์ จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย
โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น
1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์
2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี
3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี