โรคซึมเศร้า อาจเป็นภาวะที่ถูกมองข้ามหรือเข้าใจผิดว่าเป็นเพียงความเศร้าชั่วคราว แต่ในความเป็นจริง โรคซึมเศร้าคือศัตรูเงียบที่ค่อยๆทำลายจิตใจและการใช้ชีวิตของผู้ที่ต้องเผชิญ แม้แต่คนที่ดูเหมือนเข้มแข็งหรือใช้ชีวิตปกติก็อาจกำลังต่อสู้กับความรู้สึกสิ้นหวังอย่างลึกซึ้งโดยที่เราไม่รู้ตัว การเรียนรู้ที่จะเข้าใจและรับรู้สัญญาณ และประเภทของโรคซึมเศร้าแต่ละประเภทจึงเป็นสิ่งสำคัญ เพื่อที่เราจะได้ช่วยเหลือผู้ที่ต้องการความช่วยเหลือ หรือแม้กระทั่งปกป้องตัวเราเองจากภาวะนี้
แพทย์หญิงณัฏฐพัชร์ ลำเลียงพล จิตแพทย์ โรงพยาบาล BMHH – Bangkok Mental Health กล่าวว่า โรคซึมเศร้าเป็นสภาวะทางอารมณ์ที่มีความรู้สึกเศร้าเป็นเวลานาน ทำให้สูญเสียความสนใจในกิจกรรมที่เคยทำแล้วรู้สึกสนุกหรือมีความสุข หากเราสามารถทราบถึงประเภทของโรคซึมเศร้า โดยการเข้าใจลักษณะและอาการของแต่ละประเภทจะช่วยให้ผู้ป่วยได้รับการดูแลที่เหมาะสมและมีประสิทธิภาพมากขึ้น โรคซึมเศร้ามีหลายประเภท แบ่งออกเป็น 2 ประเภทหลักๆ ด้วยกัน
1.โรคซึมเศร้าแบบรุนแรง (Major Depressive Disorder - MDD) เป็นความผิดปกติที่มีอาการซึมเศร้ารุนแรงและเกิดขึ้นเป็นระยะเวลานาน หนึ่งในรูปแบบของโรคซึมเศร้าที่ส่งผลกระทบต่อผู้ป่วยในหลายด้าน ทั้งร่างกาย จิตใจ และการดำเนินชีวิตประจำวัน โดยเป็นภาวะที่มีอาการเศร้าหมอง หมดแรงจูงใจ และสิ้นหวังอย่างต่อเนื่อง ซึ่งความรุนแรงของอาการอาจทำให้ผู้ป่วยไม่สามารถทำกิจกรรมต่างๆ ได้ตามปกติ ส่งผลต่อความสัมพันธ์ การทำงาน และสุขภาพโดยรวม
อาการหลักของโรคซึมเศร้าแบบรุนแรง มีลักษณะอาการที่หลากหลาย และอาจส่งผลต่อแต่ละคนในรูปแบบที่แตกต่างกัน แต่อาการหลักๆ ที่มักพบได้ในผู้ป่วยโรคนี้ ได้แก่ ความรู้สึกเศร้าหมองหรือหดหู่ การสูญเสียความสนใจในกิจกรรมต่างๆ ความเปลี่ยนแปลงของพฤติกรรมการนอนและการกิน ความเหนื่อยล้าและอ่อนเพลีย ความคิดเชิงลบ
หรือคิดถึงการทำร้ายตัวเอง
2.โรคซึมเศร้าแบบเรื้อรัง (Persistent Depressive Disorder - PDD) เป็นภาวะซึมเศร้าที่ยาวนานและต่อเนื่องกว่าปกติ โดยอาการอาจไม่รุนแรงเท่าโรคซึมเศร้าแบบรุนแรง(Major Depressive Disorder - MDD) แต่ความต่อเนื่องของอาการทำให้ผู้ป่วยรู้สึกเบื่อหน่าย หมดหวัง และอ่อนเพลียในการดำเนินชีวิตในระยะยาว โดยอาการจะต้องมีอยู่ติดต่อกันอย่างน้อย 2 ปี ในผู้ใหญ่ หรือ 1 ปีในเด็ก มักจะเป็นอาการซึมเศร้าแบบเบาๆ แต่ต่อเนื่องและคงอยู่ตลอดเวลา อาการที่พบบ่อย ได้แก่ ความรู้สึกเศร้าต่อเนื่อง ผู้ป่วยอาจไม่มีแรงจูงใจในการทำกิจกรรมต่างๆ ผู้ป่วยบางคนอาจมีน้ำหนักลดลงเนื่องจากขาดความอยากอาหาร ในขณะที่บางคนอาจมีน้ำหนักเพิ่มขึ้นจากการกินมากเกินไป ความเหนื่อยล้าเรื้อรัง ความอ่อนเพลียเป็นอีกหนึ่งอาการที่พบได้บ่อยในผู้ป่วยโรคซึมเศร้าแบบเรื้อรัง แม้ว่าจะไม่ได้ทำกิจกรรมหนักหรือออกแรงมากนัก ความยากลำบากในการจดจ่อหรือการตัดสินใจ อาการซึมเศร้าเรื้อรังอาจส่งผลกระทบต่อความสามารถในการจดจ่อกับงาน การคิดอ่าน หรือการตัดสินใจ ทำให้ผู้ป่วยมีปัญหาในการทำงานหรือการใช้ชีวิตประจำวัน มองโลกในแง่ลบเกี่ยวกับตัวเอง อนาคต หรือโลกภายนอก ซึ่งอาจทำให้รู้สึกว่าชีวิตไม่มีความหมายหรือขาดความหวังในการฟื้นฟูสภาพจิตใจ
อย่างไรก็ตาม โรคซึมเศร้าทั้งสองประเภท เป็นภาวะทางจิตที่มีผลกระทบรุนแรงต่อชีวิตของผู้ป่วย แต่ด้วยความเข้าใจที่ถูกต้อง การรักษาที่เหมาะสมและการสนับสนุนจากคนรอบข้าง ผู้ป่วยสามารถฟื้นฟูและกลับมามีชีวิตที่ดีขึ้นได้ การรับรู้และยอมรับปัญหานี้เป็นขั้นตอนแรกที่สำคัญในการเผชิญกับความท้าทายทางจิตใจ และช่วยให้ผู้ป่วยมีโอกาสในการรักษาและฟื้นตัวอย่างมีประสิทธิภาพ การบำบัดและการดูแลอย่างต่อเนื่องจากคนรอบข้างก็มีความสำคัญมากในการช่วยให้ผู้ป่วยฟื้นฟูสุขภาพจิตและกลับมาใช้ชีวิตได้อย่างเต็มที่ และมีความสุข
อีกครั้ง
โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น
1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์
2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี
3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี