นายแพทย์ทวีชัย วิษณุโยธิน
โรคหลอดเลือดสมอง เป็นหนึ่งในสาเหตุหลักของการเสียชีวิตและความพิการที่สำคัญทั่วโลก และมีแนวโน้มเพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่องสคร.9 นครราชสีมา รณรงค์วันหลอดเลือดสมองโลก ปี 2567 โดยปีนี้มีประเด็นในการรณรงค์ว่า Together we are #Greater Than Stroke : ร่วมมือกันป้องกัน โรคหลอดเลือดสมอง โดยหากมีสัญญาณเตือน เวียนศีรษะ เดินเซอาการตาพร่ามัว ปากเบี้ยว หน้าเบี้ยว แขน ขา อ่อนแรงครึ่งซีกอย่างเฉียบพลัน ฯลฯ รีบนำผู้ป่วยส่งโรงพยาบาลโดยเร็ว ภายใน 4 ชั่วโมง 30 นาที
นายแพทย์ทวีชัย วิษณุโยธิน ผู้อำนวยการสำนักงานป้องกันควบคุมโรคที่ 9 นครราชสีมา กล่าวว่า โรคหลอดเลือดสมอง เป็นหนึ่งในสาเหตุหลักของการเสียชีวิตและความพิการที่สำคัญทั่วโลก และมีแนวโน้มเพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่อง ทั่วโลกพบว่า 1 ใน 4 ของประชากรที่มีอายุมากกว่า 25 ปีขึ้นไป
โรคหลอดเลือดสมอง แบ่งเป็น 2 ชนิดหลักๆ คือ สมองขาดเลือด และอีกชนิดหนึ่งคือ เลือดออกในสมอง ส่วนใหญ่ที่พบจะเป็นลักษณะของสมองขาดเลือด ประมาณ 80% อีก 20% จะเป็นมีเลือดออกในสมอง หรือที่เราเรียกกันง่ายๆ ว่าเส้นเลือดในสมองแตก ซึ่งเกิดขึ้นได้น้อยกว่า แต่อาการของเส้นเลือดแตกจะหนักกว่าอาการของสมองขาดเลือด โรคหลอดเลือดสมองนั้น หลายคนอาจเข้าใจว่าเกิดขึ้นเฉพาะในผู้สูงอายุเท่านั้น แต่ที่จริงแล้วสามารถเกิดขึ้นได้ในทุกกลุ่มอายุ แม้ส่วนใหญ่อาจจะเกิดในผู้สูงอายุ แต่ผู้ที่อายุน้อยกว่า 50 ปี ก็สามารถพบได้มากถึง 15% หากพบในผู้ป่วยที่อายุต่ำกว่า 40 ปี จะจัดเป็นโรคหลอดเลือดสมองในคนอายุน้อย หรือ stroke in the young
ปัจจัยเสี่ยงของโรคหลอดเลือดสมอง ได้แก่ ผู้ที่มีโรคประจำตัวได้แก่ โรคหัวใจ เบาหวาน ความดันโลหิตสูงไขมันในเลือดสูง การสูบบุหรี่ ขาดการออกกำลังกาย ภาวะเครียดโรคอ้วน
นายแพทย์ทวีชัย วิษณุโยธิน กล่าวเพิ่มเติมว่า โรคหลอดเลือดสมองสามารถป้องกันได้ โดยควบคุมระดับความดันโลหิต ระดับน้ำตาล ไขมันในเลือด และควบคุมน้ำหนักให้อยู่ในเกณฑ์ที่เหมาะสม ลดหวาน มัน ออกกำลังกายอย่างสม่ำเสมอ งดดื่มสุรา งดเครื่องดื่มที่มีแอลกอฮอล์ งดสูบบุหรี่ และงดใช้สารเสพติดทุกชนิด หลีกเลี่ยงความเครียด พักผ่อนให้เพียงพอ ตรวจสุขภาพเป็นประจำอย่างน้อยปีละ 1 ครั้ง
นอกจากวิธีป้องกันโรคหลอดเลือดสมองแล้ว ประชาชนควรรู้อาการ หรือสัญญาณเตือนของโรคหลอดเลือดสมองด้วยตนเองตามหลักการ B.E.F.A.S.T ดังนี้ B (Balance) อาการวิงเวียนศีรษะ เดินเซ เสียการทรงตัว ไม่สามารถทรงตัวได้ E (Eye) อาการตาพร่ามัว มองเห็นภาพซ้อน หรือมองไม่เห็น F (Face) ปากเบี้ยว หน้าเบี้ยวเฉียบพลัน มุมปากตก A (Arm)อาการแขน ขา อ่อนแรงครึ่งซีก ไม่มีแรงหรือชาอย่างเฉียบพลันS (Speech) พูดไม่ชัด เสียงเปลี่ยน ลิ้นแข็ง พูดไม่รู้เรื่อง พูดไม่ออกทันทีทันใด T (Time) หากมีอาการให้รีบโทรสายด่วน 1669 และนำผู้ป่วยส่งโรงพยาบาลโดยเร็ว หรือภายใน 4 ชั่วโมง 30 นาที หากไปพบแพทย์ช้า อาจเป็นอันตรายถึงแก่ชีวิต หรืออาจจะกลายเป็นโรคอัมพฤกษ์ อัมพาต ทำให้ไม่สามารถช่วยเหลือตนเองได้ หากมีข้อสงสัย สอบถามเพิ่มเติมได้ที่ สายด่วนกรมควบคุมโรค โทร. 1422
โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น
1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์
2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี
3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี