เป็นที่ทราบกันดีมานานแล้วว่า ไม่มีรัฐสภาแห่งใดในโลกจะสวยเท่ารัฐสภาของฮังการีในกรุงบูดาเปสต์ นักท่องเที่ยวที่มีโอกาสมาเยือนเมืองนี้ก็เพื่อมาชื่นชมทั้งนั้น รัฐสภาแห่งนี้เองที่ทำให้โค้งน้ำดานูบเป็นที่กล่าวขวัญและฝันถึงไปทั่วโลก รัฐสภาที่เป็นแลนด์มาร์คสำคัญของบูดาเปสต์นี้ตั้งอยู่ที่จัตุรัส Kossuth ในฝั่งเปสต์ทางทิศตะวันออกของแม่น้ำดานูบ
หลังจาก Buda, Obuda และ Pest รวมตัวกันเข้าเป็นเมืองเดียวภายใต้ชื่อ บูดาเปสต์ในปี 1873 อีก 7 ปีต่อมารัฐบาลก็ได้มีดำริที่จะตั้งรัฐสภาใหม่เพื่อแสดงให้เห็นถึงความเป็นหนึ่งเดียวของชาติโดยเลือกให้รัฐสภาแห่งใหม่หันหน้าเข้าหาแม่น้ำดานูบ รัฐบาลจึงจัดการแข่งขันประกวดแบบโดยผู้ชนะคือ Imre Steindl สถาปนิกชาวฮังการีจาก Hungarian Academy of Science อันเป็นผลมาจากแบบของเขาใกล้เคียงกับ Palace of Westminter ในลอนดอนและ Vienna City Hall ผู้ตัดสินต้องการให้รัฐสภาของฮังการีแสดงสัญลักษณ์ของความเป็นชาติยุโรปตะวันตกที่ทันสมัยใกล้เคียงกับอังกฤษ เพราะผู้แทนในสภาฮังการีมีผู้แทนสภาของอังกฤษเป็นแม่แบบ
การก่อสร้างเริ่มต้นในปี 1885 โดยคาดว่าจะเสร็จในปี 1896 เพื่อฉลองประเทศอายุ 1,000 ปี แต่กว่าที่อาคารจะเสร็จก็ปาเข้าไปปี 1902 แล้วและกว่าจะตกแต่งจนเรียบร้อยก็เข้าปี 1904 โดยที่ Imre Steindl สถาปนิกผู้ออกแบบไม่มีโอกาสได้เห็นเพราะเขาตาบอดและเสียชีวิตไปก่อน การก่อสร้างอาคารที่แสนจะยิ่งใหญ่และเป็นความภาคภูมิใจของคนทั้งชาตินี้ใช้คนมากถึงหนึ่งแสนคน ใช้อิฐมากกว่า40 ล้านชิ้น ใช้หินมีค่ามากกว่าล้านชิ้น และใช้ทองมากถึง 40 กิโลกรัมในการตกแต่ง อาคารรัฐสภาถูกออกแบบตามแนวทางสถาปัตยกรรมแบบ Gothic Revival หรือแนวทางศิลปะแบบโกธิคของคริสต์ศตวรรษที่ 17 ที่มีอังกฤษเป็นผู้นำโดยเป็นอาคารที่มีความสมมาตรทั้งสองข้างและมีโดมตรงกลาง นอกจากความสมมาตรภายนอกแล้ว ภายในยังสมมาตรกันและเหมือนกันทุกประการด้วยโดยปัจจุบันยังเปิดใช้อยู่ฝั่งหนึ่งเป็นที่ประชุมสภา อีกฝั่งหนึ่งเปิดให้นักท่องเที่ยวเข้าชมและจัดประชุม
อาคารที่มีขนาด 268x123 เมตรนี้ มี 10 สนาม มีลิฟต์ 13 ตัว 27 ประตู 29 บันได และ 691 ห้องโดยที่ด้านหน้าหันเข้าหาแม่น้ำดานูบ แต่ประตูทางเข้าอยู่ทางทิศตะวันออกของอาคารส่วนที่มีชื่อเสียงมากสุดของอาคารก็คือส่วนหอประชุมกลางที่เป็นรูป 16 เหลี่ยมขนาดใหญ่เชื่อมสภาบนและสภาล่าง ภายในตกแต่งด้วยงานประติมากรรม 242 ชิ้น ประกอบด้วยรูปของผู้นำฮังการี และ Transylvanian ส่วนหน้าต่างก็เป็นตราสัญลักษณ์ของกษัตริย์ฮังการี นักท่องเที่ยวที่มีโอกาสเยือนไม่เพียงจะต้องเผื่อเวลาสำหรับสนุกสนานกับการถ่ายรูปด้านนอกที่มีหลากหลายมุมเท่านั้น ผู้ที่ซื้อบัตรเพื่อเข้าชมจะสามารถเข้าไปด้านในซึ่งจะผ่านบันไดที่ตกแต่งอย่างอลังการ ได้ชื่นชมกับภาพปูนเปียกบนเพดาน และงานประติมากรรมรูป Imre Steindl สถาปนิกผู้ออกแบบ รวมทั้งงานประติมากรรมรูปพระเจ้า Stephen I รวมทั้งได้ชื่นชมกับกระจกสีของ Miksa Roth อีกต่างหากด้วย
โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น
1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์
2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี
3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี