เทศกาลแสงไฟและศิลปะดิจิทัลประจำปีของกรุงเทพฯ “Awakening Bangkok 2024” กลับมาจัดอีกครั้งเป็นปีที่ 7 ในธีม “One Light, One Rises|ปลุกไฟย่าน เติมไฟคน” ฟื้นคืนชีวิตให้ย่านเก่า เติมไฟและสร้างแรงบันดาลใจให้กับผู้คน ระหว่างนี้จนถึงวันที่ 17 พฤศจิกายน 2567 ต่อยอดความสำเร็จจากปี 2023 จัดงานในเขตพระนครเป็นปีที่ 2 ติดต่อกันจัดแสดงศิลปกรรมไฟและศิลปะดิจิทัล 36 ชิ้น ให้นักท่องเที่ยวทั้งชาวไทยและต่างชาติได้ตื่นตาตื่นใจ เชื่อมั่น สามารถดึงดูดนักท่องเที่ยวจากทั้งในประเทศไทยและทั่วโลกให้มาเยี่ยมชมเทศกาลได้ไม่น้อยกว่าปีที่ผ่านมา ซึ่งจะก่อให้เกิดรายได้กระจายไปยังชุมชนและกระตุ้นเศรษฐกิจในพื้นที่ให้คึกคัก ผลักดันเศรษฐกิจของประเทศไทยให้เดินหน้าตามเป้าหมาย
พงศ์สิริ เหตระกูล ผู้อำนวยการเทศกาล Awakening เปิดเผยว่า “เราเชื่อว่าศิลปกรรมไฟและดิจิทัลไม่เพียงแต่ปลุกฟื้นย่านเก่า แต่ยังช่วยเติมไฟ และสร้างแรงบันดาลใจให้กับผู้คนด้วย Awakening Bangkok 2024 จึงกลับมาในธีม “One Light, One Rises|ปลุกไฟย่าน เติมไฟคน” ปีนี้เป็นปีที่ 7 ของ Awakening Bangkok และเป็นปีที่ 2 ที่จัดขึ้นในเขตพระนคร หลังจากเมื่อปี 2566 การจัดงานใน3 เส้นทางหลัก ถนนสนามไชย บำรุงเมือง และเฟื่องนคร ได้รับการตอบรับเกินคาดหมาย มียอดผู้เข้าชมสูงที่สุดนับตั้งแต่จัดงานมา ปีนี้เราจึงขยายเส้นทางไปยังพื้นที่สามยอด โดยแบ่งเป็น 4 เส้นทางเชื่อมต่อกัน เพื่อบอกเล่า 4 ธีมย่อย ได้แก่ Sustainability, Prosperity, Inclusivity และ Positivity ซึ่งจัดแสดงศิลปกรรมไฟและศิลปะดิจิทัลรวม 36 ชิ้น จากผลงานของนักออกแบบไทยและต่างชาติ รวมถึงนิสิตและนักศึกษาจากหลากหลายมหาวิทยาลัย โดยมีจุดแสดงหลัก ได้แก่ ยอดพิมานริเวอร์วอล์ก, ตลาดยอดพิมาน,มิวเซียมสยาม, สวนสราญรมย์, แพร่งภูธร,ศาลาว่าการกรุงเทพมหานคร และสวนรมณีนาถ”
ทั้งนี้ Awakening Bangkok 2024 นับเป็นอีกครั้งที่ภาครัฐและเอกชนผนึกกำลังร่วมกัน โดย กรุงเทพมหานคร, การท่องเที่ยว แห่งประเทศไทย (ททท.), สํานักงานส่งเสริมการจัดประชุมและนิทรรศการ (องค์การมหาชน) หรือ ทีเส็บ, โตโยต้า มอเตอร์ ประเทศไทย, เครื่องดื่มชเวปส์, มารีเมกโกะ ไทยแลนด์ และ สีฟ้า เนรมิตที่สุดของเทศกาลแห่งแสงสีขึ้นใจกลางกรุงเทพมหานคร เพื่อเติมสีสันให้กับเมือง รวมถึงขับเคลื่อนเศรษฐกิจทั้งในระดับจุลภาคและมหภาค โดยเฉพาะในเขตพระนครทำให้มีศักยภาพในการดึงดูดนักท่องเที่ยวมากกว่าเดิมและก่อให้เกิดการใช้จ่ายหมุนเวียนมากขึ้นในระหว่างจัดงาน สะท้อนให้เห็นถึงพลังของศิลปะที่สามารถเข้าถึงผู้คนโดยไร้ขีดจำกัด
รศ.ชัชชาติ สิทธิพันธุ์ ผู้ว่าราชการกรุงเทพมหานคร กล่าวว่า “ทุกครั้งที่ผ่านมาจะเห็นได้ว่าเทศกาลแสงสี Awakening Bangkok ได้รับการตอบรับเป็นอย่างดีจากคนกรุงเทพฯ และนักท่องเที่ยวที่สนใจทางด้านศิลปวัฒนธรรม จึงนับเป็นหนึ่งในเทศกาลเมืองที่สำคัญ ซึ่งมีส่วนช่วยผลักดันให้กรุงเทพฯ เป็นมหานครแห่งศิลปวัฒนธรรมที่ได้รับการยอมรับในระดับนานาชาติ โดยเป็นหนึ่งในหมุดหมายที่ดึงดูดประชาชนและนักท่องเที่ยวให้เข้ามาเยือนกรุงเทพฯ มากขึ้นทุกปีอย่างต่อเนื่อง สร้างความคึกคักทางเศรษฐกิจ ตลอดจนกระตุ้นให้เกิดความร่วมมือแบบบูรณาการระหว่างเมือง ชุมชน และหน่วยงานเกี่ยวข้อง เพื่อขับเคลื่อนเมืองด้วยกิจกรรมทางศิลปวัฒนธรรมที่สร้างสรรค์”
นายอาชวันต์ กงกะนันทน์ รองผู้อำนวยการภูมิภาคภาคกลาง การท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย (ททท.) กล่าวว่า “การจัดกิจกรรรม Awakening Bangkok นอกจากเป็นการส่งเสริมตลาดการท่องเที่ยวในพื้นที่กรุงเทพมหานครซึ่งเป็นจุดหมายปลายทางการท่องเที่ยวหลักที่สำคัญของประเทศไทย โดยเฉพาะการท่องเที่ยวเชิงศิลปวัฒนธรรมที่เชื่อมโยงประวัติศาสตร์และความร่วมสมัย ยังเป็นอีกหนึ่งการสร้างแรงบันดาลใจให้เกิดการเดินทาง เชื่อมโยงระหว่างพื้นที่กรุงเทพฯชั้นในและชั้นนอก กระตุ้นการใช้จ่ายและกระจายโอกาสทางเศรษฐกิจได้ทั่วถึงทุกสินค้าท่องเที่ยว และทุกกลุ่มเป้าหมาย”
เทศกาลแสงไฟและศิลปะดิจิทัลประจำปี “Awakening Bangkok 2024” เปิดให้ทุกคนเข้าชมฟรี ไปจนถึงวันที่ 17 พฤศจิกายน 2567 ตั้งแต่เวลา 18.00-23.00 น. กับหลายพิกัดบนเส้นทางถนนสนามไชย บำรุงเมือง เฟื่องนคร และย่านสามยอด โดยสามารถเดินทางได้สะดวกด้วยรถไฟฟ้าใต้ดิน MRT (สถานีสนามไชยและสถานีสามยอด) แล้วมาปลุกไฟย่าน เติมไฟคน เก็บเกี่ยวแรงบันดาลใจไปด้วยกันกับ Awakening Bangkok 2024
โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น
1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์
2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี
3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี