จับตา Orderly Network แพลตฟอร์มคริปโตสัญชาติไต้หวัน ผลงานซื้อขายกว่า 86 พันล้านดอลล่าร์ฯ ขยายลงทุนในไทย มองไทยศักยภาพศูนย์กลางคริปโตภูมิภาค
Orderly Network แพลตฟอร์ม ซื้อขายแลกเปลี่ยนสินทรัพย์ดิจิตอลทุกประเภทแบบกระจายอำนาจ ที่มีระบบโครงสร้างสภาพคล่องบนคลาวด์ที่ทันสมัยที่สุด จากการใช้คำสั่งซื้อเดียวร่วมกัน เพื่อเพิ่มประสิทธิภาพสภาพคล่องสูงสุด ลดระยะเวลาช่วงราคา Orderly Chain และยังช่วยยกระดับการโอนเหรียญ และข้อมูล ข้ามเชน ซึ่งเชื่อว่าการลงทุนสกุลเงินดิจิตอลแบบกระจายอำนาจเป็นอนาคตของคริปโต ชี้ ผลงานที่ผ่านมา Orderly Network เปิดตัว omnichain บน 8 บล็อกเชน และมียอดการซื้อขายรวมกันมากกว่า 86 พันล้านเหรียญดอลลาร์สหรัฐฯ
พร้อมเผยถึงแผนปี 2025 ตั้งเป้าหมายที่จะมียอดการซื้อขายรายวันถึง 2.5พันล้านเหรียญดอลลาร์สหรัฐ คิดเป็นอัตราเติบโต 10 เท่า ส่วนแผนลงในไทย ถ้ามีโอกาสพิจารณาอย่างแน่นอน ชี้ไทยมีศักยภาพอย่างมากในการเป็นศูนย์กลางคริปโตในภูมิภาค และการเปิดตลาดในไทยครั้งนี้ ได้บิทคับเป็นพาร์ทเนอร์ ถือเหรียญ Orderlyด้วย สามารถซื้อขายได้ที่แพทฟอร์มของบิทคับได้ ชี้ นักลงทุนหน้าใหม่ ควรลงทุนเหรียญใหญ่ที่มีศักยภาพ อย่าไปถือเหรียญเล็กๆ เพราะมีความเสี่ยงสูง
นาย แรน ยี่ (Ran Yi) หุ้นส่วนและผู้ก่อตั้งบริษัท(Co-Founder) บริษัท ออร์เดอรี่ เน็ตเวิร์ค จำกัด (Orderly Nerwork Co.,Ltd) เปิดเผยว่า Orderly Network ดำเนินธุรกิจให้บริการแพลตฟอร์ม ซื้อขายแลกเปลี่ยนสินทรัพย์ดิจิตอลทุกประเภทแบบกระจายอำนาจ (Decentralized Exchange Infrastructure) โดยส่งเสริมการซื้อขายสินทรัพย์ทุกประเภท เช่น Nasdaq บนบล็อกเชนที่มีกลุ่มนักลงทุนทั่วไปและผู้ที่ถือโทเค็นเป็นเจ้าของ ซึ่งเราเองได้ดำเนินการซื้อขายมาตั้งแต่ปีที่ผ่านมา มีมูลค่ารวมกว่า 86 พันล้านเหรียญดอลลาร์สหรัฐฯ และในขณะนี้ เรามี 8 เชนที่กำลังใช้งานอยู่ และจะขยายไปยัง Solana ภายในเดือนนี้ด้วย
ทั้งนี้ Orderly Network ยังเป็นระบบโครงสร้างพื้นฐานสภาพคล่องบนคลาวด์ที่มีความทันสมัยที่สุด เพราะเราได้ทำการปฏิวัติ DeFi หรือ ระบบการเงินแบบกระจายอำนาจ โดยการรวมการซื้อขายข้ามเชนไว้ในสมุดคำสั่งซื้อเดียวที่ใช้ร่วมกัน และ เพื่อให้การซื้อขายเป็นไปอย่างไร้ขีดจำกัด จึงได้สร้างสภาพคล่องที่ใช้ร่วมกันขึ้นเพียงที่เดียว ซึ่งช่วยทำให้สภาพคล่องมีประสิทธิภาพสูงสุด เพื่อรองรับเชนไหนที่มีสภาพคล่องต่ำ ก็จะสามารถดึงสภาพคล่องจากเชนที่มีมากกว่ามาใช้เพิ่มสภาพคล่องของตนเองได้ เพื่อให้เกิดประสิทธิภาพสูงสุด
และการใช้คำสั่งเดียวร่วมกันยังช่วยลดระยะเวลาช่วงราคา Orderly Chain ที่ถูกสร้างขึ้นบน OP Stack และยังได้มีการใช้ Celestia สำหรับการจัดเก็บข้อมูลและ LayerZero เป็นโปรโตคอลที่จะเข้ามาแก้ปัญหาและช่วยยกระดับการโอนเหรียญและข้อมูลข้ามเชน เพื่อให้มั่นใจว่าการประมวลผลธุรกรรมใด ๆ เป็นไปอย่างราบรื่น
ปัจจุบัน Orderly ให้บริการสภาพคล่องที่แข็งแกร่งในเชนหลัก เช่น Arbitrum, Base, Mantle, Ethereum Mainnet, OP, Polygon และ Solana นอกจากนี้ยังเปิดโอกาสให้บรรดานักลงทุนและการแลกเปลี่ยนต่าง ๆ สามารถเข้าถึงตลาดกว่า 50 แห่งผ่านโครงสร้างพื้นฐานการซื้อขายที่รวมเป็นหนึ่งเดียวนี้อีกด้วย
อย่างไรก็ดี คาดว่า DeFi แบบ Omnichain หรือการเงินแบบกระจายอำนาจที่จะดึงสภาพคล่องจากหลาย ๆ บล็อกเชนรวมถึงแหล่งที่มาแบบรวมศูนย์กลางเพื่อเชื่อมโยงเครือข่ายทั้งหมดเข้าด้วยกันนี้จะได้รับการยอมรับอย่างแพร่หลายในปี 2025 ด้วยความสามารถในการเสนอราคาที่ดีขึ้นและสภาพคล่องที่ลึกขึ้นจะช่วยแก้ปัญหาสำคัญที่เครือข่ายกำลังเผชิญอยู่ในปัจจุบัน นั่นคือการกระจายตัวของสภาพคล่องได้
ทั้งนี้ ความสามารถในการเข้าถึงสภาพคล่องตามความต้องการ หรือ การวางสภาพคล่องที่เราสามารถจะกำหนดให้อยู่ใน Range ที่เราต้องการได้ จะช่วยเพิ่มประสิทธิภาพการใช้เงินทุน และสร้างโอกาสในการทำกำไรจากช่องว่างระหว่างราคาตลอดจนผลตอบแทนในระบบที่มีหลาย ๆ บล็อกเชน ซึ่งจะช่วยให้ผู้ใช้สามารถเข้าถึงสภาพคล่องจาก CEX หรือการแลกเปลี่ยนสกุลเงินดิจิทัลแบบรวมศูนย์ ได้อย่างไม่มีขีดจำกัดผ่านบล็อกเชน ส่งผลให้ประสบการณ์ในการซื้อขายดียิ่งขึ้นและไม่ต้องเสี่ยงในการเก็บไว้
ในส่วนการดำเนินงานของ Orderly Networkในปี 2024 ได้เปิดตัว omnichain บน 8 บล็อกเชน และมียอดการซื้อขายรวมกันมากกว่า 86 พันล้านเหรียญดอลลาร์สหรัฐฯ ในเดือนพฤศจิกายนนี้มีผู้พัฒนา DEX มากกว่า 30 รายบน Orderly เราจะเป็นโปรโตคอลของรายการคำสั่งซื้อขายแห่งแรกและแห่งเดียวที่รวมสภาพคล่องระหว่าง Solana และ EVM chains ไว้ด้วยกัน
สำหรับแผนการดำนินงาน ในปี 2025 ตั้งเป้าหมายที่จะมียอดการซื้อขายรายวันถึง 2.5 พันล้านเหรียญดอลลาร์สหรัฐ ซึ่งคิดเป็นการเติบโตประมาณ 10 เท่าจากปัจจุบัน ซึ่งเชื่อว่าการปล่อยเชนใหม่ ๆ ออกมา การเป็นพันธมิตรกับผู้พัฒนารายใหญ่ และการเปิดให้ใช้งานแบบอิสระ ไร้ข้อจำกัดจะช่วยผลักดันการเติบโตของเราได้ และมีความเป็นไปได้ที่ประเทศไทยจะกลายเป็นศูนย์กลางของตลาดคริปโตได้ ในอนาคตได้
นอกจากนี้ ทางOrderly Network เป็นธุรกิจแบบกระจายศูนย์ที่มีทีมงานระดับโลกที่สามารถทำงานจากทั่วทุกมุมโลก พร้อมแล้วจะเปิดรับสมาชิกใหม่ๆ โดยเฉพาะสมาชิกจากประเทศไทย เพื่อมาทำงานกับเราในการขยาย DeFi และหากมีโอกาสที่เหมาะสมในการขยายสำนักงานในประเทศไทย เราก็พร้อมพิจารณาอย่างแน่นอน
นาย แรน ยี่ (Ran Yi) ผู้ก่อตั้ง Orderly Network ได้ออกมาพูดถึงการลงทุนซื้อขายสินทรัพย์ดิจิตอล หรือ คริปโต สำหรับนักลงทุนหน้าใหม่ที่ต้องการเข้ามาศึกษาตลาดคริปโต ผมแนะนำว่า ควรที่จะเลือกลงทุนกับเหรียญใหญ่ๆที่มีศักยภาพ อย่าไปลงทุนกับเหรียญคริปโตรายเล็กๆ เพราะเหรียญเล็กๆ น้อยๆ มีความเสี่ยงสูง โอกาสจะขาดทุนมีมาก สุดท้าย แนะนำว่า การลงทุนมีความเสี่ยง “อย่าลงทุนเกินกว่าที่จะยอมเสียได้” และต้องศึกษาให้ดีก่อนลงทุน อย่างไรก็ดี DeFi เป็นตลาดที่ยอดเยี่ยมและมีโอกาสในการเติบโตที่ดี แต่การเริ่มต้นจากจุดเล็ก ๆ อย่างการศึกษาหาความรู้ และค่อย ๆ ขยายพอร์ตโฟลิโอเป็นวิธีที่ปลอดภัยกว่า
และเพื่อป้องกันการหลอกหลวงจากมิจฉาชีพ แนะนำว่า เราไม่ควรเปิดเผยข้อมูลหรือรหัสส่วนตัวแก่ผู้ใด และหากมีสถานการณ์ใดที่มันดูดีเกินไป นั่นอาจจะเป็นการหลอกลวงได้ ควรอ่านข้อมูลเกี่ยวกับโปรเจกต์ที่คุณสนใจลงทุน และที่ดียิ่งกว่านั้นคือเรียนรู้การใช้งานเทคโนโลยีของโปรเจกต์นั้น ๆ ด้วย เพื่อเข้าสู่โลกคริปโตได้ง่าย ๆขึ้น ปัจจุบันจะมีคริปโตที่น่าสนใจหลายตัว เช่น การลงทุนในเหรียญมีม Meme Coins หรือสกุลเงินดิจิทัลที่สร้างจากเรื่องตลกบนอินเทอร์เน็ตจนเป็นกระแส จะสนุกและไม่มีความซับซ้อนเหมือนโปรเจกต์ DeFi แบบดั้งเดิม แต่อย่างไรก็ตาม ทุกการลงทุนย่อมมีความเสี่ยง เราจึงต้องมีความรอบคอบอยู่เสมอ
-(016)
โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น
1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์
2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี
3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี