เจ็บหน้าอก หายใจไม่อิ่มเหนื่อยง่าย แบบนี้จะเป็นโรคหัวใจไหม!! ก่อนจะคิดไปไกล ลองมาเช็คกันก่อน เพราะอาการที่คุณเป็นอาจแค่มาจากกล้ามเนื้อหน้าอกทำงานไม่เต็มที่หรือไม่มีประสิทธิภาพ
เพ็ญพิชชากร แสนคำ นักกายภาพบำบัดจาก คลินิกกายภาพบำบัดอริยะ ชั้น 1 ไลฟ์เซ็นเตอร์ (คิวเฮ้าส์ ลุมพินี) มาให้ข้อมูลเรื่องนี้ว่า มีหลายเคสที่เข้ามาปรึกษาด้วยอาการต่างๆ เหล่านี้ คือ บางครั้งรู้สึกหน้าชาๆ อ้าปากกว้างไม่ได้ ชาๆ ล้าๆตามแขนและมือ ตื่นเช้ามา มือและนิ้วแข็ง ปวดๆ ตึงๆ ตามข้อนิ้วจุกแน่นๆ ตรงลิ้นปี่ อาการเหมือนกรดไหลย้อน เวลาหายใจลึกๆ จะเสียวแปล๊บๆ ตรงใต้สะบัก ปวดตึงร้าวมาข้างกกหู ตึงต้นคอด้านหน้าเหนื่อยง่าย หายใจไม่อิ่ม หรืออึดอัดในอก เหมือนใครเอามือมากดอกไว้
บางคนเข้าใจว่าตัวเองจะเป็นโรคหัวใจ หรือเป็นกรดไหลย้อนไหมแต่ยังไม่ต้องตกใจ เพราะอาการเหล่านี้อาจเกิดจากกล้ามเนื้อหน้าอกมัดลึก ซึ่งเป็นกล้ามเนื้อที่ใช้ในการกางและยกชายโครง เพื่อให้ปอดขยาย ซึ่งหากกล้ามเนื้อเหล่านี้หดสั้น เกร็งรั้งก็มีผลทันทีต่อการหายใจ ปอดจะขยายลำบาก เหมือนหายใจไม่เข้า หรืออาจแน่นๆ หน้าอกหรือแม้แต่อาการเสียวแปล๊บ ลึกๆ นั้น ก็มาจากกล้ามเนื้อใต้สะบัก (Serratus Posterior Superior muscle) หรือใต้ชายโครง (Serratus Anterior muscle) หดเกร็งค้างอยู่
เราอาจตกใจเกรงจะเป็นโรคหัวใจ แต่มีเคล็ดลับแยกง่ายๆ ว่าเราเป็นที่กล้ามเนื้อ หรือเป็นโรคหัวใจกันแน่ หากอาการที่เป็น เราสามารถระบุตำแหน่งของร่างกายได้อย่างชัดเจนว่าอยู่ตรงไหน นั่นคืออาการของกล้ามเนื้อ แต่หากเป็นความไม่ชัดเจนว่าปวดลึกๆ ส่วนไหน หรือจี๊ดตรงไหน อาจต้องปรึกษาแพทย์ และตรวจวินิจฉัยเพิ่มเติม โรคหัวใจส่วนใหญ่จะรู้สึกหนักตรงหน้าอก เหมือนมีเท้าช้างเหยียบตรงหน้าอกไว้ จะหายใจไม่ออก จะรู้สึกได้ขนาดนั้นเลย
สาเหตุหลักที่ทำให้มีอาการดังที่กล่าวมา เป็นจากการใช้งานร่างกายที่อยู่ในท่าทางที่ผิดโดยเฉพาะท่านั่ง หลังค่อม ไหล่ห่อคอยื่น ก้มใช้โทรศัพท์ หรือคอมพิวเตอร์กอดอก หรือแม้แต่ท่านอนขดในตอนกลางคืน ท่าทางเหล่านี้จะทำให้กล้ามเนื้อด้านหน้าหดสั้น ยึดติด ดึงให้ชายโครงพับกดลงด้านหน้า หลังจะโก่งงอ นานวันเข้าการหายใจจะสั้นถี่ กล้ามเนื้อที่ใช้ในการหายใจต้องทำงานหนัก เพื่อจะยกชายโครงขึ้น จนเกิดปัญหาดังกล่าวตามมา
การแก้ไข เบื้องต้นเมื่อรู้ตัว ให้ยืดหลัง ตั้งตัวตรง อยู่ในท่าที่ถูกต้อง ไม่ก้ม จนหลังค่อม/ไหล่งุ้มถ้าต้องทำงานต่อเนื่องนาน ควรยืดตัว หมุนหัวไหล่ไปด้านหลังเพื่อให้กล้ามเนื้อได้ขยับ ปรับสมดุลไปด้วย ขณะใช้งาน เพียงเท่านี้ก็สามารถป้องกันอาการดังกล่าวได้แต่หากคนที่เป็นสะสมมานาน อาจจำเป็นต้องรักษา คลายกล้ามเนื้อเพิ่มความยืดหยุ่นให้ข้อต่อหลัง และชายโครง กระตุ้นการหายใจ และการขยายตัวของปอด ซึ่งทั้งหมดคือการปรับโครงสร้างร่างกาย เป็นการรักษาที่ต้องอาศัยความเชี่ยวชาญเฉพาะทางของนักกายภาพบำบัด
โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น
1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์
2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี
3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี