นายแพทย์ภาณุมาศ ญาณเวทย์สกุล
กรมควบคุมโรค กระทรวงสาธารณสุข เตือนประชาชนโดยเฉพาะผู้ปกครองที่มีบุตรหลานเด็กเล็กและผู้สูงอายุให้เฝ้าระวังสังเกตอาการป่วยระบบทางเดินหายใจโดยเฉพาะโรคไข้หวัดใหญ่ ปัจจุบันแนวโน้มผู้ป่วยไข้หวัดใหญ่เพิ่มขึ้นเล็กน้อย และจำนวนผู้ป่วยยังคงสูงกว่าช่วงเวลาเดียวกันในปี พ.ศ. 2566
นายแพทย์ภาณุมาศ ญาณเวทย์สกุล อธิบดีกรมควบคุมโรคกล่าวว่า ในช่วงฤดูหนาวมักพบการระบาดของกลุ่มโรคติดต่อระบบทางเดินหายใจโดยเฉพาะโรคไข้หวัดใหญ่ ข้อมูลจากการเฝ้าระวังโรคไข้หวัดใหญ่ จากระบบเฝ้าระวังโรคดิจิทัล (DigitalDisease Surveillance : DDS) กองระบาดวิทยา ตั้งแต่วันที่ 1 มกราคม-30 พฤศจิกายน 2567 พบผู้ป่วย 630,786 ราย อัตราป่วย 971.75ต่อประชากรแสนคน มีรายงานผู้เสียชีวิต 47 ราย อัตราป่วยตาย 0.008 กลุ่มที่พบอัตราป่วยต่อประชากรแสนคนสูงสุด ได้แก่ กลุ่มอายุ 0-4 ปี (3,269.93)รองลงมาเป็นกลุ่มอายุ 5-14 ปี (2,807.27) และกลุ่มอายุ 15-24 ปี (807.57) ตามลำดับ โดยข้อมูลจากการเฝ้าระวังเชื้อก่อโรคไข้หวัดใหญ่พบว่าเชื้อที่เป็นสาเหตุการระบาดส่วนใหญ่เป็นเชื้อไวรัสไข้หวัดใหญ่ชนิด A/H1N1 พื้นที่ที่มีอัตราป่วยต่อประชากรแสนคนสูงสุด คือ ภาคกลาง (1,243.11)รองลงมา คือ ภาคใต้ (978.71)ภาคเหนือ (750.43) และภาคตะวันออกเฉียงเหนือ (740.84)
“ปี พ.ศ. 2567 พบผู้ป่วยโรคไข้หวัดใหญ่สะสมในระบบเฝ้าระวังโรค (DDS) สูงกว่าผู้ป่วยสะสมในปีพ.ศ. 2566 ในช่วงระยะเวลาเดียวกันถึง 1.5 เท่า และปัจจุบันภาพรวมของประเทศเริ่มมีแนวโน้มเพิ่มขึ้นเล็กน้อย เมื่อพิจารณาผู้ป่วยรายสัปดาห์ และจำแนกรายภาค พบว่า ผู้ป่วยโรคไข้หวัดใหญ่มีแนวโน้มเพิ่มขึ้น โดยเฉพาะในภาคกลางและภาคใต้ และยังคงพบการระบาดเป็นกลุ่มก้อนของโรคติดต่อทางเดินหายใจอย่างต่อเนื่อง โดยเฉพาะในโรงเรียน และเรือนจำ นอกจากนี้ ยังพบการระบาดมากขึ้นในศูนย์ดูแล/ฟื้นฟูผู้สูงอายุและสถานสงเคราะห์ ดังนั้น ในฤดูหนาวนี้ซึ่งมักจะเป็นฤดูกาลระบาดของโรคไข้หวัดใหญ่และโรคระบบทางเดินหายใจอื่นๆ จึงมีโอกาสที่จะพบผู้ป่วยและการระบาดเป็นกลุ่มก้อนของโรคไข้หวัดใหญ่และโรคระบบทางเดินหายใจมากขึ้น”
ทั้งนี้ อธิบดีกรมควบคุมโรค กล่าวแนะนำสำหรับประชาชนทั่วไป สามารถป้องกันได้ด้วยการปฏิบัติตามคำแนะนำของโรคติดต่อระบบทางเดินหายใจอื่นๆ ดังนี้ 1.ล้างมือบ่อยๆ ด้วยน้ำและสบู่ หรือใช้เจลแอลกอฮอล์ทำความสะอาดมือ 2.เลี่ยงการนำมือที่ไม่สะอาดมาสัมผัสจมูก ปาก หรือตา 3.ไม่ใช้ของใช้ส่วนตัวร่วมกับผู้อื่น เช่น แก้วน้ำช้อน ส้อม 4.หมั่นเช็ดถูทำความสะอาดของเล่นเด็กเป็นประจำ โดยเฉพาะหลังพบเด็กป่วย 5.เลี่ยงการสัมผัสใกล้ชิดผู้ป่วยโรคระบบทางเดินหายใจ และ 6.บุคคลกลุ่มเสี่ยงโรครุนแรง ได้แก่ผู้สูงอายุ 65 ปีขึ้นไป ผู้มีโรคประจำตัว (เช่น โรคหอบหืด โรคหัวใจ และโรคเบาหวาน) หญิงตั้งครรภ์ และเด็กอายุต่ำกว่า 5 ปี เป็นต้น ควรได้รับการฉีดวัคซีนป้องกันโรคไข้หวัดใหญ่ เพื่อลดความรุนแรงของโรค และการเสียชีวิต
ส่วน คำแนะนำสำหรับผู้ป่วย คือ 1.แม้จะมีอาการไม่มาก ควรหยุดพักรักษาที่บ้าน 3-7 วัน หรือจนกว่าจะหายเป็นปกติ 2.สวมหน้ากากอนามัยทุกครั้งเมื่อต้องใกล้ชิดคลุกคลีกับผู้อื่น 3.ใช้กระดาษทิชชูหรือผ้าเช็ดหน้าปิดปาก ปิดจมูกทุกครั้ง เวลาไอ จาม 4.หมั่นล้างมือบ่อยๆ ด้วยน้ำและสบู่หรือเจลแอลกอฮอล์ล้างมือ และ 5.หากผู้ป่วยอาการไม่ดีขึ้น เช่น หอบเหนื่อย ซึมลง รับประทานอาหารได้น้อย ควรรีบพาไปพบแพทย์โดยเร็ว หากต้องการข้อมูลเพิ่มเติมสามารถสอบถามได้ที่สายด่วนกรมควบคุมโรค โทร. 1422
โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น
1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์
2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี
3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี