ในช่วงเทศกาลปีใหม่ของปี 2568 การท่องเที่ยวไปยังประเทศญี่ปุ่นเพื่อไหว้พระและศาลเจ้าเป็นกิจกรรมที่น่าสนใจและเป็นวิธีที่ดีในการเริ่มต้นปีใหม่ด้วยความสงบและมงคล โปรแกรมที่เป็นที่นิยมของคนไทย ณ มหานครโตเกียว เมืองหลวงของญี่ปุ่นก็น่าจะเป็น วัดเซ็นโซจิ (Senso-ji Temple) หรือ วัดอาซากุสะ นับเป็นวัดที่เก่าแก่ที่สุดในโตเกียว เป็นที่รู้จักกันดีในฐานะศูนย์กลางทางศาสนาและวัฒนธรรม คุณสามารถเริ่มต้นการเที่ยวของคุณด้วยการไหว้พระขอพรให้มีสุขภาพแข็งแรงและโชคดีตลอดปี ต่อด้วย ศาลเจ้าเมจิ (Meiji Shrine) เป็นศาลเจ้าชินโตขนาดใหญ่ ที่สำคัญในโตเกียว สร้างขึ้นเพื่อเพื่ออุทิศถวายแด่ สมเด็จพระจักรพรรดิเมจิและจักรพรรดินีโชเก็น ที่นี่สามารถสัมผัสกับบรรยากาศธรรมชาติที่เงียบสงบและขอพรให้ชีวิตมีความสุขสมหวัง
เมืองเกียวโต ก็เป็นอีกเมืองที่คนไทยนิยมไปเที่ยว ตั้งอยู่ในภูมิภาคคันไซซึ่งอยู่บนเกาะฮนชู เกาะที่ใหญ่ที่สุดของประเทศญี่ปุ่น ก็มี วัดคินคะคุจิ
(Kinkaku-ji) หรือ วัดทองคำ เป็นหนึ่งในวัดที่มีชื่อเสียงที่สุดในญี่ปุ่น ด้วยอาคารที่ปิดทองคำตั้งอยู่กลางน้ำ เป็นสถานที่ที่เหมาะแก่การไหว้พระและถ่ายรูป รวมทั้ง วัดคิโยมิซุ (Kiyomizu-dera) เป็นวัดที่ตั้งอยู่บนเขา มีระเบียงไม้ที่สามารถชมวิวของเมืองเกียวโตได้อย่างงดงาม ที่นี่คุณสามารถขอพรให้มีความสำเร็จในทุกด้านของชีวิต
ส่วนเมืองนารา เป็นเมืองเล็กๆ แต่เต็มไปด้วยประวัติศาสตร์อันยิ่งใหญ่ โดยอยู่ห่างจากเมืองเกียวโตไปทางทิศใต้ประมาณ 40 กม. และห่างจากนครโอซาก้าไปทางทิศตะวันออกประมาณ 35 กม. ที่เมืองนารา จะมี วัดโทไดจิ (Todai-ji) เป็นวัดพุทธที่มีพระพุทธรูปไดบุตสึขนาดใหญ่ เป็นวัดที่มีความสำคัญทางประวัติศาสตร์และศาสนา คุณสามารถไหว้พระขอพรเพื่อความสงบและการเจริญรุ่งเรือง รวมทั้ง วัดคาซูกะ (Kasuga Taisha) เป็นศาลเจ้าชินโตที่มีชื่อเสียงในเมืองนารา มีโคมไฟนับพันดวงที่สร้างบรรยากาศที่งดงามและเงียบสงบ เหมาะสำหรับการไหว้พระและขอพร ส่วนใครที่ไป นครโอซาก้า ก็ต้องไปไหว้ที่ วัดชิเทนโนจิ (Shitenno-ji) เป็นวัดพุทธที่เก่าแก่ในญี่ปุ่น ที่นี่คุณสามารถไหว้พระขอพรให้มีความสุขและความเจริญรุ่งเรือง
นากาโน่…หลังคาแห่งญี่ปุ่น
สำหรับการท่องเที่ยวไหว้พระรับปีใหม่ 2568 ที่จังหวัด นากาโน่ (Nagano) ตั้งอยู่ในภูมิภาคชูบุของญี่ปุ่น ถือเป็นหนึ่งในแหล่งท่องเที่ยวที่มีความหลากหลายทั้งด้านวัฒนธรรม ประวัติศาสตร์ และธรรมชาติ ไม่ว่าจะเป็นคนรักการผจญภัย ผู้ที่ชื่นชอบการท่องเที่ยวเชิงวัฒนธรรม หรือเพียงแค่ต้องการพักผ่อนในบรรยากาศเงียบสงบ
เมืองนากาโน่เป็นที่รู้จักในฐานะ “หลังคาแห่งญี่ปุ่น” เนื่องจากมีภูเขาที่สูงที่สุดในประเทศ รวมถึงภูเขาแอลป์ญี่ปุ่น ที่เป็นที่นิยมในหมู่นักปีนเขาและนักสกี ในฤดูหนาว คุณสามารถเพลิดเพลินกับการเล่นสกีและสโนว์บอร์ดที่รีสอร์ทชั้นนำ เช่น โนริคุระ และ ฮาคุบะ ซึ่งเคยเป็นสถานที่จัดโอลิมปิกฤดูหนาวปี 1998 สำหรับผู้ที่ต้องการพักผ่อน นากาโน่ มีแหล่งออนเซ็น (Onsen) หรือบ่อน้ำพุร้อนที่มีชื่อเสียงหลายแห่ง เช่น โนโซวะ ออนเซ็น (Nozawa Onsen) ที่มีบรรยากาศเงียบสงบและธรรมชาติที่งดงาม การแช่ออนเซ็นไม่เพียงแต่ช่วยผ่อนคลายกล้ามเนื้อ แต่ยังเป็นการสัมผัสวัฒนธรรมการผ่อนคลายแบบญี่ปุ่น นอกจากนี้ นากาโน่ ยังมีอาหารท้องถิ่นที่เป็นเอกลักษณ์ เช่น โซบะ (Soba) ที่ทำจากบัควีท และ อุเมะโบชิ (Umeboshi) หรือบ๊วยดอง นอกจากนี้ยังสามารถลองสาเกญี่ปุ่นที่ผลิตในท้องถิ่นซึ่งมีรสชาติที่หลากหลายและนุ่มนวล
เมืองนากาโน่ยังมีวัดและศาลเจ้าที่มีความสำคัญทางศาสนาและประวัติศาสตร์ วัดเซนโคจิ (Zenko-ji Temple) เป็นหนึ่งในวัดพุทธที่เก่าแก่ที่สุดในญี่ปุ่น และเป็นที่นิยมสำหรับผู้ที่ต้องการขอพรในเรื่องต่างๆ ผู้คนมักจะมาไหว้พระเพื่อขอพรในช่วงปีใหม่ นอกจากนี้ยังมี ศาลเจ้าซุวะ (Suwa Taisha) ซึ่งเป็นศาลเจ้าชินโตที่มีประวัติศาสตร์ยาวนานกว่า 1,200 ปี ศาลเจ้าชิกะ (Shiga Shrine) ตั้งอยู่ใกล้กับเขตอุทยานแห่งชาติโจชิเน็ตสุ-โคเก็น ซึ่งเป็นสถานที่ท่องเที่ยวทางธรรมชาติที่งดงาม ศาลเจ้านี้เป็นที่นิยมในหมู่นักท่องเที่ยวที่มาเพื่อขอพรเรื่องความปลอดภัยและการเดินทาง
เมืองนากาโน่ เป็นเมืองที่พัฒนาขึ้นโดยมีวัดเซนโคจิเป็นศูนย์กลาง แม้ในปัจจุบันความเจริญรุ่งเรืองที่แผ่ขยายออกมาจากวัดก็ยังหลงเหลือให้เห็นจากบรรยากาศคึกคักรื่นรมย์บนถนนหน้าวัด ที่ตลอดสายเรียงรายไปด้วยร้านอาหารและขนมอร่อย ร้านของฝากของที่ระลึกมากมาย มีร้านขายสินค้าท้องถิ่น รวมถึงคาเฟ่เก๋ๆให้นั่งเล่นเย็นใจ นอกจากนี้บริเวณถนนหน้าวัดยังเป็นสถานที่จัดเทศกาลประจำปีหลายงาน เช่น งานทศกาลโคมไฟ (นากาโน่โทเมียวมัตสึริ) งานเทศกาลดอกไม้ (ฮานะไคโร) และอื่นๆอีกมากมาย ทำให้วัดเป็นศูนย์กลางของการท่องเที่ยวและกิจกรรมทางวัฒนธรรม
วัดเซนโคจิ..แสงแห่งศรัทธาในเมืองนากาโน่
ถ้าคุณเป็นคนที่ชื่นชอบในวัฒนธรรม ศาสนาและความเก่าแก่ต้องมาที่ วัดเซนโคจิ (Zenko-ji Temple) ข้อมูลจาก เว็บไซต์แนะนำการท่องเที่ยวประจำจังหวัดนากาโน่ประเทศญี่ปุ่นโดยสมาคมส่งเสริมการท่องเที่ยวจังหวัดนากาโน่ แสดงว่าวัดเซนโคจิ เป็นวัดคู่บ้านคู่เมืองของนากาโน่ที่มีความสำคัญในประวัติศาสตร์ศาสนาพุทธในประเทศญี่ปุ่น ในฐานะที่ เป็นวัดพุทธเก่าแก่ที่สร้างขึ้นตั้งแต่ราวศตวรรษที่ 7 (หรือประมาณ 1,400 ปีก่อน) และเป็นที่ประดิษฐานพระพุทธรูปองค์แรกที่เข้ามาในประเทศญี่ปุ่น ที่ถูกนำเข้ามาจากอินเดีย เนื่องจากเป็นวัดที่ไม่แบ่งแยกชนชั้น นิกายและไม่จำกัดความศรัทธาของสตรีในพุทธศาสนา วัดเซนโคจิจึงเป็นสถานที่ที่ดึงดูดสาธุชนผู้เลื่อมใสจากทั่วสารทิศในประเทศญี่ปุ่น จนมีคำกล่าวโบราณของญี่ปุ่นที่ว่า “เป็นวัดที่ต้องไปให้ได้ครั้งหนึ่งในชีวิต”
วัดเซนโคจิมีประวัติศาสตร์ที่ยาวนาน มีพระอมิตาพุทธสามพระองค์เป็นพระประธานของวัด เป็นที่ประดิษฐานพระพุทธรูปองค์แรกที่เข้ามาในประเทศญี่ปุ่นและน่าจะเป็นพระพุทธรูปที่เก่าแก่ที่สุดในประเทศญี่ปุ่น โดยพระพุทธรูปของจริงนั้นจะเปิดให้ชมทุกๆ 6 ปี ในระยะเวลาไม่กี่สัปดาห์ ซึ่งในรอบถัดไปที่จะเปิดเป็นปี ค.ศ.2027
นอกจากวัดเซนโคจิจะมีความสำคัญอย่างยิ่งในประวัติศาสตร์ญี่ปุ่นแล้ว วัดเซนโคจิ ยังมีบทบาทสำคัญในความสัมพันธ์ไทยญี่ปุ่นด้วย เนื่องจากในปี ค.ศ.1937 ประเทศไทยได้มอบพระพุทธรูปปางมารวิชัยให้แก่ประเทศญี่ปุ่นเนื่องในโอกาสครบรอบ 50 ปี ความสัมพันธ์ทางการทูตไทยญี่ปุ่น โดยได้นำมาประดิษฐาน ณ วัดเซนโคจิแห่งนี้ และได้กลายมาเป็นศูนย์รวมทางจิตใจของคนไทยในนากาโน่มาจนถึงปัจจุบัน
พระอารามหลักของวัดเซนโคจิได้รับการสร้างขึ้นใหม่ในช่วงกลางสมัยเอโดะ เป็นอารามไม้ที่ใหญ่ที่สุดในญี่ปุ่นตะวันออก ภายในตกแต่งประณีตงดงาม เคร่งขรึมแต่โอ่อ่าน่าเลื่อมใส ลึกเข้าไปด้านในบนกรอบวงกบด้านบนมีรูปพระผู้มารับวิญญาณ 25 องค์ และแท่นบูชาซึ่งเป็นที่ประดิษฐานองค์พระประธานที่สวยงามตระการตา เมื่อสักการะพระพุทธรูปจนอิ่มเอมใจกันแล้ว ขอแนะนำให้ท่านเดินลงไปชั้นใต้อาคารหลักเพื่อนำไปสู่เส้นทางที่มืดมาก (มืดยิ่งกว่าหลับตา) เวลาเดินต้องใช้มือคลำไปตามผนัง ระหว่างทางจะมีสลักประตู ที่ได้รับการขนานนามว่าเป็น “กุญแจสู่สวรรค์” (key to paradise) หากคลำพบกุญแจนี้ ว่ากันว่าจะสามารถไปสู่สวรรค์ได้
ทางเดินจะสิ้นสุดลงทางอีกฝั่งหนึ่งของห้องโถง ทางฝั่งเหนือของโถงกลางมีพิพิธภัณฑ์ประวัติศาสตร์ของวัดเซนโคจิ จัดแสดงพระพุทธรูปและเอะมะเก่าแก่หลายชิ้น รวมถึงรูปสลักของ100 สาวกราคัง (Rakan)
ส่วนบริเวณรอบๆ พระอารามหลัก จะมีสวนหย่อม รอบๆ รวมทั้งเจดีย์จูเรอิเด็น (Chureiden)หอระฆังโชโร (Shoro) พระจิโซหินทั้งหก (Roku-Jizo) เป็นต้น โดยหอพระอารามหลักนี้ได้รับการจดทะเบียนเป็นสมบัติของชาติ และมีสมบัติทางวัฒนธรรมที่สำคัญถูกเก็บรักษาอยู่มากมาย เช่น ประตูซันมง หอพระคัมภีร์ ประตูนีโอมอน เป็นต้น
บริเวณลานด้านหน้าพระอารามหลัก จะมีร้านขายเครื่องรางของวัดหรือที่เรียกว่า โอมาโมริ ซึ่งมีหลากหลายตามความจำเป็นของผู้ซื้อ เช่น เครื่องรางเพื่อป้องกันอันตรายในการเดินทาง เครื่องรางเพื่อให้สอบผ่าน เครื่องรางให้สมหวังในความรัก หรือเพื่อให้สุขภาพแข็งแรง นักท่องเที่ยวไทยนิยมซื้อหาเป็นของฝากให้แก่ญาติมิตรทางบ้าน
นอกจากนี้ ประตูซัมมง (Sanmon ) หรือประตูทางเข้าออกหลักของวัด ก็ถือเป็นอีกอาคารที่สำคัญของวัดเซนโคจิ ด้านบนนั้นจะมีพระพุทธรูปไม้สลักอยู่ 5 องค์ ปกติจะไม่เปิดให้ขึ้นไปชมนอกจากถึงพิธีกรรมเซนโคจิ โกไคโจ
ถ้าจะมาไหว้พระทำบุญ ณ วัดเซนโคจิ ขอแนะนำให้มาในตอนเช้าช่วงเวลา 06.00 น. เพราะช่วงนี้ ทางวัดจะมีพิธีที่ปฎิบัติมาตลอด 1,400 ปีคือ การทำวัตรเช้า ที่เป็นพิธีที่ปฏิบัติมาตลอดทั้งวัดฝั่งผู้ชายคือ วัด Zenkoji Daikanji และวัดฝั่งผู้หญิง Zenkoji Daihongan โดยวัดฝั่งผู้หญิง (Zenkoji Daihogan) จะมีภิกษุณี เจ้าอาวาสซึ่งผู้ที่จะดำรงตำแหน่งนี้ได้จะเป็นผู้ที่ต้องสืบเชื้อสายมาจากพระราชวงศ์เท่านั้น ภายในวัดมีเครื่องรางที่ใช้มือกำได้แน่น เรียกว่า “พระกษิดิครรภ์โพธิสัตว์ที่กำได้” ซึ่งเป็นที่นิยมอยู่ด้วย ส่วนทางวัดฝั่งผู้ชาย (Zenkoji Daikaiji) จะมีพิธีกรรมที่ศักดิ์สิทธิ์น่าเลื่อมใส คือ การใช้ไฟเผาแผ่นป้ายไม้คำอธิษฐาน ที่ประชาชนทุกคนได้ขอพรไว้ด้วย
พิธีเซนโคจิโกไคโจ..พิธีฉลองอย่างยิ่งใหญ่ทุก 6 ปี
พระประธานหลักซึ่งประดิษฐานในวัดเซนโคจินั้นว่ากันว่าเป็นพระพุทธรูปองค์แรกในประเทศญี่ปุ่น มีคุณค่าทางประวัติศาสตร์อย่างหาที่เปรียบไม่ได้ อย่างไรก็ตาม พระประธานหลักองค์นี้ได้รับการเก็บรักษาไว้เป็นพระพุทธรูปลับอย่างเด็ดขาด (เซตไตฮิบุสึ) ไม่เคยเปิดเผยต่อสาธารณชนนานเป็นพันปี ภายหลังจึงมีการสร้างพระพุทธรูปองค์จำลองที่เหมือนองค์จริงทุกอย่างเรียกว่า “มาเอดะจิ ฮงซอน” (Maedachi Honzon) ขึ้นเพื่อให้สาธารณชนได้สักการบูชาในพิธีใหญ่ที่จัดขึ้นทุกๆ 6 ปี (หรือ 7 ตามการคำนวณเวลาแบบญี่ปุ่น) คืองานพิธี “เซนโคจิ โกไคโจ” โดยในช่วงเวลาประมาณ 2 เดือน ประมาณเดือนเมษายนถึงพฤษภาคม งานพิธีอันศักดิ์สิทธิ์นี้จะมีผู้คนหลั่งไหลมาวัดเซนโคจิมากกว่า 7 ล้านคนเลย ซึ่งครั้งต่อไปกำหนดจัดในปี ค.ศ.2027 (พ.ศ.2570)
การท่องเที่ยวไหว้พระรับปีใหม่ที่เมืองนากาโน่เป็นอีกทางเลือกที่ดีในการเริ่มต้นปี 2568 ด้วยความมงคลและความสงบสุข นอกจากการไหว้พระแล้ว นากาโน่ยังมีธรรมชาติที่งดงามและสถานที่ท่องเที่ยวทางวัฒนธรรมที่น่าสนใจ ทำให้การเดินทางครั้งนี้เต็มไปด้วยประสบการณ์ที่น่าจดจำ
โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น
1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์
2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี
3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี