สำนักงานการวิจัยแห่งชาติ (วช.) ลงพื้นที่ติดตามความก้าวหน้าและตรวจเยี่ยมโครงการการพัฒนากลไกการใช้ประโยชน์งานวิจัยด้านการแพทย์ผ่านการสร้างแผนงานด้านเทคโนโลยีและบ่มเพาะธุรกิจนวัตกรรม นำโดย ดร.วิภารัตน์ ดีอ่อง ผู้อำนวยการสำนักงานการวิจัยแห่งชาติ พร้อมด้วยคณะผู้ทรงคุณวุฒิ วช. โดยมี รศ.ดร.ปิติวัฒน์ วัฒนชัย ผู้อำนวยการอุทยานวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี มหาวิทยาลัย เชียงใหม่, รศ.ดร.อนรรฆ ขันธะชวนะ หัวหน้าห้องปฏิบัติการวัสดุฉลาด (SMART LAB) มหาวิทยาลัยเทคโนโลยีพระจอมเกล้าธนบุรี และผศ.ดร.ทินกร ปงธิยา ม.เชียงใหม่ พร้อมคณะนักวิจัย นำเสนอและรายงานความก้าวหน้าโครงการ ณ อาคารอํานวยการอุทยานวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี มหาวิทยาลัยเชียงใหม่
ดร.วิภารัตน์ ดีอ่อง ผู้อำนวยการสำนักงานการวิจัยแห่งชาติ กล่าวว่าการบ่มเพาะนักวิจัยให้มีความพร้อมรอบด้านนับเป็นความสำคัญในการยกระดับสมรรถนะของนักวิจัย โดยเฉพาะในมิติการเป็น entrepreneur โครงการนี้ได้นำร่องการพัฒนานวัตกรรมทางการแพทย์ สู่การพึ่งพาตนเองด้านเครื่องมือแพทย์ของประเทศไทยในระยะยาว
รศ.ดร.ปิติวัฒน์ วัฒนชัย ผู้อำนวยการอุทยานวิทยาศาสตร์ฯ กล่าวว่า โครงการดังกล่าวเกิดขึ้นในเป้าหมายการก้าวเข้าสู่การเป็น World Medical Hub ซึ่งมีการคัดเลือกให้นวัตกรรมทางการแพทย์ของไทย เป็นโอกาสนำร่อง สร้างโอกาสลดการนำเข้าทางเครื่องมือแพทย์ เพื่อให้ภาครัฐสามารถจัดสรรสวัสดิการสุขภาพแก่ประชาชนได้อย่างกว้างขวาง
ภายใต้โครงการนี้ วช. ได้สนับสนุนการพัฒนาศักยภาพกลุ่มวิจัยด้านเครื่องมือแพทย์ ผ่านกลไกความร่วมมือระหว่างอุทยานวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี มหาวิทยาลัยเชียงใหม่ (STeP) และมหาวิทยาลัยเทคโนโลยีพระจอมเกล้าธนบุรี (มจธ.) โดยริเริ่มโครงการพัฒนาศักยภาพนักวิจัยด้านเครื่องมือแพทย์ เสริมสร้างขีดความสามารถในการพัฒนานวัตกรรมทาง
การแพทย์ของประเทศ โดยมุ่งเน้นการเตรียมความพร้อมทั้งด้านเทคโนโลยีและทักษะทางธุรกิจ เพื่อผลักดันงานวิจัยสู่การใช้งานเชิงพาณิชย์อย่างเป็นระบบและเป็นมาตรฐาน
โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น
1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์
2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี
3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี