ในปี 2568 ธุรกิจจะต้องเผชิญกับความท้าทายทางเศรษฐกิจหลายประการ เช่น การชะลอตัวของเศรษฐกิจโลก ความไม่แน่นอนทางการเมือง และการเปลี่ยนแปลงในพฤติกรรมผู้บริโภค เพื่อรับมือกับสถานการณ์เหล่านี้ สมาคมการตลาดแห่งประเทศไทยจัดงานวันนักการตลาด Thailand Marketing Day 2025 “The Next Marketing Battle จัดทัพฝ่าสมรภูมิการตลาดยุคใหม่” สุดยอดฟอรั่มการตลาดแห่งปีซึ่งเป็นการรวมตัวครั้งยิ่งใหญ่ของผู้นำระดับประเทศทั้งภาครัฐและเอกชนที่จะมาเผยกลยุทธ์การรับมือทุกความท้าทายในปี 2025
ข้อมูลจาก ดร.บุรณิน รัตนสมบัติ นายกสมาคมการตลาดแห่งประเทศไทย เปิดเผยว่า “ท่ามกลางสภาวการณ์ปัจจุบันที่โลกและประเทศไทยกำลังเผชิญกับความท้าทายในหลากหลายมิติ ทั้งเศรษฐกิจที่ชะลอตัวและเติบโตต่ำกว่าศักยภาพ ปัญหาภูมิรัฐศาสตร์ ภูมิเศรษฐศาสตร์ สภาพคล่องทางการเงิน อัตราดอกเบี้ยและหนี้ครัวเรือนที่สูง ภัยพิบัติทางธรรมชาติจากการเปลี่ยนแปลงสภาวะอากาศ การเปลี่ยนผ่านเทคโนโลยี การเข้ามาแข่งขันของผู้เล่นรายใหญ่จากต่างประเทศและในประเทศที่มีเทคโนโลยีสูงกว่าและต้นทุนต่ำกว่า ล้วนทำให้ทุกภาคส่วนจำเป็นต้องเตรียมตัว ปรับตัวป้องกันผลกระทบอันจะก่อให้เกิดความเหลื่อมล้ำทางสังคมซ้ำเติมเข้าไปอีก
นอกจากนี้ โลกกำลังเข้าสู่ยุคการเติบโตของกลุ่มคนรุ่นใหม่ ที่ Gen Z จะกลายเป็นกำลังหลักของคนทำงาน ส่วน Gen Alpha กำลังก้าวพ้นวัยเด็ก เข้าสู่วัยรุ่นและวัยทำงาน ขณะที่ 2025 เป็นปีเริ่มต้นของ Gen Beta ที่เกิดและเติบโตมาพร้อมกับ AI ทุกสิ่งเหล่านี้ล้วนมีผลกระทบต่อแบรนด์อย่างหลีกเลี่ยงไม่ได้
ในภาวะเช่นนี้ หลายคนอาจจะเรียกว่าเป็นจุดเปลี่ยนและอาจเป็นจุดเริ่มต้นของการเกิดสงครามทางการตลาด ที่เป็นจังหวะในการต่อสู้ ช่วงชิง แสวงหา จุดต่างและสร้างจุดร่วม ปรับตัว สร้างความได้เปรียบเชิงการแข่งขัน ทั้งแบรนด์ที่เป็นผู้นำและผู้ตาม จำเป็นจะต้องเปลี่ยน ปรับตัว โดยผสมผสานระหว่างการวางตำแหน่งสินค้า การกำหนดเลือกส่วนตลาดกำหนดยุทธศาสตร์ที่ยืดหยุ่นและจำเป็น โดยนำเทคโนโลยีมาใช้ ปรับเข้าหาพฤติกรรมผู้บริโภคที่เปลี่ยนแปลงไปอย่างรวดเร็ว ทั้งในแง่national branding , corporate branding and product branding
ถ้าการตลาดคือสงคราม “หัวใจสำคัญของสงคราม คือลูกค้า” การเข้าใจความต้องการที่แท้จริงเป็นสิ่งที่จะต้องช่วงชิงมาให้ได้ ขณะเดียวกันการใช้กำลังก็คือการใช้ทรัพยากร และบุคลากร ต้องรู้จักรุกในเวลาควรจะรุก รู้จักถอยในเวลาที่จำเป็นต้องถอย รู้จักรอคอยในเวลาที่โอกาสไม่เอื้ออำนวย เพื่อให้สามารถต่อสู้ได้นานขึ้น และเป็นกลุ่มคนที่อยู่รอด
ธุรกิจยังจำเป็นต้องปรับแนวคิดจาก Conventional Brand เป็น Sustainable Brand โดยกำหนดเป้าหมายของแบรนด์ให้เกิด Net Positive Impact ด้านธุรกิจ สังคม และสิ่งแวดล้อม และใช้หลัก Regenerative Marketing ในการปรับปรุง ฟื้นฟู ใช้นวัตกรรมอย่างต่อเนื่องเพื่อให้ธุรกิจเข้มแข็ง โลกและสังคมน่าอยู่ขึ้น
สมาคมการตลาดแห่งประเทศไทย โดยอุปนายกสมาคมฯ คือ ดร.สมชาติ วิศิษฐชัยชาญ และ ผศ.ดร.เอกก์ ภทรธนกุล ได้เปิดเผยผลสำรวจ “Marketing Trends : 2025 Way Forward” ซึ่งสะท้อนมุมมองและแนวโน้มสำคัญในแวดวงการตลาดไทยปี 2025 โดยรวบรวมข้อมูลจาก MAT CMO COUNCIL เครือข่ายผู้บริหารระดับสูงในองค์กรที่ขับเคลื่อนด้วยการตลาดจำนวน 111 ท่าน
ภาพรวมเศรษฐกิจและปัจจัยสำคัญที่ส่งผลต่อการตลาดไทยในปี 2025
จากผลสำรวจพบว่า 55% ของผู้บริหารมองว่าเศรษฐกิจไทยในปี 2025 จะไม่เติบโต และโดยรวมผู้บริหารระดับสูงคาดการณ์ว่าเศรษฐกิจจะเจริญเติบโตเพียง 1.65% ทั้งนี้ เนื่องจากปัจจัยเสี่ยงจากเศรษฐกิจโลกที่ยังคงผันผวน ส่งผลให้ความเชื่อมั่นในภาพรวมลดลงอย่างมีนัยสำคัญ ส่วนปัจจัยที่ส่งผลกระทบต่อการตลาดไทยมากที่สุด 3 อันดับแรก ได้แก่ เศรษฐกิจโลก ตามด้วยการเปลี่ยนแปลงของเทคโนโลยีดิจิทัล และความต้องการของผู้บริโภค นอกจากนั้นผู้บริหารถึง 77.6% เห็นว่าปีนี้จะไม่เพิ่มงบประมาณการตลาด โดยจะมุ่งเน้นการใช้งบไปในด้าน Content Platform เป็นหลัก ควบคู่ไปกับ Commerce Platform ซึ่งสมาคมฯ เน้นย้ำว่าการใช้งบประมาณการตลาดต้องทำ Content และ Commerce ไปพร้อมๆ กันเนื่องจากปัจจุบันผู้บริโภคเสพ Contentไปพร้อมๆ กับการจับจ่ายซื้อสินค้าออนไลน์ผ่าน Commerce Platforms ต่างๆ
นอกจากนี้ ผู้บริหารมองว่าผู้บริโภคในปี 2025 จะให้ความสำคัญกับ 3 ประเด็นหลักได้แก่ สุขภาพ เทคโนโลยีดิจิทัล คุณภาพของสินค้าและบริการตามลำดับ
สำหรับหัวใจสำคัญที่จะนำไปสู่ความสำเร็จในปี 2025 สมาคมฯ สรุปคาถาการตลาดออกมาในแนวคิด “ABCD” ประกอบด้วย
l AI : ใช้ปัญญาประดิษฐ์ AI ยกระดับ Customer Experience ผ่านการใช้ปัญญาประดิษฐ์และ Personalized Marketing สร้างความสัมพันธ์ระยะยาวกับลูกค้าและคู่ค้า
l Balance : ช้า-เร็ว ระวังหลัง สร้างสมดุลระหว่างความรวดเร็วและความรอบคอบในการดำเนินกลยุทธ์และลงทุนกับการจัดการความเสี่ยง ทั้งนี้ต้องเร็วและอยู่บนความเข้าใจผู้บริโภคอย่างแท้จริง
l Clear : ชัดเจน ไม่สะเปะสะปะวางแผนการใช้งบการตลาดอย่างมีประสิทธิภาพ ไม่หว่าน
l Data : ชิงชัยด้วยข้อมูล เก็บ วิเคราะห์ข้อมูลอย่างมีคุณภาพ เพื่อสร้างความผูกพันทางอารมณ์และความรู้สึกกับลูกค้า เพื่อที่ลูกค้าจะได้รู้สึกว่าแบรนด์เข้าใจเขาอย่างแท้จริง
มุมมองด้าน 3P : People, Planet, Profit
อีกมุมหนึ่งที่น่าสนใจจากการสำรวจคือความสำคัญของ 3P สิ่งที่นักการตลาดและผู้บริหารให้ความสำคัญขึ้นมาเป็นอันดับ 1 ในปี 2025 คือ “Profit” หรือผลกำไร รองลงมาคือ “People” สังคม ชุมชน และลูกค้า ซึ่งลดลงมาจากอันดับ 1 เมื่อปีก่อน และสุดท้ายคือ “Planet” สิ่งแวดล้อม
อย่างไรก็ตาม สมาคมการตลาดแห่งประเทศไทยย้ำว่าการตลาดในปี 2025 นั้นไม่ง่าย เพราะต้องการทั้งความยืดหยุ่น ความพร้อมรับมือ ความชัดเจน การปรับตัวอย่างรวดเร็ว แต่ระมัดระวัง เพื่อสร้างความได้เปรียบในยุคที่ทุกอย่างเปลี่ยนแปลงอย่างไม่หยุดยั้ง และธุรกิจที่สามารถผสาน 3P เข้าด้วยกันอย่างสมดุลจึงจะมีโอกาสอยู่รอดและเติบโตในระยะยาว
ผศ.(พิเศษ)ดร.อภิสิทธิ์ ฉัตรทนานนท์
กรรมการบริหารสมาคมการตลาดแห่งประเทศไทย
โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น
1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์
2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี
3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี