สสส.-ภาครัฐ-ชุมชน-โรงเรียน-ท้องถิ่น ร่วมกันยกระดับคุณภาพเด็กไทยวัยเรียนด้วยมาตรฐานการจัดการอาหารและโภชนาการ หลังพบพฤติกรรมกินจุ -ภาวะน้ำตาลเกิน- โรคอ้วน
20 มกราคม 2568 สำนักงานกองทุนสนับสนุนการสร้างเสริมสุขภาพ (สสส.) ร่วมกับมูลนิธิสร้างเสริมวิถีบริโภคอาหารเพื่อสุขภาพ (มอส.) จัดสัมมนา “การขับเคลื่อนนโยบายการพัฒนาคุณภาพการจัดการอาหารและโภชนาการในสถานศึกษา” ณ โรงแรมอมารี ดอนเมือง แอร์พอร์ต กรุงเทพฯ
น.พ.สุวรรณชัย วัฒนายิ่งเจริญชัย ประธานคณะกรรมการขับเคลื่อนยุทธศาสตร์เพื่อสร้างความเชื่อมโยงด้านอาหารและโภชนาการสู่คุณภาพชีวิตที่ดี คณะกรรมการอาหารแห่งชาติ กล่าวเปิดสัมมนา ว่า “อาหาร” คือ ปัจจัยสำคัญของประเทศสำหรับเด็กเยาวชนที่จะเติบโตในอนาคต ไทยเราเป็นประเทศที่ได้รับการยอมรับเรื่องยุทธศาสตร์ด้านการจัดการอาหารแต่เรายังใช้ไม่เต็มประสิทธิภาพ ฉะนั้นอยู่ที่เราจะให้ความสำคัญกับสถานศึกษา เป็นโอกาสที่จะสร้างเด็กเรียนดี มีความสุข การที่มีสุขภาพดีจะเกิดได้เด็กต้องได้รับอาหาร มีโภชนาการที่เหมาะสม จะทำให้เติบโตมีคุณภาพ และมีสมองที่ดี ซึ่งความท้าทายมาจากการเผชิญกับการเปลี่ยนแปลงของสภาพภูมิอากาศที่ส่งผลกระทบต่อความมั่นคงในระบบอาหารในชุมชนไทยและของทั้งโลก
ซึ่งความไม่แน่นอนที่เกิดขึ้นนี้ เด็กจึงได้รับผลกระทบในแง่ความมั่นคงทางอาหาร อีกทั้งยังมีโซเชียลมีเดีย มีโฆษณาอาหารฟาสฟู๊ดที่ขาดคุณค่าทางโภชนาการ ทำให้เด็กได้รับข้อมูลทางอาหารหรือคอนเทนท์ในเชิงการตลาด เกิดพฤติกรรมกินจุเกินความจำเป็น ได้รับปริมาณน้ำตาลเกินความจำเป็น
“ความท้าทายที่เผชิญอยู่ก็จะมีอีกด้านคือโอกาสที่จะร่วมกันสร้างระบบเปลี่ยนแปลงระบบอาหารโรงเรียนให้ยั่งยืนได้ 3 ทางคือ 1.การเปลี่ยนโรงเรียนให้เป็นแหล่งเรียนรู้การเปลี่ยนแปลง ด้านอาหารและโภชนาการ 2.ทำอนย่างไรจะเชื่อมโยงชุมชน ท้องถิ่น โรงเรียนให้เป็นเนื้อเดียวกันได้ และ 3 ลดผลกระทบของเด็กอันเนื่องมาจากเทคโนโลยีส่งผลต่อโรงเรียนอย่างไร ดังนั้น เราคาดหวังว่าอาหารเป็นสิ่งที่ครอบครัว โรงเรียน จะเรียนรู้เพื่อสร้างอนาคตเด็ก เพราะอาหารคือรากฐานของชีวิต อาหารทุกเมนูที่จัดสรรในโรงเรียน จึงเป็นเมล็ดพันธุ์ที่จะสร้างเด็กให้มีคุณภาพ" น.พ.สุวรรณชัย กล่าว
ดร.พญ.สายพิณ โชติวิเชียร ผู้อำนวยการสำนักโภชนาการ กรมอนามัย กล่าวบรรยายพิเศษ หัวข้อการแก้ปัญหาทุพโภชนาการในเด็กปฐมวัยและเด็กวัยเรียน ว่า เด็กอ้วนเป็นปัญหามากขึ้นจึงมีคณะกรรมการเรื่องโรคอ้วนในเด็กส่วนในโรงเรียน และยังต้องส่งเสริมเรื่องของสุขาภิบาลในการประกอบอาหารในโรงเรียน นับเป็นความท้าทายของประเทศไทย ผู้ปฏิบัติจึงเป็นกำลังหลักที่จะดำเนินงานนี้หมายถึงเครือข่ายในท้องที่มีความสำคัญที่จะส่งเสริมด้านโภชนาการในเด็กโรงเรียนเป็นส่วนสำคัญในการจัดการอาหาร ขณะนี้ได้เริ่มมีโมเดล “พลังสามสร้าง” คือมีนโยบาย มีภาคี และมีงบประมาณ กรมอนามัย ได้เริ่มขับเคลื่อนเรื่องนี้ เมื่อวันที่ 17 ธ.ค. 2567 ให้ประเทศ ไทยส่งเสริมโรงเรียนส่งเสริมสุขภาพวะด้านมาตรฐานสากลให้โภชนาการเป็นเรื่องที่อยู่ในวิถีชุมชน
ด้าน ดร.พิเชฐ โพธิ์ภักดี รองปลัดกระทรวงศึกษาธิการ ประธานคณะ อนุกรรมการพัฒนาการบริหารจัดการด้านอาหารและโภชนาการในสถานศึกษาและชุมชน การบรรยายพิเศษ การสร้างเด็กไทยเรียนดี มีความสุข และสุขภาพดี ว่า วันนี้กระทรวงศึกษาธิการ ได้จัดพิธีประกาศเจตนารมย์ต่อต้านการทุจริตโดยในเรื่องการทุจริตอาหารกลางวัน ไม่ได้เกิดขึ้นทุกโรงเรียน แต่มีเพียงบางโรงเท่านั้น แต่นั่นก็ถือว่าเป็นการทุจริตต่อการดูแลเด็กนักเรียน เป็นการทำลายประเทศชาติ กระทรวงศึกษาธิการ จึงประกาศที่จะต่อต้านในเรื่องนี้อย่างจริงจัง เพราะอาหารโรงเรียนอาหารนักเรียน เป็นสิ่งสำคัญที่สุดที่จะส่งเสริมเด็กไทยได้รัปทานอาหารที่ปลอดภัย รวมถึงจะมีการเปลี่ยนแปลงพฤติกรรมการรัปทานอาหารของเด็ก ปลูกฝังระเบียบวินัยของเด็ก
ขณะที่ นางจงกลนี วิทยารุ่งเรืองศรี. ประธานมูลนิธิฯ และผู้จัดการโครงการพัฒนากลไกชุมชนและท้องถิ่นในการขับเคลื่อนระบบอาหารและโภชนาการเพื่อคุณภาพเด็กวัยเรียน กล่าวว่า ความสำคัญของอาหารและโภชนการในโรงเรียน จำเป็นต้องบูรณาการด้านการสร้างแหล่งอาหารชุมชนที่ปลอดภัยมีระบบการรับรองด้านเกษตรปลอดภัย การสร้างความ รอบรู้ทางด้านอาหารและโภชนา การ การส่งเสริมพฤติกรรมด้านโภชนาการ รวมถึงการจัดทำแนวทางปฏิบัติตามมาตรฐานระบบการจัดการอาหารและโภชนาการในสถานศึกษา จากการนำร่องในโรงเรียนประถมศึกษาและขยายโอกาส 55 โรงเรียน ใน 11 จังหวัด ประกอบด้วย เชียงราย เชียงใหม่ น่าน บุรีรัมย์ สุรินทร์ ขอนแก่น ร้อยเอ็ด มหาสารคาม อุบลราชธานี นนทบุรี และ สงขลา
สำหรับการจัดสัมมนาครั้งนี้ ได้จัดทำข้อเสนอต่อภาคนโยบายเพื่อนำมาตรฐานการจัดการอาหารและโภชนาการในสถานศึกษาไปขยายผลให้กว้างขวางและครอบคลุมมากขึ้น มีการวิเคราะห์ช่องว่างที่เป็นปัญหาและอุปสรรค ออกแบบกลไกเครื่องมือ มาตรการ องค์กร และบทบาทที่ควรดำเนินการในระดับจังหวัด / ท้องถิ่น ภายใต้การบูรณาการ ทั้งแนวนอน และแนวตั้ง ที่มีเป้าหมายร่วมกัน คือลูกหลานมีสุขภาพดี เรียนดี มีความสุข เป็นอนาคตของชาติที่มีประสิทธิภาพ
-(016)
โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น
1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์
2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี
3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี