หลังเข้ารับตำแหน่งประธานาธิบดีสหรัฐฯ ในสัปดาห์ที่ผ่านมา โดนัลด์ ทรัมป์ ได้ลงนามในคำสั่งฝ่ายบริหารมากกว่า 10 คำสั่ง ที่ล้วนแล้วแต่สั่นสะเทือนแวดวงการเมืองทั้งในประเทศและต่างแดน
แต่หนึ่งในคำสั่งฝ่ายบริหารที่หลายคนให้ความสนใจ เห็นจะเป็นการลงนามคำสั่งถอดสถานะชั้นความลับของเอกสารรัฐบาล ที่เกี่ยวข้องกับการลอบสังหารอดีตประธานาธิบดี จอห์น เอฟ.เคนเนดี หรือ JFK, วุฒิสมาชิกโรเบิร์ตเคนเนดี และ มาร์ติน ลูเธอร์ คิง จูเนียร์นักต่อสู้เพื่อสิทธิมนุษยชน ซึ่งถือเป็นเหตุการณ์ที่สั่นสะเทือนประวัติศาสตร์สหรัฐฯ และยังคงเป็นประเด็นที่มีการตั้งคำถามและข้อสงสัยจากสาธารณชนอย่างต่อเนื่อง
คำสั่งของทรัมป์กำหนดให้เจ้าหน้าที่จัดทำแผนการปลดล็อกข้อมูลภายใน 15 วัน ที่อาจกลายเป็นก้าวสำคัญที่จะช่วยให้คำถามมากมายที่ยังไม่ได้รับคำตอบถูกเปิดเผยต่อสาธารณชน หลังจากทรัมป์ได้สัญญาในระหว่างการหาเสียงว่าเขาจะเปิดเผยเอกสารข่าวกรองต่างๆ ที่เป็นความลับเกี่ยวกับการลอบสังหาร JFK ประธานาธิบดีคนที่ 35 ของสหรัฐฯ ในปี 1963 ซึ่งเป็นเหตุการณ์ที่คนอเมริกันให้ความสนใจอย่างกว้างขวาง เพื่อสร้างความโปร่งใส หลังจากพยายามเปิดเผยข้อมูลดังกล่าวระหว่างเป็นประธานาธิบดีสมัยแรก แต่ถูกแรงกดดันจากสำนักข่าวกรองกลาง หรือ CIA และสำนักงานสอบสวนกลางสหรัฐฯ หรือ FBI เกี่ยวกับเหตุผลด้านความมั่นคงของชาติ จึงยอมล้มเลิกไป
การลอบสังหาร JFK ยังคงเป็นเรื่องที่น่าสนใจในสหรัฐอเมริกาและผู้คนทั่วโลก และมีทฤษฎีสมคบคิดมากมายเกี่ยวกับเหตุสะเทือนโลกครั้งนั้นทำให้ทั่วโลกจับตามองความเคลื่อนไหวครั้งนี้ของผู้นำสหรัฐฯ อย่างยิ่ง โดยเฉพาะในประเด็นที่มีการอ้างว่า เขาถูกยิงโดยมือปืนเพียงคนเดียว และหน่วยงานรัฐบาลและกระทรวงยุติธรรมสหรัฐยังคงยืนยันว่าสมมุติฐานนี้เป็นเรื่องจริงแต่ผลสำรวจระบุว่า ชาวอเมริกันหลายคนยังคงเชื่อว่าการตายของเขามีความเกี่ยวข้องกับการสมคบคิดที่กว้างขวาง
ย้อนรอยการลอบสังหาร จอห์น เอฟ. เคนเนดี
22 พฤศจิกายน 1963
ประธานาธิบดี จอห์น เอฟ. เคนเนดี หรือ JFK ถูกยิงเสียชีวิตขณะเดินทางในขบวนรถเปิดหลังคาในเมืองดัลลัส รัฐเท็กซัส โดยระหว่างที่ขบวนรถเดินทางผ่านถนน Elm Street ขณะที่JFK นั่งอยู่ในรถกับ แจ็กเกอลีน ภรรยา,จอห์น คอนนอลลี ผู้ว่าการรัฐเท็กซัส และภรรยา ได้เกิดเสียงปืนดังขึ้น 3 ครั้งโดยเคนเนดีถูกยิง 2 นัดที่บริเวณคอและศีรษะ
สิ่งที่ทำให้การลอบสังหาร JFKยังคงอยู่ในความทรงจำของผู้คนทั่วโลกคือการที่มันถูกบันทึกไว้ในภาพยนตร์สั้นที่รู้จักกันในชื่อ ฟิล์ม Zapruder ความยาว 26 วินาที ถ่ายโดย อับราฮัมซาปรูเดอร์ ช่างตัดเย็บเสื้อผ้าในดัลลัส ซึ่งบังเอิญยืนอยู่ในจุดเกิดเหตุ คลิปแสดงให้เห็นช่วงเวลาที่กระสุนถูกยิงใส่JFK ขณะเขาและแจ็กเกอลีน สตรีหมายเลข 1 กำลังนั่งรถลีมูซีน ภาพของแจ็กกี้ในชุดสูทสีชมพูที่พยายามปีนขึ้นไปบนท้ายรถเพื่อช่วยเหลือสามี กลายเป็นภาพที่ชัดเจนในจิตใจของทุกคนที่ได้เห็นนี่จึงไม่ใช่เพียงการลอบสังหารที่เกิดขึ้นต่อหน้าสาธารณชน แต่ยังเป็นครั้งแรกที่เหตุการณ์สะเทือนขวัญเช่นนี้ถูกบันทึกภาพไว้ได้อย่างชัดเจน
ลี ฮาร์วีย์ ออสวอลด์ (Lee Harvey Oswald) เป็นผู้ต้องสงสัยหลักในคดีนี้ เขาถูกจับกุมหลังจากเหตุการณ์ไม่กี่ชั่วโมง และถูกตั้งข้อกล่าวหาว่าฆ่าเคนเนดี รายงานของคณะกรรมการวอร์เรน ในปี 1964 ระบุว่า ลี ฮาร์วีย์ออสวอลด์ เป็นมือปืนเพียงคนเดียวที่ยิงJFK จากชั้น 6 ของอาคาร Texas School Book Depository โดยยิงทั้งหมด 3 นัดในเวลาอันสั้น แต่ทฤษฎีนี้ถูกตั้งคำถามอย่างหนัก ทั้งในเรื่องของจำนวนกระสุน ทิศทางการยิง และความเป็นไปได้ที่ออสวอลด์จะสามารถลงมือได้เพียงคนเดียว
สิ่งที่ทำให้ผู้คนยังสงสัยมากขึ้นคือ การที่ออสวอลด์ถูก แจ็ค รูบี ยิงเสียชีวิตหลังจากถูกจับกุมเพียง 2 วัน ทำให้ไม่มีใครได้ยินคำให้การจากเขาโดยตรง ทฤษฎีสมคบคิดที่ตามมาจึงหลากหลาย ตั้งแต่การเกี่ยวข้องของ CIA รัฐบาลคิวบา ม็อบมาเฟีย ไปจนถึงองค์กรลับหรือกลุ่มต่างๆ ที่ไม่พอใจกับนโยบายของ JFK และต้องการกำจัด JFK
ในปี 2023 พอล แลนดิส อดีตเจ้าหน้าที่หน่วยสืบราชการลับผู้ดูแล แจ็กกี้ เคนเนดี ในวันเกิดเหตุ ได้เปิดเผยข้อมูลใหม่ว่า เขาเคยเก็บกระสุนจากรถลีมูซีนของประธานาธิบดี และนำไปวางไว้บนเปลของ JFK ที่โรงพยาบาล นี่เป็นข้อมูลที่ขัดแย้งกับรายงานเดิมที่ระบุว่า กระสุนนั้นถูกพบบนเปลของ จอห์น คอนนอลลี ผู้ว่าการรัฐเท็กซัส ซึ่งนั่งในรถคันเดียวกับ JFK ข้อมูลของแลนดิสสร้างความสั่นสะเทือนอย่างยิ่ง เพราะหากกระสุนดังกล่าวไม่ได้มาจากเปลของคอนนอลลี ก็อาจหมายความว่ามีมือปืนมากกว่าหนึ่งคน หรือการยิงไม่ได้เกิดขึ้นตามที่รายงานวอร์เรนระบุ
ขณะที่ โรเบิร์ต เอฟ. เคนเนดีจูเนียร์ ลูกชายของ โรเบิร์ต เคนเนดี และหลานชายของ JFK เชื่อว่า CIA มีส่วนเกี่ยวข้องกับการตายของ JFK ซึ่งเป็นข้อกล่าวหาที่หน่วยงานดังกล่าวได้ปฏิเสธว่าเป็นข้อมูลที่ไม่มีมูลความจริง ทั้งนี้โรเบิร์ต เคนเนดี จูเนียร์ ยังกล่าวว่าเขาเชื่อว่า โรเบิร์ต เคนเนดี พ่อของเขาถูกฆ่าด้วยมือปืนหลายคน ซึ่งเป็นการกล่าวที่ขัดแย้งกับคำกล่าวอ้างอย่างเป็นทางการด้วยเช่นกัน
การลอบสังหาร JFK ยังกลายเป็นแรงบันดาลใจในงานศิลปะ วรรณกรรม และภาพยนตร์จำนวนมาก หนังสือกว่า 40,000 เล่มเกี่ยวกับ JFK ถูกเขียนขึ้น ไม่ว่าจะเป็นงานวิชาการที่วิเคราะห์เหตุการณ์ ไปจนถึงนิยายที่จินตนาการถึงความเป็นไปได้ใหม่ๆ เช่น 11/22/63 ของ สตีเฟน คิง ที่เล่าเรื่องนักเดินทางข้ามเวลาที่พยายามหยุดการลอบสังหาร หรือภาพยนตร์ JFK ของ โอลิเวอร์ สโตน ที่เสนอทฤษฎีว่า CIA อาจเกี่ยวข้องกับการลอบสังหาร
การลอบสังหาร JFK จึงไม่ใช่แค่เหตุการณ์ในประวัติศาสตร์ แต่เป็นสัญลักษณ์ของปริศนาที่ไม่มีวันจบสิ่งนี้ทำให้ผู้คนทั่วโลกยังคงสนใจ และตั้งคำถามถึงความจริงที่ซ่อนอยู่ในเหตุการณ์ครั้งนี้ต่อไป
โดย ดาโน โทนาลี
โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น
1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์
2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี
3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี