ผู้ว่าการการทางฯ สุรเชษฐ์ เหล่าพูลสุข เเละเหล่านักวิ่ง Top100
เป็นอีกหนึ่งวันที่คนไทยหลายคนจะจดจำไปตลอดชีวิต กับงาน “เดิน-วิ่งลอยฟ้าสะพานทศมราชัน มหกรรมสุขเต็มสิบ” ซึ่งจัดขึ้นเพื่อเฉลิมฉลองการเปิดใช้งานสะพานทศมราชันอย่างเป็นทางการ โดยมีผู้เข้าร่วมกว่า 12,000 คนจากทุกมุมของประเทศและต่างประเทศ ที่รวมตัวกันเพื่อสร้างประวัติศาสตร์ในครั้งนี้ บรรยากาศตั้งแต่เช้าตรู่เต็มไปด้วยรอยยิ้ม ความสุข และพลังใจของทุกคนที่มุ่งหน้าสู่จุดเริ่มต้นบนสะพานอันยิ่งใหญ่
ในโอกาสพิเศษเช่นนี้ นายสุรเชษฐ์ เหล่าพูลสุขผู้ว่าการการทางพิเศษแห่งประเทศไทย (กทพ.) ได้เน้นย้ำถึงความสำคัญของสะพานทศมราชันและความร่วมแรงร่วมใจของคนไทย โดยกล่าวว่า “สะพานทศมราชันไม่ได้เป็นเพียงเส้นทางคมนาคมที่เชื่อมโยงพื้นที่ต่างๆ เข้าด้วยกัน แต่ยังเป็นสะพานแห่งพลังใจที่เชื่อมโยงคนไทยทุกคนเข้าด้วยกัน การเห็นประชาชนจากทั่วประเทศมาร่วมกิจกรรมในวันนี้ เป็นเครื่องพิสูจน์ถึงพลังแห่งความสามัคคีและความสุขที่เกิดขึ้นร่วมกัน”
คำนวน ชัยเขียว
ในงานนี้ ยังมีเรื่องราวความประทับใจจากนักวิ่งหลากหลายกลุ่มที่มาร่วมเป็นส่วนหนึ่งของประวัติศาสตร์ครั้งสำคัญ อย่างเช่น นายคำนวน ชัยเขียว นักวิ่งชายที่เข้าเส้นชัยคนแรก เล่าว่า “ผมรู้สึกเหมือนได้วิ่งอยู่บนสะพานที่ไม่ได้เป็นแค่ทางเดินแต่เป็นพลังใจที่ยิ่งใหญ่สำหรับคนไทยทุกคน ผมฝึกซ้อมมาอย่างหนักเพื่อวันนี้ และพอเข้าเส้นชัยได้ก่อนใคร มันเป็นความสำเร็จที่ทำให้ผมภูมิใจมาก เพราะไม่ใช่แค่ตัวเอง แต่ผมรู้สึกว่าผมได้เป็นส่วนหนึ่งของหน้าประวัติศาสตร์ที่สะพานแห่งนี้จะจารึกไว้”
ด้าน นางสาวซานตี้ พรประสิทธิ์ นักวิ่งหญิงที่เข้าเส้นชัยคนแรก ยิ้มอย่างภาคภูมิใจพร้อมเล่าว่า “การวิ่งในวันนี้ไม่ใช่การแข่งขันเพื่อเอาชนะใคร แต่เป็นการพิสูจน์ความตั้งใจของตัวเอง ฉันตั้งใจฝึกซ้อมอย่างหนักกับโค้ชและเพื่อนๆ เพื่อให้วันนี้เป็นวันที่ดีที่สุด และพอได้รู้ว่าตัวเองเป็นคนแรกที่เข้าเส้นชัย มันเหมือนความฝันที่เป็นจริง และสะพานแห่งนี้จะเป็นอีกหนึ่งความทรงจำที่ฉันจะไม่มีวันลืม”
ซานตี้ พรประสิทธิ์
บรรยากาศความสุขยังถูกเติมเต็มด้วยเรื่องราวของ นายณรงศักดิ์ ปัทมะสังข์ และลูกสาววัย 9 ขวบ ที่ร่วมวิ่งเคียงข้างกันตลอดระยะทาง 10 กิโลเมตร โดย นายณรงศักดิ์กล่าวด้วยน้ำเสียงภาคภูมิใจว่า “การวิ่งกับลูกเป็นสิ่งที่เราทำด้วยกันมาโดยตลอดแต่วันนี้มันพิเศษกว่าครั้งไหนๆ เพราะเราวิ่งบนสะพานที่เต็มไปด้วยความหมาย และเมื่อเห็นลูกเข้าเส้นชัยพร้อมรอยยิ้ม ผมรู้ว่าสิ่งที่เราฝึกซ้อมด้วยกันมามันคุ้มค่าเหลือเกิน”
ในส่วนของสีสันงานวิ่ง นายเจริญ สิกพันธ์ นักวิ่งในชุดแดงจากธีม Squid Game ผู้มีประสบการณ์วิ่งมาตั้งแต่อายุ 17 ปี เล่าด้วยความรู้สึกตื้นตันใจว่า “ผมเคยวิ่งเปิดสะพานพระราม 9 มาแล้วเมื่อ 37 ปีก่อน และวันนี้ผมรู้สึกเหมือนได้ย้อนกลับมาเติมเต็มความทรงจำอีกครั้ง สะพานทศมราชันเป็นเหมือนบทประวัติศาสตร์บทใหม่ที่ผมภูมิใจได้มาร่วมเป็นส่วนหนึ่ง และนี่อาจเป็นครั้งสุดท้ายที่ผมจะได้วิ่งเปิดสะพานแห่งใหม่ เพราะการสร้างสะพานในแต่ละครั้งไม่ใช่เรื่องง่ายเลย”
รงศักดิ์ ปัทมะสังข์ และลูกสาววัย 9 ขวบ
อีกหนึ่งจุดที่สะดุดตาคือ นายปรีดา กมลชัยวานิชนักวิ่งผู้ถือธงสถาบันพระมหากษัตริย์ ซึ่งเผยว่า “การวิ่งวันนี้คือการแสดงความเคารพต่อสิ่งที่ผมศรัทธา และเป็นโอกาสพิเศษที่ผมตั้งใจมาสร้างสีสันให้กับงาน ผมภูมิใจที่ได้วิ่งไปพร้อมกับธงนี้บนสะพานที่งดงามที่สุดในชีวิต”
ภายในงานยังได้รับเกียรติจากเหล่าศิลปินดารา เช่น อารดา อารยวุฒิ ดาร์ลิ่ง, เต๋า สมชาย เข็มกลัด, ต๊ะ พิภู พุ่มแก้วและลิลลี่ แม็คกร๊าธ เดียร์ ที่ร่วมสร้างความสุขและพลังบวกให้กับผู้เข้าร่วมงาน ท่ามกลางบรรยากาศอบอุ่นที่เต็มไปด้วยรอยยิ้มและเสียงหัวเราะ
สะพานทศมราชัน เปิดใช้งานอย่างเป็นทางการ ในวันที่ 29 มกราคม ที่ผ่านมา พร้อมรองรับการจราจร 8 ช่องทางและกลายเป็นสะพานข้ามแม่น้ำเจ้าพระยาที่กว้างที่สุดในประเทศไทย ด้วยเทคโนโลยีการก่อสร้างขั้นสูงที่ผสมผสานความเป็นไทยอย่างงดงาม สะพานแห่งนี้ไม่เพียงแค่เชื่อมโยงพื้นที่ แต่ยังเชื่อมโยงหัวใจของคนไทยทุกคนให้มารวมกันเป็นหนึ่งเดียว
โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น
1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์
2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี
3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี