ซิเนอร์เจีย แอนนิมอล เผยผลสำรวจล่าสุดจากเว็ปไซต์ Frontiers ชี้ให้เห็นว่ากว่า 67% ของผู้บริโภคชาวไทยมีแนวโน้มที่จะเลือกซื้อไข่จากฟาร์มที่เลี้ยงไก่แบบปลอดกรง พร้อมระบุว่า ผู้บริโภคชาวไทยยุคใหม่หันมาใส่ใจเรื่องสุขภาพและจะใส่ใจกับแหล่งที่มาและส่วนผสมของอาหารที่ดีต่อสุขภาพมากขึ้น การเลือก "ไข่ไก่อารมณ์ดี" ที่ได้จากไก่เลี้ยงแบบปลอดกรง จึงกลายเป็นเทรนด์ใหม่ที่ได้รับความนิยมอย่างมาก และการเลือกซื้อไข่ไก่อารมณ์ดียังเป็นการสนับสนุนการเลี้ยงสัตว์อย่างมีจริยธรรมอีกด้วย
ไข่ไก่อารมณ์ดี เกิดจากการเลี้ยงไก่ในสภาพแวดล้อมที่แม่ไก่สามารถมีอิสระ ต่างจากระบบกรงตับที่จำกัดการเคลื่อนไหวและก่อให้เกิดความเครียดแก่สัตว์ การเลี้ยงแบบปลอดกรงช่วยให้แม่ไก่ได้ใช้ชีวิตที่ดีกว่าในพื้นที่กว้างขวาง สามารถเดินเล่น กางปีก และแสดงพฤติกรรมตามธรรมชาติได้ การเลี้ยงแบบนี้ไม่เพียงแต่ส่งเสริมสวัสดิภาพสัตว์ แต่ยังสร้างระบบอาหารที่ยั่งยืนยังอีกด้วย
การก้าวสู่ระบบเลี้ยงไก่แบบปลอดกรงเป็นมากกว่าการเปลี่ยนแปลงวิธีการผลิต มันคือการยกระดับสวัสดิภาพสัตว์และสร้างมาตรฐานใหม่ให้กับอุตสาหกรรมอาหารไทย ด้วยจิตสำนึกที่ตื่นตัว ผู้บริโภคชาวไทยจำนวนมากขึ้นหันมาให้ความสำคัญกับกระบวนการผลิตอาหาร โดยเฉพาะอย่างยิ่งสวัสดิภาพของสัตว์ ผลสำรวจล่าสุดจากเว็ปไซต์ Frontiers (https://www.frontiersin.org/journals/animal-science/articles/10.3389/fanim.2022.995430/full) ชี้ให้เห็นว่ากว่า 67% ของผู้บริโภคชาวไทยมีแนวโน้มที่จะเลือกซื้อไข่จากฟาร์มที่เลี้ยงไก่แบบปลอดกรง[1] สะท้อนให้เห็นถึงความต้องการอาหารที่มีจริยธรรมที่เพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่อง
ซิเนอร์เจีย แอนนิมอล เป็นองค์กรพิทักษ์สัตว์สากลและผู้นำในการส่งเสริมสวัสดิภาพสัตว์ในประเทศไทย องค์กรไม่เพียงแต่ยกระดับคุณภาพชีวิตของสัตว์ในฟาร์มผ่านการวิจัยและการรณรงค์อย่างสงบ แต่ยังสร้างความตระหนักรู้ให้แก่ผู้บริโภคถึงความสำคัญของอาหารที่มีจริยธรรม และผลักดันให้เกิดการเปลี่ยนแปลงในภาคการเกษตร โดยเฉพาะการรณรงค์ให้เลี้ยงไก่แบบปลอดกรง ซึ่งเป็นการตอบโจทย์ทั้งในเชิงจริยธรรมและสุขภาพของผู้บริโภค
ศนีกานต์ รศมนตรี ผู้อำนวยการ ซิเนอร์เจีย แอนนิมอล ประเทศไทย กล่าวว่า "การเลี้ยงไก่แบบปลอดกรงคือการมอบสิ่งจำเป็นต่อสุขภาพและความเป็นอยู่ที่ดีต่อแม่ไก่ การผลักดันให้เกิดการเปลี่ยนแปลงสู่ระบบนี้ไม่เพียงแต่เป็นการดูแลคุณภาพชีวิตของสัตว์ แต่ยังเป็นการสร้างมาตรฐานใหม่ให้กับอุตสาหกรรมอาหารไทยที่ใส่ใจทั้งสวัสดิภาพสัตว์และนำไปสู่การสร้างระบบอาหารที่ยั่งยืน"
การเปลี่ยนแปลงสู่ระบบเลี้ยงไก่แบบปลอดกรงไม่เพียงแต่เป็นการแสดงความเมตตาต่อสัตว์เท่านั้น แต่ยังส่งผลดีต่อสุขภาพของแม่ไก่และความปลอดภัยของอาหารสำหรับผู้บริโภค การศึกษาพบว่า แม่ไก่ที่เลี้ยงแบบปลอดกรงมีความเครียดน้อยลง ลดปัญหาด้านกระดูกที่ก่อให้อาการเจ็บปวดได้ การเลี้ยงไก่แบบปลอดกรงจึงเป็นการลงทุนระยะยาวที่ส่งผลดีต่อทั้งสัตว์และมนุษย์ นอกจากจะช่วยลดความเสี่ยงในการเกิดโรคในสัตว์แล้ว ยังเป็นการสร้างระบบอาหารที่ยั่งยืนและปลอดภัยสำหรับทุกคน
ทั้งนี้ การรณรงค์ของซิเนอร์เจีย แอนนิมอล ได้จุดประกายให้บริษัทชั้นนำของไทยหันมาใส่ใจสวัสดิภาพสัตว์มากขึ้น โดยบริษัทชั้นนำหลายแห่ง เช่น Lotus’s, Zen Group, Sukishi และ Minor Food ได้ตัดสินใจเลือกใช้ไข่จากฟาร์มที่เลี้ยงไก่แบบปลอดกรง ซึ่งเป็นสัญญาณบ่งบอกถึงการเปลี่ยนแปลงครั้งสำคัญในอุตสาหกรรมอาหารไทย และสะท้อนให้เห็นถึงความต้องการของผู้บริโภคยุคใหม่ที่ใส่ใจทั้งสุขภาพ จริยธรรมและความยั่งยืนมากขึ้น
“เราขอเชิญชวนให้บริษัทชั้นนำและธุรกิจอื่นๆ ร่วมเป็นส่วนหนึ่งในการเปลี่ยนแปลงครั้งสำคัญเพื่อสร้างอนาคตที่ยั่งยืนในอุตสาหกรรมอาหารไทย ด้วยการนำนโยบายไข่ไก่ปลอดกรงมาใช้ การเปลี่ยนแปลงครั้งนี้ไม่เพียงแต่เป็นการให้เกียรติต่อสัตว์เท่านั้น แต่ยังเป็นการตอบสนองความต้องการของผู้บริโภคที่ใส่ใจสุขภาพและจริยธรรม และสร้างภาพลักษณ์ที่ดีให้กับแบรนด์อีกด้วย
นอกจากนี้ ในฐานะผู้บริโภค พวกเราทุกคนมีอำนาจในการเปลี่ยนแปลงโลกใบนี้ การเลือกซื้อไข่ไก่อารมณ์ดี คือการลงคะแนนเสียงสนับสนุนการเลี้ยงสัตว์อย่างมีมนุษยธรรม และเป็นการส่งสัญญาณไปยังอุตสาหกรรมอาหารว่าผู้บริโภคต้องการอะไร องค์กรของเราหวังว่า พวกเราสามารถใช้พลังของผู้บริโภคในการผลักดันให้เกิดการเปลี่ยนแปลงที่ยั่งยืนในอุตสาหกรรมอาหารได้”
-(016)
โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น
1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์
2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี
3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี