จากปัญหาการขาดแคลนบุคลากรทางการแพทย์ กระทรวงสาธารณสุขและสภาการพยาบาลได้พยายามแก้ปัญหาด้วยการผลิตบุคลากร “ผู้ช่วยพยาบาล”เข้ามาช่วยและแบ่งเบางานของพยาบาล แต่ปัญหานี้ก็ยังไม่คลี่คลายลงมากนัก เพราะอัตราส่วนพยาบาลต่อจำนวนประชากรยังคงเป็น 1 ต่อ 250 และตั้งเป้าหมายไว้ว่าภายในปี 2577 จะต้องผลิตบุคลากรเพิ่มให้มากขึ้น เพื่อให้อัตราส่วนพยาบาลต่อประชากรเป็น 1 ต่อ 200 ก็ตาม
โรงพยาบาลศิริราช ในฐานะโรงพยาบาลที่เป็นโรงเรียนแพทย์ นอกจากการผลิตแพทย์และพยาบาลให้กับวงการแพทย์แล้ว ยังได้เปิดหลักสูตรผู้ช่วยพยาบาลขึ้น เพื่อผลิตบุคลากรมาช่วยในส่วนงานของโรงพยาบาลศิริราชและสถานพยาบาลในเครือข่ายเอง โดยเป็นหลักสูตรการเรียนการสอนภายใต้การบริหารจัดการของคณะแพทยศาสตร์ศิริราชพยาบาล และจากความต้องการผู้ช่วยพยาบาล ทำให้เกิดเป็นความร่วมมือกับมูลนิธิเอสซีจีในการสนับสนุนทุนการศึกษาให้กับนักเรียนในหลักสูตรนี้มาตั้งแต่ปี 2563 จนถึงปัจจุบันที่ผ่านมามูลนิธิเอสซีจี สนับสนุนทุนการศึกษาให้เด็กและเยาวชนมาอย่างต่อเนื่อง โดยมุ่งเน้นการให้ทุนในสาขาที่ตอบโจทย์ความต้องการของประเทศตามแนวคิด Learn to Earn เรียนรู้ เพื่ออยู่รอดส่งเสริมให้เด็ก และเยาวชน ได้มีการพัฒนาทักษะและประสบการณ์ในสายอาชีพ ทั้งทักษะวิชาชีพและทักษะชีวิตอยู่ตลอดเวลา เพื่อให้สามารถใช้ชีวิตในโลกยุคที่มีการเปลี่ยนแปลงอย่างรวดเร็วได้อย่างยั่งยืนและมั่นคง เช่น การสนับสนุนทุนการศึกษาหลักสูตรประกาศนียบัตร “ผู้ช่วยพยาบาล”กับคณะแพทยศาสตร์ศิริราชพยาบาลมหาวิทยาลัยมหิดล จำนวน 179 ทุน เป็นงบประมาณกว่า 4 ล้านบาท
รศ.นพ.ตรีภพ เลิศบรรณพงษ์ รองคณบดีฝ่ายการศึกษาก่อนปริญญาคณะแพทยศาสตร์ศิริราชพยาบาล มหาวิทยาลัยมหิดล กล่าวว่า ในปัจจุบันเรายังขาดแคลนบุคลากรอยู่เป็นจำนวนมากแม้ว่าจะมีแผนเพิ่มอัตราการผลิตบุคลากรให้มากขึ้นแต่สถาบันที่ผลิตบุคลากรนั้นยังมีจำกัด แต่ละแห่งยังมีข้อจำกัดในขีดความสามารถในการผลิตบุคลากรในจำนวนที่จำกัดด้วย ในส่วนของศิริราชเองสามารถผลิตผู้ช่วยพยาบาลได้ปีละประมาณ 200 คน ซึ่งก็ไม่เพียงพอต่อความต้องการทั้งของภายในโรงพยาบาลและในตลาดแรงงาน ทำให้พยาบาลและผู้ช่วยพยาบาลในปัจจุบันต้องปฏิบัติหน้าที่อย่างหนักและทำงานมากกว่า10 ชั่วโมงต่อวัน
รัชนีพร ภัทรปกรณ์ หัวหน้าโรงเรียนผู้ช่วยพยาบาล กล่าวเสริมว่าโรงเรียนผู้ช่วยพยาบาลมุ่งสร้างผู้ช่วยพยาบาลที่มีความรู้ความสามารถ มีเจตคติที่ดีในการประกอบอาชีพผ่านการพัฒนาทักษะการเรียนรู้ตามหลักสูตรและเรียนรู้อย่างต่อเนื่อง เพื่อพัฒนาตนเองและทักษะที่จำเป็น เช่น ทักษะด้านการสื่อสาร ทักษะด้านภาษา และทักษะเรื่องการทำงานเป็นทีมเพราะในการทำงานจริง ผู้ช่วยพยาบาลจะต้องทำงานร่วมกับคนจำนวนมาก ต้องใช้ภาษาได้ดี และสื่อสารได้ดี เพื่อให้เป็นประโยชน์กับตัวผู้ป่วย เมื่อเข้ามาเรียนแล้วนักเรียนผู้ช่วยพยาบาลจะได้เรียนรู้เนื้อหาวิชาการที่จำเป็นและฝึกปฏิบัติในห้องผู้ป่วยจำลองโดยฝึกกับหุ่นและเพื่อนนักเรียนด้วยกัน ก่อนจะฝึกปฏิบัติกับคนไข้จริงหมุนเวียนไปฝึกกับผู้ป่วยในหลายแผนก เพื่อให้มีความรู้ความสามารถที่หลากหลาย เพราะการดูแลผู้ป่วยแต่ละเคสจะมีความแตกต่างกันไป โดยผู้ช่วยพยาบาลใช้เวลาเรียนเค่ 1 ปี จบมามีงานรองรับทันที
ด้าน สุวิมล จิวาลักษณ์ กรรมการและผู้จัดการ มูลนิธิเอสซีจี กล่าวว่า จากปัญหาการตกงานของนักเรียนทุนรวมถึงปัญหาการ mismatch ทำให้ทางมูลนิธิฯ ต้องปรับวิธีการให้ทุนการศึกษาใหม่ หันมาเน้นให้ทุนการศึกษาในหลักสูตรที่จบเร็ว ทำงานได้เร็ว และมุ่งเน้นส่งเสริมการเรียนรู้ตลอดชีวิตในส่วนของอาชีพผู้ช่วยพยาบาลที่ปัจจุบันเป็นที่ต้องการของตลาดแรงงานค่อนข้างสูงทั้งจากปัญหาการขาดแคลนพยาบาล และความต้องการผู้ช่วยพยาบาลมาดูแลผู้สูงอายุที่มีจำนวนเพิ่มมากขึ้นจากการเข้าสู่สังคมผู้สูงอายุของประเทศไทย การเรียนหลักสูตรผู้ช่วยพยาบาลจึงเป็นอีกหนึ่งอาชีพที่มูลนิธิฯเน้นให้การสนับสนุนและส่งเสริม ซึ่งสอดคล้องกับแนวคิด Learn to Earn เรียนรู้ เพื่ออยู่รอด ที่มุ่งเน้นส่งเสริมและพัฒนาทักษะให้สามารถอยู่รอดได้ในโลกยุคปัจจุบันที่มีการเปลี่ยนแปลงไปอย่างรวดเร็ว ทั้งนี้ มูลนิธิฯ ได้เริ่มสนับสนุนทุนการศึกษาในหลักสูตรผู้ช่วยพยาบาลกับทางศิริราชมาตั้งแต่ปี 2563 เริ่มจาก 23 คน จนถึงปัจจุบันรวมแล้ว 179 ทุนด้วยกัน และทุกคนมีงานทำ 100%
น้องน้ำผึ้ง ภัชราภรณ์ กาลเขว้า นักเรียนทุนมูลนิธิฯ (รุ่นปัจจุบัน) หลักสูตรผู้ช่วยพยาบาล กล่าวว่า ก่อนมาเรียนคิดว่าอาชีพผู้ช่วยพยาบาลไม่ได้มีความยุ่งยาก ไม่มีความซับซ้อน ทุกสิ่งที่เรียนมาในภาคทฤษฎีและการฝึกในหอผู้ป่วยจำลองนำมาใช้งานได้ทั้งหมดที่ฝึกมา เช่น การวัดค่าความดันก็ต้องรู้ว่าค่าปกติอยู่ที่เท่าไร หรือการเช็ดตัวให้ผู้ป่วยที่เป็นการเช็ดเพื่อทำความสะอาดกับการเช็ดตัวเพื่อลดไข้ จะมีวิธีการเช็ดที่แตกต่างกัน การแปรงฟันให้กับผู้ป่วย การจัดท่านอนให้กับผู้ป่วยพักฟื้นจากการผ่าตัดที่จะต้องนอนในท่าไหนจึงจะไม่เจ็บแผล ฯลฯ นอกจากนี้ ทุกทักษะยังมีความจำเป็นสำหรับการทำงานในอาชีพนี้อีกด้วย
โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น
1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์
2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี
3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี