“ให้ลูกเรียนที่ไหนดี” เป็นหนึ่งคำถามยอดฮิตที่พ่อแม่มักจะคิดดังๆ ตั้งแต่ลูกอยู่ในท้อง แน่นอนว่า พ่อแม่ย่อมต้องการเลือกสรรสิ่งที่ดีที่สุดให้กับลูกรัก เพราะเชื่อว่าหากส่งลูกไปเรียนในโรงเรียนที่ดี มีสิ่งแวดล้อมที่ดี มีสังคมเพื่อนที่ดี ทั้งคุณภาพชีวิตและอนาคตที่ดีของลูกคงอยู่ไม่ไกล ฉะนั้นการเลือกโรงเรียนแรกให้ลูกๆ จึงเปรียบเสมือนการเริ่มต้นจุดสตาร์ทเส้นทางการเรียนรู้ให้กับเด็กๆ พูดง่ายๆ คือ...เริ่มต้นดีก็มีชัยไปกว่าครึ่ง
ป๊อป-วรรณวรี ตะล่อมสิน ผู้มีความมุ่งมั่นที่จะยกระดับมาตรฐานการศึกษา โดยเฉพาะเด็กในช่วงปฐมวัย ตัดสินใจเปิดโรงเรียน ลิลเบอรี่ อินเตอร์เนชั่นแนล พรีสคูล (li’lberry International Preschool) ซึ่งเป็นสาขาของโรงเรียนอนุบาลนานาชาติจากสิงคโปร์ในประเทศไทย โดยใช้หลักสูตรการเรียนการสอนมาตรฐานเดียวกับ Mulberry Learning Singapore พร้อมนั่งเก้าอี้ผู้บริหาร
ป๊อป-วรรณวรี เล่าถึงเหตุผลที่มาตัดสินใจทำ li’lberry International Preschool ว่า เพราะสนใจเรื่องการศึกษามาตั้งแต่สมัยเรียนมหาวิทยาลัย อยากเห็นหลักสูตรการเรียนการสอนที่มีความยืดหยุ่นมากพอ ที่จะเตรียมพร้อมให้กับเด็กรุ่นใหม่ได้รับการพัฒนาทักษะที่จำเป็นสำหรับอนาคตที่มีการเปลี่ยนแปลงตลอดเวลาให้สามารถเติบโตได้อย่างเต็มที่ ในบรรยากาศที่สนับสนุนการเรียนรู้อย่างสร้างสรรค์ ประกอบกับพอมีลูกชายคนแรกได้ไปเรียนเกี่ยวกับจิตวิทยาเด็กหลายคอร์ส ทำให้รู้ตัวว่าตัวเองชอบและสนใจเรื่องพัฒนาการเด็กเล็กเป็นอย่างมาก จนกระทั่งเมื่อ 2 ปีที่แล้ว ได้มีโอกาสรู้จักโรงเรียน Mulberry Learning Singapore ในกลุ่มบริษัท Global Eduhub ของสิงคโปร์ ซึ่งเป็นโรงเรียนหลักสูตรนานาชาติที่เปิดมาตั้งแต่ ค.ศ. 2006 ทั้งหมด 27 สาขา ใน 5 ประเทศ และได้รับรางวัลระดับโลกต่างๆ มากมาย จึงได้เริ่มศึกษาข้อมูลเพิ่มเติม ทำให้พบว่าเป็นหลักสูตรที่ตอบโจทย์เป็นอย่างมาก จึงตัดสินใจนำหลักสูตรนี้มาเปิดในไทยเป็นสาขาแรก ภายใต้ชื่อ “li’lberry International Preschool”
“สำหรับโรงเรียนอนุบาลนานาชาติ li’lberry International Preschool ใช้หลักสูตรเดียวกับ Mulberry Learning Singapore คือ เรานำหลักสูตรทั้งหมดจากสิงคโปร์มาไว้ที่กรุงเทพฯ อย่างที่เราทราบกันดีว่าสิงคโปร์เป็นหนึ่งในประเทศที่มีระบบการศึกษาที่ดีที่สุดในโลก และให้ความสำคัญกับการเรียนรู้ในระดับเริ่มต้นเป็นอย่างมาก ซึ่งสอดคล้องเป้าหมายการเรียนการสอนของ li’lberry ที่เน้นการวางรากฐานและสนับสนุนให้เด็กมีชีวิตวัยเด็กที่มีความสุข พร้อมได้เรียนรู้ พัฒนาทักษะการคิด ปลูกฝังทัศนคติและคุณค่าเชิงบวก สร้างความทรงจำที่ดีและมีความหมายให้พวกเขา บ่มเพาะความมั่นใจและความกระตือรือร้น เพื่อที่เด็กๆ จะเติบโตไปเป็นประชากรที่มีคุณภาพและมีความใส่ใจต่อโลกรอบตัวเขา” ผู้บริหารโรงเรียน กล่าวเสริม
ป๊อป-วรรณวรี ยังกล่าวเสริมว่า สำหรับคุณพ่อคุณแม่ที่กำลังจะเลือกโรงเรียนอนุบาลให้ลูกในยุคนี้ จากงานวิจัยพบว่าวัยที่สำคัญที่สุดของชีวิตมนุษย์คนหนึ่ง คือช่วงอายุ 0-7 ขวบ และระดับการศึกษาที่สำคัญที่สุด คือ ระดับอนุบาล เพราะเป็นช่วงที่เป็นรากฐานของชีวิตของคนคนหนึ่งไปตลอดชีวิต การเลือกโรงเรียนอนุบาลจึงมีความสำคัญมาก ปัจจัยสำคัญที่สุด คือ ต้องเลือกโรงเรียนที่เข้าใจพัฒนาการของเด็ก สามารถหาและส่งเสริม the best version ในตัวเด็กคนหนึ่งได้ ปลูกฝัง เตรียมความพร้อม และสร้างภูมิต้านทานให้เด็กมี mindset ที่พร้อมจะเผชิญโลกหรือสิ่งใดๆ ก็ตามในอนาคต และอีกปัจจัยที่สำคัญในยุคนี้ คือ เรื่องภาษา เพราะภาษาสามารถเปิดโลกแห่งการเรียนรู้ได้ โดยเฉพาะภาษาอังกฤษและจีน
ด้าน ผศ.ดร.เพ็ญวรา ชูประวัติ อาจารย์ประจำสาขาวิชาบริหารการศึกษา คณะครุศาสตร์ จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย กล่าวเสริมถึงแนวทางการเลือกโรงเรียนอนุบาลให้ลูกน้อยว่า พ่อแม่ควรพิจารณาถึง หลักสูตรและแนวทางการสอนของโรงเรียนนั้นๆ เพื่อให้เหมาะกับสไตล์การเรียนรู้ของลูก ซึ่งหลักสูตรที่ดีควรส่งเสริมพัฒนาการทางสติปัญญา สังคม และอารมณ์ ผ่านการเรียนรู้แบบมีโครงสร้างและการเล่น ถัดมา คือ ความต้องการเฉพาะของเด็ก โรงเรียนควรมีการสนับสนุนด้านภาษา การศึกษาพิเศษ หรือการพัฒนาอารมณ์และสังคมในสภาพแวดล้อมที่เปิดกว้างและยอมรับความแตกต่าง รวมถึงการพัฒนาการทางสังคมและอารมณ์ เป็นหัวใจสำคัญเช่นกัน โรงเรียนที่ดีควรส่งเสริมความร่วมมือ การควบคุมอารมณ์ และการแก้ปัญหา โดยใช้วินัยเชิงบวกแทนการลงโทษ และ ที่สำคัญควรพิจารณาถึง คุณสมบัติและการปฏิสัมพันธ์ของครู เพราะมีผลต่อประสบการณ์ของเด็ก ครูควรได้รับการฝึกอบรม ใส่ใจ และให้การดูแลที่อบอุ่นเพื่อสร้างบรรยากาศการเรียนรู้ที่ดี นอกจากนี้ ขนาดชั้นเรียน สภาพแวดล้อม และความปลอดภัย ก็มีผลต่อการเรียนรู้ อัตราส่วนครูต่อนักเรียนที่เหมาะสม สถานที่ปลอดภัย และนโยบายสุขอนามัยที่ดีช่วยให้เด็กเรียนรู้อย่างมั่นใจ
“โรงเรียนควรมี หลักสูตรที่สมดุล พัฒนาทักษะครูอย่างต่อเนื่องสร้างสภาพแวดล้อมที่กระตุ้นการเรียนรู้ สนับสนุนความร่วมมือกับผู้ปกครอง และให้การดูแลเฉพาะบุคคล เพื่อตอบสนองความต้องการที่แตกต่างของเด็กเมื่อให้ความสำคัญกับปัจจัยเหล่านี้จะช่วยวางรากฐานที่มั่นคงสำหรับการเรียนรู้ตลอดชีวิต” ผศ.ดร.เพ็ญวรา กล่าว
สำหรับโรงเรียนอนุบาลนานาชาติ “li’lberry International Preschool” ตั้งอยู่บนถนนยานนาวา (ย่านพระราม 3) รองรับนักเรียนอายุ 18 เดือน-6 ปี ตั้งแต่ระดับชั้น Pre Nursery, Nursery, K1, K2, K3 เป็นโรงเรียนที่มุ่งสร้าง ecosystem เพื่อให้เด็กๆ อยู่ในสภาพแวดล้อมที่สนุกและมีความสุขกับการเรียนรู้ เน้นสอนเชิงวิชาการตามหลักสูตรของสิงคโปร์ อาทิ Literacy, Numeracy, Chinese, S.T.E.A.M Enrichment ผสานกับการเรียนรู้ผ่าน 3 แกนหลักสำคัญ คือ ปรัชญาเรกจิโอ เอมิเลีย (Reggio Emilia) การเรียนแบบ Project Inquiry และ Habits of Mind Framework สามารถรองรับนักเรียนได้สูงสุดถึง 200 คน พร้อมเปิดดำเนินการเทอมแรกในเดือนสิงหาคม 2025 นี้ สนใจดูรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่เว็บไซต์ www.lilberrypreschool.com, FB: Lilberry International Preschool
โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น
1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์
2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี
3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี