มหาวิทยาลัยคิงคาลิด (King Khalid University - KKU) ได้ประกาศความร่วมมือครั้งสำคัญกับโรงแรมชั้นนำระดับห้าดาวในประเทศไทย เพื่อริเริ่มและเปิดตัวโครงการฝึกงานครั้งแรกสำหรับนักศึกษาด้านการจัดการการท่องเที่ยวและการโรงแรม โครงการนี้สอดคล้องกับวิสัยทัศน์ Vision 2030 ของซาอุดีอาระเบีย ที่มีเป้าหมายในการดึงดูดนักท่องเที่ยว 100 ล้านคนต่อปีภายในปี 2030 และผลักดันให้ประเทศเป็นศูนย์กลางการท่องเที่ยวระดับโลก ณ อาซีร์ ซาอุดีอาระเบีย
ความร่วมมือนี้เป็นส่วนหนึ่งของ โครงการฝึกงานด้านการบริการในภาคการท่องเที่ยว (The Apprenticeship Program for Training in the Tourism Sector) เปิดตัวโดย กระทรวงการท่องเที่ยวซาอุดีอาระเบีย โดยมีเป้าหมายเพื่อพัฒนาทักษะและความเชี่ยวชาญของบุคลากรในอุตสาหกรรมการท่องเที่ยวและการโรงแรม โครงการนี้มอบโอกาสการฝึกอบรมภาคปฏิบัติให้แก่ผู้เข้าร่วม โดยทำงานร่วมกับสถาบันการบริการชั้นนำทั่วโลก เพื่อเสริมสร้างประสบการณ์จริงและการเปิดโลกทัศน์ระดับนานาชาติให้กับผู้ฝึกงาน เพื่อให้พวกเขาสามารถมีส่วนร่วมในการพัฒนาและขับเคลื่อนภาคการท่องเที่ยวในซาอุดีอาระเบียได้อย่างมีประสิทธิภาพ
ดร.เรฮัม มาชาต คณบดีคณะการท่องเที่ยวแห่ง KKU เปิดเผยว่า นักศึกษา 14 คนที่กำลังศึกษาด้าน การจัดการโรงแรมนานาชาติ และ การจัดการรีสอร์ทภูเขา จะเข้าร่วมโครงการฝึกงานเป็นเวลา 2 เดือนในประเทศไทย โดยโครงการนี้ได้รับการสนับสนุนจากรัฐบาลซาอุดีอาระเบียและกระทรวงการท่องเที่ยว มุ่งเน้นการมอบประสบการณ์การจัดการด้านการโรงแรมที่แท้จริงในประเทศไทย ซึ่งเป็นหนึ่งในจุดหมายปลายทางด้านการท่องเที่ยวที่มีชื่อเสียงระดับโลก โครงการนี้ยังมีจุดประสงค์เพื่อส่งเสริมความสัมพันธ์ที่ยั่งยืนระหว่างสองประเทศในภาคการท่องเที่ยว นักศึกษาที่ได้รับการคัดเลือกจะได้รับประสบการณ์จริงจากสถานที่สำคัญต่าง ๆ ทั้งในกรุงเทพฯ และภูเก็ต โดยมีการฝึกงานที่ โรงแรมอัล มีรอซ (Al Meroz Hotel) ในกรุงเทพฯ โรงแรมฮาลาลชั้นนำที่ให้บริการแก่นักท่องเที่ยวมุสลิม และที่ อมาธารา เวลเลย์เชอร์ รีสอร์ท (Amatara Welleisure™ Resort) ในภูเก็ต
องค์ประกอบสำคัญของโครงการนี้คือการร่วมมือกับ สยาม เซนส์เซส (Siam Senses) แบรนด์การบริหารจัดการธุรกิจบริการและโรงแรมชั้นนำในเครือ World Reward Solutions ด้วยความเชี่ยวชาญในการบริหารโรงแรมหรูและโรงแรมระดับกลาง สยาม เซนส์เซส จะมีบทบาทสำคัญในการทำให้โครงการประสบความสำเร็จโดยการให้นักศึกษาได้สัมผัสกับฟังก์ชันหลักด้านการโรงแรม การบริการแขก และการฝึกอบรมด้านวัฒนธรรมภายในบริบทของการท่องเที่ยวไทย
นอกจากนี้ โครงการยังเน้นความสำคัญของ อาซีร์ (Aseer) ซึ่งเป็นหนึ่งในพื้นที่ที่กำลังพัฒนาอย่างรวดเร็วในซาอุดีอาระเบีย และเป็นศูนย์กลางของกลยุทธ์การเติบโตด้านการท่องเที่ยวของประเทศ ด้วยการลงทุนอย่างต่อเนื่องจากรัฐบาลเพื่อพัฒนาโครงสร้างพื้นฐาน การท่องเที่ยวเชิงนิเวศ และมรดกทางวัฒนธรรม อาซีร์จึงพร้อมที่จะกลายเป็นจุดหมายปลายทางการท่องเที่ยวที่เปิดต้อนรับผู้มาเยือนตลอดทั้งปี ด้วยภูมิทัศน์ที่งดงาม สภาพอากาศที่เย็นสบาย และมรดกทางวัฒนธรรมที่ล้ำค่า
ในอนาคต มหาวิทยาลัยคิงคาลิด และรัฐบาลซาอุดีอาระเบีย วางแผนที่จะขยายโครงการฝึกงานนี้ โดยตั้งเป้าส่งนักศึกษากว่า 400 คนเข้าร่วมการฝึกงานในประเทศไทยภายในปี 2026 ความร่วมมือนี้คาดว่าจะช่วยเสริมสร้างความสัมพันธ์ระหว่างสองประเทศ ขณะที่ทั้งซาอุดีอาระเบียและไทยมุ่งสู่การเป็นผู้นำในอุตสาหกรรมการท่องเที่ยวระดับโลก
การบริหารและประสานงานด้านโลจิสติกส์ของโครงการฝึกงานในประเทศไทยจะดำเนินการโดย World Reward Group เพื่อให้นักศึกษาได้รับประสบการณ์ฝึกอบรมในสถานที่จริงอย่างราบรื่น ด้วยการสัมผัสอุตสาหกรรมการท่องเที่ยวที่พัฒนาแล้วของไทย โครงการนี้ไม่เพียงแต่เป็นประโยชน์ต่อนักศึกษาที่เข้าร่วม แต่ยังวางรากฐานสำหรับความร่วมมืออย่างต่อเนื่องระหว่างสองประเทศในด้านต่าง ๆ เช่น การบริการ การบริหารจุดหมายปลายทาง และการพัฒนาการท่องเที่ยวอย่างยั่งยืน
ในขณะที่ซาอุดีอาระเบียเดินหน้าสู่การบรรลุวิสัยทัศน์ Vision 2030 ความร่วมมือกับประเทศไทยครั้งนี้สะท้อนถึงความมุ่งมั่นของราชอาณาจักรในการพัฒนาภาคการท่องเที่ยวอย่างยั่งยืน และสร้างผู้นำรุ่นใหม่ที่จะช่วยยกระดับภาคการบริการและการเดินทางของประเทศ โดยมีสยาม เซนส์เซส และพันธมิตรหลักอื่น ๆ เป็นส่วนสำคัญที่จะช่วยขับเคลื่อนการเติบโตและนวัตกรรมในอุตสาหกรรมการท่องเที่ยวของทั้งสองประเทศในระยะยาว
038
โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น
1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์
2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี
3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี